xs
xsm
sm
md
lg

“เหลิม”ร้อนตัว"ไอ้ปื้ด!!" พฐ.จำลองวิถีกระสุนยิง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"เหลิม" ร้อนตัว อ้างถูกแขวะ"ไอ้ปื๊ด" ยิง ASTV บอกเป็นคนขี้ปอด ไม่ใจร้าย "นายกฯปู"ทำขึงขัง เร่งผบช.น. ติดตามจับกุมมือยิง ด้านเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จำลองสถานการณ์วิถีกระสุนของคนร้าย "ผบก.น.1"สันนิษฐาน คนร้ายอาจนั่งรถ หรือเดินมาก่อเหตุ ขณะที่กล้องวงจรปิดภาพไม่ชัด ยังออกหมายจับไม่ได้

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คนร้ายลอบยิงรถข่าวสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ว่่า อย่ามาแขวะตน ถ้าตนเป็นผู้ทำจริงแล้วจะได้ประโยชน์อะไรกลับมา ทำเป็นมาแขวะถึงไอ้ปึ๊ด ทำให้สังคมสับสน

" เอาอย่างนี้ผมพูดตรงๆคำว่าสื่อถูกคุกคาม และสื่อมันมีกี่ที่ ไทยรัฐ มติชน ข่าวสด ประชาชาติ กรุงเทพธุรกิจ เดลินิวส์ บางกอกโพสต์ ไทยโพสต์ โพสต์ทูเดย์ เนชั่น แล้วสื่อเหล่านั้นเขามีปัญหาไหม"

เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นตำรวจมือปราบเก่า คิดว่าคดีนี้จะละลายน้ำไหม ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ละลายน้ำหรอก ตนได้เชิญพล.ต.อ.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มาคุยเรื่องนี้ แต่มันสืบยาก เพราะโจทก์มันเยอะ แล้วฉบับอื่นเขามีใครโดนบ้างล่ะ ก็นี่แหละ เอเอสทีวี และตนไม่เคยคิดร้ายกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งเครือเอเอสทีวีผู้จัดการ

เมื่อถามว่าเป็นเพราะเอเอสทีวี เสนอความจริงเกินไปหรือเปล่า ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า แล้วฉบับอื่นไม่เสนอความจริงหรืออย่างไร แล้วเขาขายได้กี่ฉบับ เมื่อถามว่าสื่อที่นำเสนอความจริงแล้วเจอโจมตีแบบนี้บ่อยๆ จะทำอย่างไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ว่าใครโดน ก็ต้องสืบสวนจับกุมกันไป

"ผมกับสนธิรักกันนะ ผมไม่คิดร้ายกับท่านหรอก ไอ้ที่ออกมาแถลงข่าว ผมเห็นมาตั้งแต่นุ่งขาสั้น แล้วไปแขวะไอ้ป้ง ไอ้ปื๊ด ไม่มี ไร้สาระ"

เมื่อถามว่า ทำไมถึงคิดว่าเป็นไอ้ปึ๊ด ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ก็ตอนที่ลูกตนมีเรื่องครั้งหนึ่ง แล้วไอ้ปึ้ดไปมอบตัวว่าเป็นคนยิง แล้วตำรวจไม่รับ ก็ดำเนินคดีลูกตน แต่ศาลก็ยกฟ้อง ความจริงเอเอสทีวี ควรทบทวนตัวเองด้วยว่า เพราะอะไรถึงเป็นแบบนี้ คนอื่นไม่เห็นโดน บางครั้งอย่ามองคนอื่น ต้องหันมามองตัวเราด้วย

เมื่อถามว่าอเอสทีวี ก็ได้ออกแถลงการณ์มาแล้วว่า จุดยืนคือการนำเสนอความจริง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า แล้วฉบับอื่นไม่นำเสนอความจริงหรือ หนังสือพิมพ์เมืองไทยก็ด่าไป ตนถูกด่ามากที่สุด เอเอสทีวีด่าตนตั้งแต่ยังไม่มีตำแหน่ง ฝ่ายค้านก็ด่า

เมื่อถามว่าอย่างนี้ถ้าใครไม่พอใจสื่อไหน ก็ไปยิงกันแบบนี้ง่ายๆหรือ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มี ใครจะรู้ว่าเรื่องอะไร เรื่องการเมืองหรือเปล่า กระทบกระทั่งกับใคร

"ตอนที่สนธิถูกยิงตอนนั้นก็ยังจับไม่ได้ ก็ยังไม่รู้ ไม่มีหรอก ผมไม่ใจไม้ไส้ระกำ และไอ้ธิ เพื่อนกัน ไปบอกด้วย เรียกผมไอ้เหลิม ไอ้ธิ คบกันมาตั้งแต่ปี 17"

เมื่อถามว่าคดียังไม่มีความคืบหน้ามันเงียบแบบนี้ แสดงว่าผู้รักษากฎหมายไม่มีฝีมือหรือว่า มีผู้อิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้อง

"ไม่มีอะไร คดีเกิดขึ้นจับได้หมด แต่มันต้องแคบๆ ถ้ามันศัตรูเยอะ ตำรวจก็สืบยาก แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ผู้บัญชาการก็ไปดูที่เกิดเหตุ ผมยืนยันไม่เคยคิดร้ายกับนายสนธิ ถ้าพรรคพวกนายสนธิคิดแบบนั้น ผิด คิดผิด และสนธิ ก็รู้ว่าผมเป็นคนขี้ปอด ขี้กลัวจะตาย ไปไหนมาไหนกลัว ไม่ใจร้ายหรอกผม แต่จริงๆหนูไปบอกสนธิ จากเพื่อนรักถึงเพื่อนรัก "

ผู้สื่อข่าวจึงบอกให้พูดผ่านสื่อ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า " ก็ฝากหนูไปคุยหน่อยสิ ว่าเอ๊ะทำไมถึงเจอแต่เอเอสทีวีอย่างเดียว ก็ดูสิ อยู่ๆก็ถูกยิงร้อยกว่านัด เดี๋ยวระเบิดลง เดี๋ยวอะไรต่ออะไร แล้วคนอื่นทำไมไม่มี ก็เห็นหลายฉบับก็ด่ารัฐบาล ผมก็ถูกด่าตลอด ก้านหูมันดับ เวลาเดินมันเอียงก็ด่าว่าผมเมาตลอด เมาจะทำงานดีอย่างนี้หรือ" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว ก่อนจะเดินไป ได้หันกลับมาถามผู้สื่อข่าว เอเอสทีวี ผู้จัดการ ว่า " เอ๊ะ สนธิก็รู้ดีว่ารักกัน ผมไม่ทำหรอก" ผู้สื่อข่าวจึงถามกลับทันทีว่า ถ้ารักกันก็นัดทานข้าวกันไหมคะ ก่อนร.ต.อ.เฉลิม จะตอบกลับมาว่า เขาไม่กินกับผมนะสิ ต้องนัดผ่านนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ตอนนี้ “non change”

**"ปู"ขึงขัง เร่งผบช.น.ล่ามือยิง

ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมครม.ถึงเรื่องนี้ว่า เมื่อรู้ข่าวก็เสียใจกับเหตุการณ์ ขอเรียนว่าไม่ว่าใคร เราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น และได้ย้ำทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้เร่งดำเนินการตรวจสอบ และหาผู้ที่กระทำความผิดโดยเร็ว อันนี้ถือเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องติดตามอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถือเป็นการคุกคามสื่อหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ต้องดูว่าเหตุผลอะไร อย่างไร ซึ่งเราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้โดยเฉพาะกับสื่อมวลชน จริงๆ แล้วก็ทุกคนด้วย เพราะทุกคนอยากอยู่ด้วยความปลอดภัย ก็ต้องทำหน้าที่ในการติดตามให้เต็มที่

**ตร.ตรวจวิถีกระสุน

วานนี้ เวลา 03.30 น. พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ชนะสงคราม ร่วมกันตรวจสอบรถข่าวเอเอสทีวี ที่ถูกคนร้ายยิง 4 คัน ซึ่งจอดอยู่หน้าบ้านเจ้าพระยา ถ.พระอาทิตย์ แขวงวัดชนะสงคราม เขตพระนคร กทม. โดยคันแรก รถโตโยต้า อัลติส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ญษ 4978 กทม. ถูกยิงที่กระจกหน้ารถ 1 นัด, คันที่ 2 รถโตโยต้าอัลติส สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ฌง 6125 กทม. ถูกยิงเข้าที่กระจกหน้ารถ 1 นัดเช่นกัน ถัดไปบริเวณหน้าสวนสาธารณะสันติชัยปราการ, คันที่ 3 รถโตโยต้าอัลติส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฌง 6121 กทม. ถูกยิงที่กระจกประตูหน้าฝั่งคนขับ ทะลุกระจกประตูหน้าฝั่งซ้าย 1 นัด และคันสุดท้าย รถโตโยต้าอัลติส สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ฌษ 4976 กทม. ถูกยิงเข้าที่กระจกประตูหน้าฝั่งคนขับ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้นำอุปกรณ์ต่างๆ ทั้ง ขาตั้งกล้อง เครื่องวัดองศา เลเซอร์ มาช่วยคำนวณในการวัดหาระดับการยิงวิถีกระสุนเพื่อดูว่าคนร้ายจะใช้การนั่งยิงหรือยืนยิง

พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ เปิดเผยว่า การมาตรวจสอบในช่วงเวลาแบบนี้เพื่อจะดูความมืดสว่างตามสถานการณ์จริง และวิถีกระสุนเป็นอย่างไร ส่วนผู้ต้องสงสัยยังไม่ตัดทิ้ง ทั้งบุคคลที่เดินเท้าหรือบุคคลที่นั่งรถมา ซึ่งถ้าเดินมาอาจลงมือเพียงคนเดียวแต่ถ้าหากนั่งรถมาอาจมีมากกว่า 1 คนก็เป็นได้

พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์กล่าวอีกว่า ทางกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้อาวุธปืนยิงมาจากบริเวณหน้าทางเข้าชุมชนตรอกเขียนนิวาสน์ ตรอกไก่แจ้ แต่ลักษณะการยิงอาจจะยิงมาจากบนรถยนต์ รถกระบะ ริมถนน หรือบนฟุตปาธ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น รวมถึงจากการตรวจสอบพบร่องรอยกระสุน 7 นัด ซึ่งเป็นไปได้ทั้งปืนสั้นหรือปืนยาว ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานเสียก่อน อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งทิ้งได้เลย

** ภาพไม่ชัด ยังออกหมายจับไม่ได้

ด้าน พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รองผบช.น. กล่าวถึงความคืบหน้าว่าได้ทำการสอบปากคำพยานแวดล้อมเกือบครบแล้ว และล่าสุด นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ผู้บริหารสำนักข่าว ASTV ก็มาสอบปากคำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่แล้วเช่นกัน รวมทั้ง การสอบปากคำรปภ.และพนักงานร้านอาหารบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ ก็ให้การตรงกันว่าได้ยิงเสียงดังแป๊ะๆ เท่านั้นโดยไม่ได้ยินเสียงดังคล้ายปืน กระทั่งตำรวจมาอยู่ในที่เกิดเหตุจึงทราบว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น สำหรับคนร้ายลงมือก่อเหตุอาจเป็นฝ่ายตรงข้ามหรือเป็นการสร้างสถานการณ์ขึ้นมาหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถสรุปได้

พล.ต.ต.ปริญญา กล่าวอีกว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ได้จำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจุดเกิดเหตุเพื่อตรวจสอบช่วงเวลาที่เกิดเหตุว่ามีแสงไฟส่องสว่างมากน้อยแค่ไหน ความเคลื่อนไหวของประชาชนที่ใช้ชีวิตในย่านดังกล่าวเป็นอย่างไร นอกจากนี้ คนร้ายน่าจะยิงปืนจากจุดใดและลักษณะการยิง อาทิ เดินไปยิงไป หรือหยุดอยู่กับที่แล้วรัวยิงทีเดียว ซึ่งต้องรอผลตรวจจากพฐ. ว่าวิถีกระสุนเป็นอย่างไร รวมทั้งกระสุนเป็นขนาดใด แต่คาดว่าน่าจะเป็นกระสุนปืนขนาด.22

“ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิด สามารถจับภาพชายต้องสงสัยไว้ได้แล้ว ยังจับภาพรถแท็กซี่และรถจยย. ที่ผ่านมาในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ติดต่อคนขับรถแท็กซี่มาให้ปากคำได้เพียงคนเดียว โดยให้การว่าขับรถมาส่งชาวต่างชาติแล้วหลงทางอยู่ในบริเวณดังกล่าว สำหรับคนที่ขับรถจยย.ใกล้เวลาเกิดเหตุยังไม่สามารถติดตามตัวมาสอบปากคำได้ อย่างไรก็ตาม ชายต้องสงสัยตามภาพวงจรปิดยังไม่ได้มีขออนุมัติศาลออกหมายจับ เนื่องจากภาพที่ได้มายังไม่ชัดเจนและไม่ เห็นแสงไฟที่ปรากฏออกมาจากปลายกระบอกอาวุธปืน แต่ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามบ้านเรือนของประชาชนบริเวณโดยรอบเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมต่อไป" พล.ต.ต.ปริญญา กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น