ผบช.น.เชื่อมือยิงรถข่าวเอเอสทีวีไม่น่าใช่ฝีมือกลุ่มทหารที่เคยตบเท้าไปที่หน้าสำนักงานเอเอสทีวีผู้จัดการ เตรียมเรียกสอบปากคำ รปภ.ในคืนวันเกิดเหตุ และขอข้อมูลผู้บริหาร ยังไม่ชี้ชัดเป็นการคุกคามสื่อ
วันนี้ (27 ม.ค.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายบุกยิงรถข่าวของสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีได้รับความเสียหายจำนวน 4 คัน บริเวณหน้าบ้านเจ้าพระยา พร้อมกับยิงกระจกสำนักงานในเครือของเอเอสทีวีจนได้รับความเสียหาย เมื่อกลางดึกวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งตรวจสอบและได้ตรวจดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนีเพื่อนำมาประกอบ อีกทั้งได้สั่งการให้ชุดสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่หาข่าวเพื่อแกะรอยคนร้ายอย่างใกล้ชิดแล้ว
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายยิงมาจากฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุ ซึ่งจะต้องสอบสวน รปภ.ของเอเอสทีวีว่า เหตุใดขณะเกิดเหตุจึงไม่มีใครได้ยินเสียงปืน นอกจากนี้ อยากให้ทางผู้บริหารของเอเอสทีวีให้ข้อมูลสำคัญ เพราะหากเป็นการคุกคามสื่อก็จะต้องดูว่าคนที่ได้รับผลกระทบจากการถูกสื่อโจมตี คือใครบ้าง และกลุ่มใดมีศักยภาพพอที่จะก่อเหตุแบบนี้ ส่วนจะเป็นคนมีสีหรือไม่นั้น ตนยังไม่ทราบ เพราะหากไปโยงเรื่องที่ทหารเคยตบเท้าไปที่หน้าสำนักข่าวในเครือเอเอสทีวี-ผู้จัดการ ตนเองคิดว่าระดับผู้บังคับบัญชาไม่ทำแบบนี้แน่ ดังนั้นจะต้องดูในหลายๆ ประเด็น เพราะหากโจทย์ที่เจ้าหน้าที่ตั้งไว้ผิด ก็จะตอบผิดไปด้วย
ด้าน พ.ต.อ.คณิศร์ชัย มหินทรเทพ ผกก.สส.บกน.1 ระบุว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ตรวจสอบภาพจากล้องวงจรปิดในบริเวณดังกล่าวอย่างละเอียด แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าภาพจากกล้องวงจรปิด ใครคือผู้ต้องสงสัย รวมทั้งที่ระบุว่าเห็นชายคนหนึ่งเดินวนเวียนไปในที่เกิดเหตุ ก็ยังระบุไม่ได้ว่าเป็นคนกระทำ ส่วนหัวกระสุนปืนจะเป็นชนิดไหนนั้น ต้องรอผลตรวจพิสูจน์ จาก กองพฐ.ก่อน และคดีดังกล่าวยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นคดีทางการเมืองหรือไม่อย่างไร