“คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย” ออกแถลงการณ์ประณามทหารตบเท้าบุกผู้จัดการ ชี้คุกคามสื่อมวลชนอย่างรุนแรง ไม่เคารพเสรีภาพสื่อตามรัฐธรรมนูญ ส่วนกรณีเสนอข่าวถ้าไม่พอใจก็ไปฟ้องร้องดำเนินคดี ไม่ใช่เหตุเอาทหารไปกดดัน จี้ “ประยุทธ์” สั่งหยุดพฤติกรรมคุกคามสื่อ และหยุดอ้างเกียรติยศศักดิ์ศรีทหารคุกคามเสรีภาพประชาชน
วันนี้ (12 ม.ค.) คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ออกแถลงการณ์เรื่อง ขอประณามกองกำลังทหารที่คุกคามหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ กดดันให้สื่อในเครือเอเอสทีวีออกมาขอโทษ ระบุว่า ตามที่ปรากฏว่าเมื่อวานและวันนี้ได้มีกองกำลังทหารในสังกัดกองทัพบก จำนวนประมาณ 50-100 คน ได้ชุมนุมหน้าสำนักพิมพ์ผู้จัดการ บ้านพระอาทิตย์ โดยอ้างว่ามาแสดงพลังไม่เห็นด้วยที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการได้เสนอข่าวสารเกี่ยวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ด้วยถ้อยคำที่ไม่สุภาพ โดยอ้างว่าเป็นการหมิ่นศักดิ์ศรีและเรียกร้องให้สื่อในเครือเอเอสทีวีผู้จัดการได้ออกมาขอโทษ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ดังเป็นที่รับทราบแล้วนั้น คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ขอแถลงท่าทีและข้อเรียกร้องต่อกรณีดังกล่าวดังนี้
1. เราขอประณามการเคลื่อนไหวของกองกำลังทหารที่หน้าสำนักพิมพ์ผู้จัดการโดยอ้างว่า หนังสือพิมพ์ผู้จัดการเสนอข่าวเกี่ยวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ด้วยถ้อยคำไม่สุภาพ เป็นการหมิ่นศักดิ์ศรีและเรียกร้องให้สื่อในเครือเอเอสทีวีผู้จัดการออกมาขอโทษ การกระทำเช่นนี้นั้น ถือได้ว่าเป็นการคุกคามสิทธิเสรีภาพของสื่อสารมวลชนอย่างรุนแรง ทั้งนี้เพราะหากทหารเห็นว่าการนำเสนอข่าวดังกล่าวไม่เคารพศักดิ์ศรีของพวกท่าน ก็สามารถไปฟ้องร้องตามกระบวนการยุติธรรมเยี่ยงอารยะประเทศ ซึ่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับก็ต้องรับผิดชอบต่อการนำเสนอข่าวสารของตนตามกฎหมายอยู่แล้ว ไม่ใช่หน้าที่ของทหารที่ออกมากดดันเหมือนประเทศเป็นเผด็จการ
2. เราขอยืนยันว่า “เสรีภาพของสื่อ คือ เสรีภาพของประชาชน” การที่ทหารใช้กองกำลังมากดดันหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ในครั้งนี้ จึงเท่ากับเป็นการคุกคามเสรีภาพของประชาชนเช่นกัน พฤติกรรมดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการไม่เคารพรัฐธรรมนูญ อันเป็นหลักสูงสุดในการปกครองประเทศ โดยเฉพาะมาตรา 45 ที่บัญญัติว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์การโฆษณาและการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น
“การห้ามหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนอื่นเสนอข่าวสาร หรือแสดงความคิดเห็นทั้งหมด หรือบางส่วน หรือการแทรกแซงด้วยวิธีการใดๆ เพื่อลิดรอนเสรีภาพตามมาตรานี้ จะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายซึ่งได้ตราขึ้นตามวรรคสอง”
3. เราเห็นว่า การนำเสนอข่าวและการแสดงความคิดเห็นทางสาธารณะของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการดังกล่าวนั้นเป็นการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในการรายงานข่าวสารให้ประชาชนรับทราบ เป็นเสรีภาพของสื่อมวลชน จึงไม่ใช่เหตุที่ทหารจะนำกำลังมากดดัน เพื่อให้สื่อออกมาขอโทษตามความต้องการของตน หากทหาร หรือ ผบ.ทบ.ไม่พอใจ ก็ควรไปฟ้องร้องดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม เพราะหากเราปล่อยให้การกระทำเช่นนี้ดำรงอยู่ในสังคมไทย ต่อไปการตรวจสอบทางสังคมและการดำเนินการตามกฎหมาย ก็จะไม่มีความหมาย ไม่มีศักดิ์สิทธิ์ เมื่อไหร่ที่ทหารไม่พอใจใคร ก็จะใช้กำลังออกมาคุกคามตามอำเภอใจ ไม่ยึดกฎหมาย ทำลายกระบวนการยุติธรรม
ท้ายที่สุด ครป.ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการให้ผู้ใต้บังคับชาหยุดพฤติกรรมคุกคามสื่อมวลชน หยุดอ้างเกียรติยศศักดิ์ศรีของทหาร มาคุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชน โปรดเคารพกระบวนการยุติธรรม ด้วยการนำทหารกลับกรมกอง กลับไปทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างแท้จริง
ด้วยความเชื่อมั่นในสิทธิเสรีภาพของประชาชน แถลงโดย นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย 12 มกราคม 2556