รมว.พลังงานยกโอวาท “ป๋าเปรม” สัญญาณถอยคนละก้าว แนะล้างผิดให้ทุกคน โดดป้อง “ทักษิณ” อยู่นอกสบายกว่ายังไม่อยากลับมาแย่งงาน “ยิ่งลักษณ์” โอ่พี่ชายดูแลน้องสาวเหมือนลูกคนหนึ่ง ชูมือหนุนประชามติก่อน-หลังแก้ รธน. ชี้ความเห็นต่างในพรรคสุดงดงาม เชื่อมติพรรคออกทุกคนพร้อมทำตาม
วันนี้ (1 ม.ค.) นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน กล่าวถึงการประเมินสถานการณ์การเมืองไทยในปี 2556 ว่า เชื่อว่ามีสัญญาณที่ดีจากหลายด้าน เพราะทุกคนทราบดีว่าในระยะยาวประเทศที่มีความขัดแย้งทางการเมืองสูง จะเกิดความเสี่ยงต่อการล่มสลายของรัฐ เพราะความขัดแย้งจะเป็นอุปสรรคของทุกอย่าง และนำไปสู่ความตกต่ำของรัฐ มีตัวอย่างให้เห็นมาแล้วหลายประเทศทั่วโลก ประเทศไทยยังโชคดีที่มีวัฒนธรรมของการให้อภัยกัน เหมือนที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้กล่าวในโอกาสปีใหม่กับผู้นำเหล่าทัพเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ว่า ความเห็นต่างไม่ใช่ความแตกแยก ต้องคำนึงถึงความสามัคคีและการให้อภัยกัน ส่วนตัวจึงเชื่อว่า เมื่อมีสัญญาณจากผู้หลักผู้ใหญ่ออกมาเช่นนี้ ทุกฝ่ายก็ต้องถอยคนละก้าว เพื่อมานั่งตรึงตรองและให้สติกับคู่ขัดแย้ง แล้วจึงค่อยกลับมาคุยกันใหม่
“วันนี้หลายคนมีคดีติดตัวจากความขัดแย้งทางการเมือง ไม่ว่าอยู่ฝ่ายไหนใส่เสื้อสีใด หากยึดหลักการให้อภัยจริง ต้องลบล้างความผิดให้แก่ทุกคนอย่างเท่าเทียมและไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความสงบในประเทศ” นายพงษ์ศักดิ์ระบุ
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมองว่า ความต้องการกลับประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเงื่อนไขทำให้เกิดความขัดแย้งในปัจจุบันนั้น นายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า เป็นเพียงความเชื่อของคนบางกลุ่มที่ก้าวไม่ข้าม พ.ต.ท.ทักษิณเท่านั้น เพราะส่วนตัวเชื่อว่าขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ที่ต่างประเทศก็มีความสุขดีอยู่ และอาจจะสบายมากกว่าด้วยซ้ำ ช่วงแรกๆอาจจะยังไม่คุ้นเคย แต่วันนี้เริ่มชินกับการใช้ชีวิตที่เมืองนอกแล้ว อย่างไรก็ดีเมื่อมีกลุ่มคนที่จับจ้อง พ.ต.ท.ทักษิณมองอีกมุมก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะจะได้ช่วยล่อเป้าให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ทำงานสบายขึ้น และในฐานะผู้ใกล้ชิดตนก็เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้สนใจเรื่องได้กลับหรือไม่กลับประเทศ
“อย่าลืมว่าคนที่เป็นนายกฯ ตอนนี้ คือน้องสาวของท่าน คงไม่มีพี่ชายคนไหนที่อยากจะมาแย่งงานน้องสาว และถ้าพี่กลับมาจริง คนก็จะแห่กันไปหา บทบาทน้องสาวก็จะถูกบดบังลงไป ซึ่งคงไม่มีพี่คนไหนต้องการเช่นนั้น อย่าลืมว่าท่านทักษิณดูแลนายกฯยิ่งลักษณ์มาตั้งแต่เด็ก ดูแลกันเหมือนลูกคนหนึ่งด้วยซ้ำ” รมว.พลังงานกล่าว
สำหรับประเด็นแนวทางการแก้ไขรัฐมนตรีที่ยังมีความเห็นแตกต่างกันในพรรคเพื่อไทยนั้น นายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า ความเห็นแย้งที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องที่ดีในทางการเมืองระบอบประชาธิปไตย ซึ่งมีอยู่ในทุกองค์กร ที่สุดท้ายแล้วเมื่อมีการอภิปรายแสดงความเห็นแล้วเป็นมติหรือแนวทางขององค์กรออกมา ทุกคนก็จะยอมรับ ดีกว่าการที่มีคนพูดเป็นเสียงเดียวกำลังแนวทางแบบผูกขาดออกมา จะทำให้องค์กรตกต่ำลงด้วย การถกเถียงของ 3 แนวทางภายในพรรคเพื่อไทยและผู้สนับสนุนนั้น ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลที่ดีมาก ทั้งผู้ที่ไม่อยากลงประชามติ ที่ดูตามสถิติเก่าว่าคนจะออกมาให้สิทธิ์ไม่ถึง หรือผู้ที่อยากลงประชามติก็เพราะต้องการให้ประชาชนยอมรับตั้งแต่เริ่มกระบวนการ หรือแม้แต่ผู้ที่เห็นว่าควรแก้ไขเป็นรายมาตราก็ตาม ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ใช่ความแตกแยก เพราะในพรรคเพื่อไทยอยู่กันด้วยเหตุและผล
นายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นควรให้มีการออกเสียงประชามติเสียก่อน เพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชน เพราะต้องมีการออกไปบอกถึงสาเหตุที่ต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แก้จุดใดที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนบ้าง และจะแก้มาตราใดบ้าง เป็นการสร้างความชัดเจนให้เกิดขึ้น หากประชาชนลงประชามติเห็นด้วยให้แก้ไขแล้ว เมื่อแก้ไขแล้วเสร็จก็ต้องมีการประชามติถามว่าประชาชนพอใจฉบับที่แก้ไขมาหรือไม่อีกด้วย อย่างไรก็ตามหากพรรคมีมติออกมาอย่างไร ตนก็พร้อมที่จะสนับสนุน