xs
xsm
sm
md
lg

แฉแก๊งมอดจำนำข้าว เวียนเทียน11ล้านตัน-ถลุง5แสนล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (30ม.ค.) นายเกียรติ สิทธิอมร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน นายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก ซึ่งเป็นทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เกี่ยวกับปัญหาการทุจริตโครงการจำนำข้าว ร่วมกันแถลงถึงปัญหาจากโครงการรับจำนำข้าว โดยนายเกียรติ กล่าวว่าโครงการดังกล่าวได้สร้างภาระงบประมาณ 5 แสนล้านบาทต่อปี และมีความเสียหายเกิดขึ้นปีละ 2.3 แสนล้านบาท ซึ่งพรรคได้ชี้ให้เห็นว่า มีกระบวนการทุจริตอย่างมากมายในการจำนำข้าว และความเสียหายเกิดกับภาระงบประมาณของประเทศ แต่เกษตรกรไม่ได้รับเงินในราคาจำนำ 1.5 หมื่นบาท และ 2 หมื่นบาท
ทั้งนี้ รายงานของกระทรวงเกษตรฯ ยอมรับว่าเกษตรกรได้รับเงินเพียงแค่ 9 พันกว่าบาท สำหรับข้าวเจ้า และ 1.4 หมื่นบาท สำหรับข้าวหอมมะลิ
นอกจากนี้ยังพบว่าข้อมูลที่กระทรวงพาณิชย์แจกจ่ายต่อสาธารณะ ยังคลาดเคลื่อนต่อความจริง พรรคจึงจัดทำหนังสือชื่อ “รู้ลึก รู้จริง โกงจำนำข้าว” จำนวน 5 พันเล่ม เพื่อประมวลข้อเท็จจริงทั้งหมดที่นำเสนอในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยทำให้เกิดความเข้าใจง่าย เพราะกระบวนการคอร์รัปชันเป็นไปอย่างซับซ้อน มีบุคคลเกี่ยวข้องหลายกลุ่ม และยังโยงใยไปถึงบุคคลต่างๆ ที่กำกับดูแลโครงการนี้ด้วย โดยเคยหวังว่าหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว รัฐบาลจะมีการปรับปรุงโครงการ แต่รัฐบาลกลับเดินหน้าด้วยวิธี และกระบวนการเดิม ที่จะสร้างความเสียหายกับประเทศ กระทบถึงสถานะการคลังของประเทศ และยังกระทบไปถึงการประเมินความน่าเชื่อถือของไทยด้วย เพราะสถาบันจัดอันดับความเชื่อถือของประเทศต่างๆ ก็ได้หยิบยกปัญหาจากโครงการนี้ไปเป็นปัจจัยในการตัดสินด้วย ซึ่งประเมินว่าหากรัฐยังดำเนินการเช่นนี้ต่อไป ประเทศไทยอาจถูกลดความน่าเชื่อถือ และเกิดความเสียหายอย่างรุนแรงต่อฐานะการคลัง และเศรษฐภิจในภาพรวมของประเทศ
นายเกียรติ กล่าวด้วยว่า หนังสือ รู้ลึก รู้จริง โกงจำนำข้าว เป็นการสะท้อนไปถึงรัฐบาล เพื่อให้เห็นถึงปัญหาและเร่งรีบแก้ไข ซึ่งทางพรรคได้ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบสืบสวนหาข้อเท็จจริงควบคู่ไปด้วย ทั้งนี้เห็นว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ที่จะต้องให้ข้อเท็จจริงกับประชาชน ในเรื่องการระบายข้าวแบบจีทูจี จะมาอ้างว่าเป็นความลับไม่ได้ เพราะหลังจากลงนามในสัญญาแล้ว รัฐบาลต้องเปิดเผย แต่เมื่อรัฐบาลยังไม่มีการเปิดเผย อาจเป็นเพราะไม่มีการซื้อข้าวจริงตามที่รัฐบาลกล่าวอ้าง นอกจากนี้ยังพบว่า มีการเวียนเทียนถึง 11 ล้านตัน ในระบบการรับจำนำข้าวด้วย
นพ.วรงค์ กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลเคยบอกว่าจะแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับการตรวจสอบการระบายข้าวแบบจีทูจี ซึ่งฝ่ายค้านเคยอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว แต่กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ จึงเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เร่งรัดในเรื่องนี้ด้วย และในวันพรุ่งนี้จะไปให้ข้อมูลกับ ป.ป.ช.ในสามประเด็นคือ
1. กรณีการระบายข้าวแบบจีทูจี ไม่โปร่งใส แต่เป็นการขายเพื่อเวียนเทียนในประเทศ ผ่านไอ้ปาล์ม และไอ้โจในฐานะบริษัท และตัวบุคคล
2 .กรณีรัฐบาลพัวพันการฟอกเงินในโครงการระบายข้าว ซึ่งจะมอบเอกสารเกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงินให้กับ ป.ป.ช. เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน ตีแผ่ให้สังคมรับรู้ว่า รัฐบาลขายข้าวพัวพันกับกระบวนการฟอกเงิน
3. การระบายข้าวของรัฐบาลมี ไอ้ปาล์ม ไอ้โจ ซึ่งเป็นเด็กในบ้านอยู่ในกระบวนการที่ใหญ่พอสมควรโดยจะเปิดเผยต่อ ป.ป.ช. เพราะเป็นข้อมูลลับ
ด้านนายอาคม กล่าวถึงปัญหาเซอเวเยอร์ว่า เป็นการตรวจเฉพาะขาเข้า ขาออกไม่ตรวจ มีการนำข้าวคุณภาพต่ำเข้าไปสวม และยังมีปัญหาเรื่องการเช่าโกดังมาเก็บข้าว โดยเจ้าของโกดังไม่ต้องรับผิดชอบคุณภาพข้าว ซึ่ง ป.ป.ช.เคยเตือนไปสองครั้งแล้ว ว่าให้รัฐบาลทบทวน เพราะไม่มีที่ไหนในโลกที่รัฐบาลเป็นทั้งพ่อค้า และผู้ส่งออก ทำให้เกิดความเสียหาย
นอกจากนี้ยังพบปัญหาข้าวล้นโกดัง มีการเช่าโกดังร้างมาเก็บข้าว ทำให้ข้าวเสื่อมคุณภาพ ซึ่งจะเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง และผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร รวมถึงอีกหลายจังหวัดยอมรับว่า มีการนำข้าวต่างประเทศเข้ามาสวมสิทธิ ทำให้เกิดความเสียหาย พร้อมตั้งข้อสังเกตกรณีที่หลายจังหวัดเกิดไฟไหม้โกดังเก็บข้าว ของรัฐบาลด้วย
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์กล่าวถึงประเด็นที่รัฐบาลยังไม่ยอมแถลงผลงานในขณะนี้ โดยยื้อไปหลังการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ว่า เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะนำประเด็นที่ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ไปพันกับเรื่องการเมือง ทั้งที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับการปฏิบัติ ตามรัฐธรรมนูญมากกว่าการมองประโยชน์ส่วนตัวทางการเมือง จากการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และยังเชื่อว่ารัฐบาลคงกลัวว่าจะถูกแฉเรื่องการทุจริตเพิ่มเติม โดยเฉพาะเรื่องโครงการจำนำข้าว หรือ จีทูเจี๊ยะ ภาคสอง เป็นเรื่องที่รัฐบาลเป็นห่วง รวมทั้งการทุจริตอื่นๆ ซึ่งยังเดินหน้าอย่างไม่หยุด เป็นแผลใหญ่ของรัฐบาล ที่ทำให้รัฐบาล ไม่กล้าแถลงผลงาน จึงพยายามยื้อไปหลังการเลือกตั้งผู้ว่า กทม.ยอมแลกกับความเสี่ยงว่าไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ เพราะต้องการปิดหู ปิดตาคนกรุงเทพมหานคร
กำลังโหลดความคิดเห็น