ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย ร่อนแถลงการณ์ประณามกองกำลังทหารคุกคาม นสพ.ผู้จัดการ กดดันสื่อในเครือ “เอเอสทีวี” ขอโทษ ผบ.ทบ. ชี้ผิด รธน.มาตรา 45 ชัดเจน จี้ “ประยุทธ์” สั่งหยุดพฤติกรรมเถื่อน ให้ทหารกลับกรมกองทำหน้าที่ปกป้อง ปชต.ของชาติอย่างแท้จริง
วันนี้ (12 ม.ค.) คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) โดยนายสุริยันต์ ทองหนูเอียด เลขาธิการฯ ได้ออกแถลงการณ์ประณามกองกำลังทหารที่คุกคามหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ กดดันให้สื่อในเครือ “เอเอสทีวี” ออกมาขอโทษ ผบ.ทบ. โดยระบุว่า ตามที่กองกำลังทหารในสังกัดกองทัพบก จำนวนประมาณ 50-100 นาย ได้เดินทางไปชุมนุมหน้าสำนักพิมพ์ผู้จัดการ บ้านพระอาทิตย์ 2 ครั้ง (11 และ 12 ม.ค.56) โดยอ้างว่า มาแสดงพลังไม่เห็นด้วยที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการได้เสนอข่าวสารเกี่ยวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกด้วยถ้อยคำที่ไม่สุภาพ เป็นการหมิ่นศักดิ์ศรี และเรียกร้องให้สื่อในเครือ “เอเอสทีวีผู้จัดการ” ออกมาขอโทษ พล.อ.ประยุทธ์ นั้น
คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) เห็นว่า การกระทำของกลุ่มทหารเป็นการคุกคามสิทธิเสรีภาพของสื่อสารมวลชนอย่างรุนแรง เพราะหากทหารเห็นว่าการนำเสนอข่าวดังกล่าวไม่เคารพศักดิ์ศรีของพวกท่าน ก็สามารถไปฟ้องร้องตามกระบวนการยุติธรรมเยี่ยงอารยประเทศ ซึ่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับก็ต้องรับผิดชอบต่อการนำเสนอข่าวสารของตนตามกฎหมายอยู่แล้ว ไม่ใช่หน้าที่ของทหารที่ออกมากดดันเหมือนประเทศเป็นเผด็จการ
ครป.ขอยืนยันว่า “เสรีภาพของสื่อ คือ เสรีภาพของประชาชน” การที่ทหารใช้กองกำลังมากดดันหนังสือพิมพ์ผู้จัดการในครั้งนี้ เท่ากับเป็นการคุกคามเสรีภาพของประชาชนเช่นกัน พฤติกรรมดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการไม่เคารพรัฐธรรมนูญ อันเป็นหลักสูงสุดในการปกครองประเทศ โดยเฉพาะมาตรา 45 ที่บัญญัติว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น
“การห้ามหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนอื่นเสนอข่าวสาร หรือแสดงความคิดเห็นทั้งหมด หรือบางส่วน หรือการแทรกแซงด้วยวิธีการใดๆ เพื่อลิดรอนเสรีภาพตามมาตรานี้จะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายซึ่งได้ตราขึ้นตามวรรคสอง”
ซึ่งการนำเสนอข่าว และการแสดงความคิดเห็นทางสาธารณะของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เป็นการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในการรายงานข่าวสารให้ประชาชนรับทราบ เป็นเสรีภาพของสื่อมวลชน จึงไม่ใช่เหตุที่ทหารจะนำกำลังมากดดัน เพื่อให้สื่อออกมาขอโทษตามความต้องการของตน หากทหาร หรือ ผบ.ทบ.ไม่พอใจ ก็ควรไปฟ้องร้องดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม
แถลงการณ์ ครป.ยังระบุด้วยว่า หากเราปล่อยให้การกระทำเช่นนี้ดำรงอยู่ในสังคมไทย ต่อไป การตรวจสอบทางสังคม และการดำเนินการตามกฎหมายก็จะไม่มีความหมาย ไม่มีศักดิ์สิทธิ์ เมื่อไหร่ที่ทหารไม่พอใจใครก็จะใช้กำลังออกมาคุกคามตามอำเภอใจ ไม่ยึดกฎหมาย ทำลายกระบวนการยุติธรรม
ครป.ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก สั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาหยุดพฤติกรรมคุกคามสื่อมวลชน หยุดอ้างเกียรติยศศักดิ์ศรีของทหาร มาคุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชน เคารพกระบวนการยุติธรรม ด้วยการนำทหารกลับกรมกอง กลับไปทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างแท้จริง
วันนี้ (12 ม.ค.) คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) โดยนายสุริยันต์ ทองหนูเอียด เลขาธิการฯ ได้ออกแถลงการณ์ประณามกองกำลังทหารที่คุกคามหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ กดดันให้สื่อในเครือ “เอเอสทีวี” ออกมาขอโทษ ผบ.ทบ. โดยระบุว่า ตามที่กองกำลังทหารในสังกัดกองทัพบก จำนวนประมาณ 50-100 นาย ได้เดินทางไปชุมนุมหน้าสำนักพิมพ์ผู้จัดการ บ้านพระอาทิตย์ 2 ครั้ง (11 และ 12 ม.ค.56) โดยอ้างว่า มาแสดงพลังไม่เห็นด้วยที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการได้เสนอข่าวสารเกี่ยวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกด้วยถ้อยคำที่ไม่สุภาพ เป็นการหมิ่นศักดิ์ศรี และเรียกร้องให้สื่อในเครือ “เอเอสทีวีผู้จัดการ” ออกมาขอโทษ พล.อ.ประยุทธ์ นั้น
คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) เห็นว่า การกระทำของกลุ่มทหารเป็นการคุกคามสิทธิเสรีภาพของสื่อสารมวลชนอย่างรุนแรง เพราะหากทหารเห็นว่าการนำเสนอข่าวดังกล่าวไม่เคารพศักดิ์ศรีของพวกท่าน ก็สามารถไปฟ้องร้องตามกระบวนการยุติธรรมเยี่ยงอารยประเทศ ซึ่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับก็ต้องรับผิดชอบต่อการนำเสนอข่าวสารของตนตามกฎหมายอยู่แล้ว ไม่ใช่หน้าที่ของทหารที่ออกมากดดันเหมือนประเทศเป็นเผด็จการ
ครป.ขอยืนยันว่า “เสรีภาพของสื่อ คือ เสรีภาพของประชาชน” การที่ทหารใช้กองกำลังมากดดันหนังสือพิมพ์ผู้จัดการในครั้งนี้ เท่ากับเป็นการคุกคามเสรีภาพของประชาชนเช่นกัน พฤติกรรมดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการไม่เคารพรัฐธรรมนูญ อันเป็นหลักสูงสุดในการปกครองประเทศ โดยเฉพาะมาตรา 45 ที่บัญญัติว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น
“การห้ามหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนอื่นเสนอข่าวสาร หรือแสดงความคิดเห็นทั้งหมด หรือบางส่วน หรือการแทรกแซงด้วยวิธีการใดๆ เพื่อลิดรอนเสรีภาพตามมาตรานี้จะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายซึ่งได้ตราขึ้นตามวรรคสอง”
ซึ่งการนำเสนอข่าว และการแสดงความคิดเห็นทางสาธารณะของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เป็นการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในการรายงานข่าวสารให้ประชาชนรับทราบ เป็นเสรีภาพของสื่อมวลชน จึงไม่ใช่เหตุที่ทหารจะนำกำลังมากดดัน เพื่อให้สื่อออกมาขอโทษตามความต้องการของตน หากทหาร หรือ ผบ.ทบ.ไม่พอใจ ก็ควรไปฟ้องร้องดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม
แถลงการณ์ ครป.ยังระบุด้วยว่า หากเราปล่อยให้การกระทำเช่นนี้ดำรงอยู่ในสังคมไทย ต่อไป การตรวจสอบทางสังคม และการดำเนินการตามกฎหมายก็จะไม่มีความหมาย ไม่มีศักดิ์สิทธิ์ เมื่อไหร่ที่ทหารไม่พอใจใครก็จะใช้กำลังออกมาคุกคามตามอำเภอใจ ไม่ยึดกฎหมาย ทำลายกระบวนการยุติธรรม
ครป.ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก สั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาหยุดพฤติกรรมคุกคามสื่อมวลชน หยุดอ้างเกียรติยศศักดิ์ศรีของทหาร มาคุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชน เคารพกระบวนการยุติธรรม ด้วยการนำทหารกลับกรมกอง กลับไปทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างแท้จริง