"นพดล" แจงแทน "โอ๊ค" รับคำท้าปชป. ไม่นิรโทษกรรมพ่อตัวเอง มั่นใจในความบริสุทธิ์ อ้างยังไม่ได้ถาม"แม้ว" ตั้งแง่กลับมาสู้คดีในกระบวนการยุติธรรมปกติ ไม่ใช่กระบวนการยุติธรรมหลังการรัฐประหาร ชี้ภาพ"นายกฯปู" ฉีกยิ้มร่วมงาน"ป๋าเปรม" ยังไม่เกิดความปรองดอง เหตุความขัดแย้งบ้านเมืองลึกเกินกว่าการเดินส่งยิ้มตามงาน
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวถึงกรณีนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายพ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาท้าให้ พรรคประชาธิปัตย์รับคำท้า กรณีให้มีการนิรโทษกรรมผู้มาร่วมชุมนุมทางการเมืองทุกสีเสื้อที่ทำผิดกฎหมายและถูกจับกุม ยกเว้นพ.ต.ท.ทักษิณ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ว่า เป็นเจตนาที่ดีในการแสดงความจริงใจ นายพานทอง แท้คิดว่าควรนิรโทษกรรมพี่น้องประชาชนที่มาร่วมชุมนุมทางการเมือง ไม่ควรให้ถูกจำคุก จึงเสนอนิรโทษกรรมให้ผู้ร่วมชุมนุมทุกฝ่าย ยกเว้น พ.ต.ท.ทักษิณ นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ อีกทั้งนายพานทองแท้มั่นใจว่าพ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ จากคดีที่ดินรัชดาอยู่แล้ว
นายนพดลกล่าวด้วยว่า เมื่อเทียบลักษณะข้อกล่าวหาของ นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ในคดีที่ดินรัชดา มันต่างกันราวฟ้ากับเหว ส่วนตัวหวังว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะรับคำท้าด้วยดี ลูกย่อมมั่นใจความบริสุทธิ์ของพ่อ ก็เลยแสดงออกมา เป็นการพูดเพื่อหาทางออกให้ประเทศ เราควรมาเริ่มต้นกันใหม่ หรือ Set Zero หรือไม่ พี่น้องที่มาชุมนุมทั้งเสื้อเหลือง เสื้อแดง ไม่ได้ก่ออาชญากรรมอะไร เพียงความเห็นทางการเมืองต่างกัน ควรได้รับการนิรโทษกรรม ทั้งนี้ ส่วนตัวเห็นด้วยว่าไม่ควรปฏิบัติกับคนกลุ่มนี้อย่างอาชญากร ควรให้เขามาร่วมพัฒนาชาติไทย พรรคประชาธิปัตย์ ก็อย่าเพิกเฉย เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร ควรเสนอความเห็นออกมา
เมื่อถามว่าได้คุยเรื่องนิรโทษกรรมกับ พ.ต.ท.ทักษิณหรือยัง นายนพดล กล่าวว่า ยังไม่ได้คุย เข้าใจว่าท่านอยู่ระหว่างการเดินทาง แต่เดาว่า ท่านก็พร้อมพิสูจน์อยู่แล้ว คดีความที่เกิดหลังรัฐประหารยังคาใจอยู่ ละเมิดหลักนิติรัฐขอกลับมาพิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรมปกติ ได้หรือไม่
นายนพดล กล่าวด้วยว่า ท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ยังยืนยันว่านิรโทษกรรมได้ไม่มีปัญหา เพียงแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องได้รับโทษก่อนนั้น ตรงนี้เป็นปัญหาที่พรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาธิปัตย์ มีจุดยืนแตกต่างกันชัดเจน เรามองว่า คดีหลังการรัฐประหาร การตั้งบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์อย่าง คตส. มาตรวจสอบพ.ต.ท.ทักษิณ เรารับไม่ได้ แต่ประชาธิปัตย์ เห็นว่าคดีมายังไงก็ได้ รับได้ ซึ่งเห็นต่างกันตรงนี้ ถ้ายังเห็นต่างกัน ก็คุยกันลำบาก ทั่วโลกมองว่าคดีหลังรัฐประหาร ทำลายหลักนิติธรรม มิชอบด้วยกฎหมาย แต่พรรคประชาธิปัตย์กลับมองว่า ชอบแล้ว ดูแต่ปลายน้ำ ทั้งที่ต้องดูต้นน้ำ กลางน้ำด้วย กระบวนการตรวจสอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งคนอย่างนายแก้วสรร อติโพธิ นายกล้านรงค์ จันทิก ที่มีอคติกะบพ.ต.ท.ทักษิณ มาสอบ มันก็เชื่อได้ยิ่งกว่าโม่แป้งซะอีกว่า ผลแห่งการสอบสวนมันย่อมออกมาเอียงกะเท่เร่ ซึ่งตรงนี้เรารับไม่ได้
เมื่อถามถึงภาพข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ร่วมงานวันกองทัพบก แล้วเอแบคโพลล์ สำรวจความคิดเห็นประชาชน ปรากฏว่า ร้อยละ 63.8 เห็นว่าเป็นสัญญาณต่อความสามัคคี ดีกว่าการออกกฎหมายเพื่อความปรองดอง นายนพดล กล่าวว่า เป็นการสะท้อนว่า พี่น้องประชาชนอยากเห็นความปรองดองในบ้านเมือง อาจตัดสินจากภาพที่ปรากฏผ่านสื่อ แต่ความขัดแย้งในบ้านเมืองมันลึกเกินกว่าที่จะยิ้มให้กันตามงานสังคม การยิ้มให้กันก็ดี ขณะเดียวกันคนที่ยังติดคุกเขามีครอบครัว พี่น้อง ที่ยังได้รับผลกระทบเรือนหมื่น เรือนแสนคน ถ้าชี้แจงให้ประชาชนเห็นถึงการปรองดอง คือการเยียวยา คืนความเป็นธรรมให้ ตนคิดว่าพี่น้องคงจะเห็นด้วย หลังจากทะเลาะกันเกิดบาดแผล คนมายิ้มให้กันก็ดี แต่ยังต้องมารักษาบาดแผลด้วยกัน จึงถือเป็นความปรองดองอย่างแท้จริง
ดังนั้นการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พล.อ.เปรม พล.อ.ประยุทธ์ ทำงานด้วยกันได้ดี ถือเป็นจุดเริ่มต้น แต่เป็นเพียงบันไดก้าวแรกเท่านั้น ยังมีขั้นที่ 2-3 อีก ขั้น 2 คือ การเยียวยาให้ความเป็นธรรมพี่น้องประชาชนทุกสีเสื้อ ขั้นที่ 3 คือ มีรัฐธรรมนูญ มีกติกาที่เป็นประชาธิปไตย ปรับท่าที เยียวยา มีกติกา เป็นเหมือนบันได 3 ขั้น เพราะถ้าไม่มีกติกาที่เป็นประชาธิปไตย ก็ยังมีความขัดแย้งอยู่ร่ำไป
เมื่อถามว่าการผลักดันพ.ร.ก.นิรโทษกรรม โดยแกนนำคนเสื้อแดง รัฐบาลจะนำไปใช้ให้เกิดผลสำเร็จได้หรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า เห็นใจพี่น้องคนเสื้อแดง เข้าใจในความเจ็บปวดที่คนเสื้อแดงได้รับ ก็เห็นด้วยที่เสนอกฎหมายนิรโทษกรรมออกมา ถือเป็นสิทธิ์คนเสื้อแดงที่จะดำเนินการ คิดว่ารัฐบาลคงนำไปพิจารณาอย่างจริงจัง อย่างรอบคอบต่อไป และฝ่ายค้าน ภาคส่วนอื่นๆ ต้องเข้าใจว่า ควรปรองดอง แสดงว่าเขาเห็นปัญหา และเสื้อแดงใจกว้าง จึงขอนิรโทษให้ทุกสีเสื้อด้วย ถ้าแกนนำพันธมิตรฯ นำไปพิจารณาด้วยก็จะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องอย่างยิ่ง .
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวถึงกรณีนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายพ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาท้าให้ พรรคประชาธิปัตย์รับคำท้า กรณีให้มีการนิรโทษกรรมผู้มาร่วมชุมนุมทางการเมืองทุกสีเสื้อที่ทำผิดกฎหมายและถูกจับกุม ยกเว้นพ.ต.ท.ทักษิณ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ว่า เป็นเจตนาที่ดีในการแสดงความจริงใจ นายพานทอง แท้คิดว่าควรนิรโทษกรรมพี่น้องประชาชนที่มาร่วมชุมนุมทางการเมือง ไม่ควรให้ถูกจำคุก จึงเสนอนิรโทษกรรมให้ผู้ร่วมชุมนุมทุกฝ่าย ยกเว้น พ.ต.ท.ทักษิณ นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ อีกทั้งนายพานทองแท้มั่นใจว่าพ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ จากคดีที่ดินรัชดาอยู่แล้ว
นายนพดลกล่าวด้วยว่า เมื่อเทียบลักษณะข้อกล่าวหาของ นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ในคดีที่ดินรัชดา มันต่างกันราวฟ้ากับเหว ส่วนตัวหวังว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะรับคำท้าด้วยดี ลูกย่อมมั่นใจความบริสุทธิ์ของพ่อ ก็เลยแสดงออกมา เป็นการพูดเพื่อหาทางออกให้ประเทศ เราควรมาเริ่มต้นกันใหม่ หรือ Set Zero หรือไม่ พี่น้องที่มาชุมนุมทั้งเสื้อเหลือง เสื้อแดง ไม่ได้ก่ออาชญากรรมอะไร เพียงความเห็นทางการเมืองต่างกัน ควรได้รับการนิรโทษกรรม ทั้งนี้ ส่วนตัวเห็นด้วยว่าไม่ควรปฏิบัติกับคนกลุ่มนี้อย่างอาชญากร ควรให้เขามาร่วมพัฒนาชาติไทย พรรคประชาธิปัตย์ ก็อย่าเพิกเฉย เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร ควรเสนอความเห็นออกมา
เมื่อถามว่าได้คุยเรื่องนิรโทษกรรมกับ พ.ต.ท.ทักษิณหรือยัง นายนพดล กล่าวว่า ยังไม่ได้คุย เข้าใจว่าท่านอยู่ระหว่างการเดินทาง แต่เดาว่า ท่านก็พร้อมพิสูจน์อยู่แล้ว คดีความที่เกิดหลังรัฐประหารยังคาใจอยู่ ละเมิดหลักนิติรัฐขอกลับมาพิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรมปกติ ได้หรือไม่
นายนพดล กล่าวด้วยว่า ท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ยังยืนยันว่านิรโทษกรรมได้ไม่มีปัญหา เพียงแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องได้รับโทษก่อนนั้น ตรงนี้เป็นปัญหาที่พรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาธิปัตย์ มีจุดยืนแตกต่างกันชัดเจน เรามองว่า คดีหลังการรัฐประหาร การตั้งบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์อย่าง คตส. มาตรวจสอบพ.ต.ท.ทักษิณ เรารับไม่ได้ แต่ประชาธิปัตย์ เห็นว่าคดีมายังไงก็ได้ รับได้ ซึ่งเห็นต่างกันตรงนี้ ถ้ายังเห็นต่างกัน ก็คุยกันลำบาก ทั่วโลกมองว่าคดีหลังรัฐประหาร ทำลายหลักนิติธรรม มิชอบด้วยกฎหมาย แต่พรรคประชาธิปัตย์กลับมองว่า ชอบแล้ว ดูแต่ปลายน้ำ ทั้งที่ต้องดูต้นน้ำ กลางน้ำด้วย กระบวนการตรวจสอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งคนอย่างนายแก้วสรร อติโพธิ นายกล้านรงค์ จันทิก ที่มีอคติกะบพ.ต.ท.ทักษิณ มาสอบ มันก็เชื่อได้ยิ่งกว่าโม่แป้งซะอีกว่า ผลแห่งการสอบสวนมันย่อมออกมาเอียงกะเท่เร่ ซึ่งตรงนี้เรารับไม่ได้
เมื่อถามถึงภาพข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ร่วมงานวันกองทัพบก แล้วเอแบคโพลล์ สำรวจความคิดเห็นประชาชน ปรากฏว่า ร้อยละ 63.8 เห็นว่าเป็นสัญญาณต่อความสามัคคี ดีกว่าการออกกฎหมายเพื่อความปรองดอง นายนพดล กล่าวว่า เป็นการสะท้อนว่า พี่น้องประชาชนอยากเห็นความปรองดองในบ้านเมือง อาจตัดสินจากภาพที่ปรากฏผ่านสื่อ แต่ความขัดแย้งในบ้านเมืองมันลึกเกินกว่าที่จะยิ้มให้กันตามงานสังคม การยิ้มให้กันก็ดี ขณะเดียวกันคนที่ยังติดคุกเขามีครอบครัว พี่น้อง ที่ยังได้รับผลกระทบเรือนหมื่น เรือนแสนคน ถ้าชี้แจงให้ประชาชนเห็นถึงการปรองดอง คือการเยียวยา คืนความเป็นธรรมให้ ตนคิดว่าพี่น้องคงจะเห็นด้วย หลังจากทะเลาะกันเกิดบาดแผล คนมายิ้มให้กันก็ดี แต่ยังต้องมารักษาบาดแผลด้วยกัน จึงถือเป็นความปรองดองอย่างแท้จริง
ดังนั้นการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พล.อ.เปรม พล.อ.ประยุทธ์ ทำงานด้วยกันได้ดี ถือเป็นจุดเริ่มต้น แต่เป็นเพียงบันไดก้าวแรกเท่านั้น ยังมีขั้นที่ 2-3 อีก ขั้น 2 คือ การเยียวยาให้ความเป็นธรรมพี่น้องประชาชนทุกสีเสื้อ ขั้นที่ 3 คือ มีรัฐธรรมนูญ มีกติกาที่เป็นประชาธิปไตย ปรับท่าที เยียวยา มีกติกา เป็นเหมือนบันได 3 ขั้น เพราะถ้าไม่มีกติกาที่เป็นประชาธิปไตย ก็ยังมีความขัดแย้งอยู่ร่ำไป
เมื่อถามว่าการผลักดันพ.ร.ก.นิรโทษกรรม โดยแกนนำคนเสื้อแดง รัฐบาลจะนำไปใช้ให้เกิดผลสำเร็จได้หรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า เห็นใจพี่น้องคนเสื้อแดง เข้าใจในความเจ็บปวดที่คนเสื้อแดงได้รับ ก็เห็นด้วยที่เสนอกฎหมายนิรโทษกรรมออกมา ถือเป็นสิทธิ์คนเสื้อแดงที่จะดำเนินการ คิดว่ารัฐบาลคงนำไปพิจารณาอย่างจริงจัง อย่างรอบคอบต่อไป และฝ่ายค้าน ภาคส่วนอื่นๆ ต้องเข้าใจว่า ควรปรองดอง แสดงว่าเขาเห็นปัญหา และเสื้อแดงใจกว้าง จึงขอนิรโทษให้ทุกสีเสื้อด้วย ถ้าแกนนำพันธมิตรฯ นำไปพิจารณาด้วยก็จะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องอย่างยิ่ง .
