xs
xsm
sm
md
lg

คุกคามสื่อ! มือมืดบุกยิงรถข่าว ASTV 4 คันรวด

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


มือมืดบุกยิงรถข่าว ASTV 4 คันรวดขณะจอดอยู่บริเวณหน้าบ้านเจ้าพระยา และสวนสันติชัยปราการ แถมยังยิงกระจกสำนักบริหาร ASTV อีก 2 นัด พบกล้องวงจรปิดจับภาพชายต้องสงสัยใส่เสื้อสีดำกางเกงสีขาวไว้ได้ ด้าน ผบช.น.ลั่นจับคนก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้

วันนี้ (26 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ร.ต.ท.นภสินธิ์ ปิยะรัฐ พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงพราม รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่รถข่าว ASTV ที่จอดอยู่หน้าบ้านเจ้าพระยา ถ.พระอาทิตย์ แขวงวัดชนะสงคราม เขตพระนคร กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 พ.ต.อ.คณิตชัย มหินทรเทพ ผกก.สส.บก.น.1 พ.ต.อ.จักรภพ สุคนธราช ผกก.สน.ชนะสงคราม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.น.1 สน.ชนะสงคราม และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.)

ที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนหน้าบ้านเจ้าพระยา ที่ตั้งของสำนักข่าวเครือ ASTV พบรถยนต์ที่เป็นรถข่าว ASTV ถูกยิงได้รับความเสียหาย 2 คัน คันแรกเป็นรถโตโยต้าอัลติส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ญษ 4978 กทม. ซึ่งเป็นรถข่าวสายเศรษฐกิจ ถูกยิงที่กระจกหน้ารถ 1 นัด คันที่ 2 เป็นโตโยต้าอัลติส สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ฌง 6125 กทม. รถข่าวสายอาชญากรรม ถูกยิงเข้าที่กระจกหน้ารถ 1 นัด

ห่างกันประมาณ 15 เมตร บริเวณหน้าสวนสาธารณะสันติชัยปราการ ยังพบรถข่าว ASTV ถูกยิงได้รับความเสียหายอีก 2 คัน เป็นรถโตโยต้าอัลติส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฌง 6121 กทม. รถข่าวสายการเมือง ถูกยิงที่กระจกประตูหน้าฝั่งคนขับ ทะลุกระจกประตูหน้าฝั่งซ้าย 1 นัด และอีกคันจอดติดกันเป็นรถโตโยต้าอัลติส สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ฌง 6124 กทม. เป็นรถข่าวสายกีฬา ถูกยิงเข้าที่กระจกประตูหน้าฝั่งคนขับ หัวกระสุนฝังอยู่ในรถ ในที่เกิดเหตุไม่พบปลอกกระสุน เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะใช้ปืนลูกโม่ขนาด .22 มม.

จากการสอบสวนนายรุ่งโรจน์ ขาวประเสริฐ อายุ 34 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ป้อมหน้าทางเข้าบ้านเจ้าพระยา ให้การว่า ตนเข้าเวรกลางคืนตั้งแต่เวลา 19.00 น.ถึง 07.00 น. และเมื่อคืนที่ผ่านมาตนก็จัดระเบียบจอดรถข่าวริมถนนชิดบาทวิถีเนื่องจากที่จอดด้านในเต็ม จึงต้องให้รถข่าว 4 คันจอดด้านนอก โดยมีรถของชาวบ้านจอดรวมอยู่ด้วย ซึ่งก็จอดกันเป็นปกติทุกวัน ที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาอะไร กระทั่งเวลาประมาณ 03.25 น.ขณะที่ตนกำลังจะไปเข้าห้องน้ำ จึงให้เพื่อน รปภ.อีกคนมาอยู่ที่ป้อมหน้าทางเข้าแทน ระหว่างที่กำลังเดินไปเข้าห้องน้ำได้ยินเสียงคล้ายปืนดังขึ้น 4 นัด ระยะห่างกันไม่กี่วินาที

“ตอนนั้นผมไม่ได้เอะใจอะไร เนื่องจากเมื่อคืนก่อนก็มีเจ้าหน้าที่มาติดตั้งป้ายจราจร ผมก็ไปเข้าห้องน้ำแล้วกลับมาเข้าเวรตามปกติ กระทั่งตอนผมจะออกเวรตอนเช้าประมาณ 07.00 น. และทีมนักข่าวก็จะเอารถไปทำงานก็มาพบว่ารถข่าวถูกยิงได้รับความเสียหาย จากนั้นก็ประสานคนที่เกี่ยวข้องแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ” นายรุ่งโรจน์กล่าว


ภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นชายแต่งกายใส่เสื้อสีดำกางเกงสีขาว เดินเอื่อยๆ อยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามบ้านเจ้าพระยาเมื่อเวลา 03.26 น. 42 วินาที ใกล้กับบริเวณป้ายรถประจำทาง


เวลา 03.26 น. 52 วินาที กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพรถข่าวโตโยต้าของเอเอสทีวีที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้ามถูกกระสุนปืนยิงเข้าบริเวณด้านหน้ารถด้านคนขับอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของบ้านเจ้าพระยา สามารถจับภาพชายต้องสงสัยได้ 1 ราย โดยเป็นชายแต่งกายใส่เสื้อสีดำกางเกงสีขาว เดินเอื่อยๆ อยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามบ้านเจ้าพระยาเมื่อเวลา 03.26น. 42 วินาที ใกล้กับบริเวณป้ายรถประจำทาง จากนั้นเวลา 03.26 น. 52 วินาที กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพรถข่าวโตโยต้าของเอเอสทีวีที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้ามถูกกระสุนปืนยิงเข้าบริเวณด้านหน้ารถด้านคนขับอย่างชัดเจน

ต่อมาเวลา 03.28 น. ภาพจากล้องวงจรปิดก็จับภาพชายต้องสงสัยคนเดิมเดินผ่านกลับมาแล้วเดินเข้าตรอกข้างบ้านพระอาทิตย์ โดยตรอกดังกล่าวสามารถทะลุไปยังถนนหลายแห่งในย่านบางลำพู

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบว่า อาคารอนุรักษ์ ซึ่งเป็นสำนักบริหารของ ASTV ที่กระจกชั้น 2 ของอาคารถูกยิงกระจกแตกอีก 2 นัด เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบและเก็บหลักฐาน

ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบมูลเหตุที่เกิดขึ้น ต้องรอพูดคุยซักถามกับทางASTV ก่อนว่าตั้งประเด็นหรือปมไว้แบบไหนอย่างไรบ้าง ยังมองประเด็นกว้างๆ ทั้งเรื่องความขัดแย้งส่วนตัว ประเด็นการสร้างสถานการณ์ หรือการก่อเหตุของมือที่ 3 ส่วนจะเป็นการคุกคามสื่อหรือไม่นั้นต้องหารือกับทาง ASTV ก่อน

“ขอยืนยันว่าจะทำงานอย่างเต็มที่และจับคนก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ ขณะเดียวกันได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่คลี่คลายคดี พร้อมกับตรวจสอบกล้องวงจรปิดของ กทม.อีกหลายตัวในที่เกิดเหตุ เพราะอาจจะเห็นผู้ต้องสงสัยชัดเจนมากกว่านี้ ส่วนอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุน่าจะเป็นขนาด .22 มม. เพราะเป็นปืนขนาดเล็ก สังเกตได้จากรูกระสุน ประกอบกับเสียงพยานที่เป็น รปภ.บอกว่าได้ยินไม่ชัดเจน เสียงค่อนข้างเบา ดัง 4 ครั้ง ส่วนรูกระสุนที่ชั้น 2 ของอาคารก็น่าจะเป็นเหตุการณ์เดียวกัน” ผบช.น. กล่าว


ผู้ต้องสงสัยเดินจากด้านซ้ายบน พอดีกับจังหวะที่รถทางด้านขวาบนถูกกระสุนเจาะด้านหน้ากระจกรถ

















กำลังโหลดความคิดเห็น