ผกก.สน.ชนะสงคราม ยังไม่ฟันธงชายชุดดำ กางเกงขาว ในวงจรปิดเป็นคนลงมือยิงรถข่าว ASTV หรือไม่ ชี้เบื้องต้นเป็นแค่ผู้ต้องสงสัย ยังไม่สามารถออกหมายจับได้ พร้อมกับส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวตรอกไก่แจ้ แกะรอยผู้ต้องสงสัยที่เดินหายเข้าไปในซอย ลั่นเตรียมพร้อมจำลองเหตุการณ์วิถีกระสุนคืนนี้ ด้านเจ้าหน้าที่อาคารเข้าให้ปากคำ ตร.เบื้องต้นประเมินความเสียหายรถเช่า 4.5 หมื่นบาท
วันนี้ (28 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.จักรภพ สุคณธราช ผกก.สน.ชนะสงคราม กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายบุกยิงรถข่าวของสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ได้รับความเสียหายจำนวน 4 คัน บริเวณหน้าบ้านเจ้าพระยา พร้อมกับยิงกระจกอาคารอนุรักษ์ภายในเครือของเอเอสทีวี จนได้รับความเสียหาย เมื่อกลางดึกวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนได้รายงานความคืบหน้าคดีดังกล่าวต่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.แล้ว โดยทางผู้บังคับบัญชาได้สั่งให้ติดตามคดีอย่างกระชั้นชิด หลังจากรายงานความคืบหน้าเสร็จสิ้น ตนได้เรียกประชุมร่วมกันกับฝ่ายสืบสวน กก.สส.บช.น. กก.สส.บก.น.1 และฝ่ายสืบสวน สน.ชนะสงคราม เพื่อเร่งรัดติดตามความคืบหน้าคดี โดยได้แบ่งงานให้ทางฝ่ายสืบสวน บก.สส.บช.น. และ กก.สส.บก.น.1 ลงพื้นที่โดยรอบจุดเกิดเหตุเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม รวมถึงไล่ภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณซอยที่คนร้ายใช้หลบหนีไปจนถึงปากซอยถนนใหญ่อีกฝั่งที่ทะลุออกถนนพระอาทิตย์ ส่วนฝ่ายสืบสวน สน.ชนะสงคราม จะให้ลงพื้นที่ในชุมชนภายในซอยตรอกไก่แจ้ ซึ่งจากภาพพบว่าผู้ต้องสงสัยได้เดินหลบหายเข้าไปยังซอยดังกล่าว เพื่อหาการข่าวจากแหล่งที่พักในชุมชนตามบ้านเรือน เกสต์เฮาส์ และห้องเช่าต่างๆ
พ.ต.อ.จักรภพกล่าวอีกว่า ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดที่เห็นชายต้องสงสัยนั้น จากการตรวจสอบพบว่า ภาพที่ได้จากกล้องยังไม่ชัดเจน ซึ่งคาดว่าคนในภาพที่เห็นเป็นชายใส่เสื้อสีดำ กางเกงสีขาว อาจจะเป็นเพียงบุคคลต้องสงสัยเท่านั้น เพราะยังไม่มีหลักฐานว่าเป็นคนร้ายหรือไม่ จึงยังไม่สามารถขอศาลออกหมายจับได้ ซึ่งจะต้องติดตามตัวมาสอบปากคำเสียก่อน อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานไปแล้วทั้งหมด 12 ปาก ประกอบด้วย รปภ.4 ปาก คนขับรถที่ถูกยิงรวม 4 ปาก แม่ค้า 2 ปาก และพยานแวดล้อมอีก 2 ปาก ซึ่งทั้งหมดให้การตรงกันว่าก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงคล้ายประทัด หรือเสียงปืน จำนวน 4 ครั้ง และดังติดต่อกัน แต่ก็ไม่มีใครพบเห็นคนร้าย หรือบุคคลต้องสงสัยแต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนคอยประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเพื่อเร่งรัดติดตามผลตรวจพิสูจน์อีกด้วย พร้อมกับให้เดินทางไปยังบ้านเจ้าพระยา เพื่อขอสอบปากคำเพิ่มเติมในส่วนของผู้ดูแลอาคาร และบริษัทรถเช่าทำข่าวที่ได้รับความเสียหาย จำนวน 4 คัน ในบ่ายวันนี้ (28 ม.ค.) ทั้งนี้ เวลาประมาณ 03.00 น.คืนนี้ (29 ม.ค.) หรือตามเวลาจริงในคืนที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ชนะสงคราม จะเดินทางไปจำลองภาพเหตุการณ์จริงยังจุดเกิดเหตุ เพื่อนำมาเป็นแนวทางการสืบสวนและเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 28 ม.ค. นายชาญนริศ หัสวรชัย เจ้าหน้าที่ฝ่ายอาคารของบริษัทเอเอสทีวีผู้จัดการ จำกัด เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.จักรภพ สุคณธราช ผกก.สน.ชนะสงคราม พ.ต.ท.ณัฐกร คุ้มทรัพย์ รอง ผกก.สส. เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีดังกล่าว โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นนายชาญนริศเปิดเผยว่า ในวันนี้ได้เดินทางมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องอาคาร และสถานที่บริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งถูกกระสุนปืนยิงทะลุกระจกด้านนอกแตกเข้ามาทะลุด้านในอีกบาน ทำให้เสียหายจำนวน 2 บาน โดยเบื้องต้นได้ประเมินมูลค่าความเสียหายไว้ที่ประมาณ 45,000 บาท ส่วนกรณีรถข่าวของเอเอสทีวีที่เสียหายจำนวน 4 คันนั้น เบื้องต้นได้ประสานไปยังบริษัท แอดวานซ์ โกลบอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ทางสถานีได้ทำการเช่ารถยนต์ไว้ เพื่อมาทำการประเมินมูลค่าความเสียหายอย่างละเอียดอีกครั้งว่าจะประเมินมูลค่าความเสียหายของรถยนต์ที่เสียหายทั้งหมดเป็นเงินจำนวนเท่าใดต่อไป แต่ทางบริษัทรถเช่าได้ทำประกันรถไว้ ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของทางประกันชดใช้ตามความเสียหาย