รองโฆษก ทบ.เผยผลประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก “ประยุทธ์” ขอบคุณกำลังพลช่วยงานสำเร็จ สั่ง ผบ.หน่วยศึกษาประชาคมอาเซียน-สถานการณ์โลก น้อมนำพระราชดำรัส-คำ “ป๋าเปรม” ไปปฏิบัติ แนะทำตามรัฐธรรมนูญและหน้าที่ ให้รู้สถานะ ชูปี 56 ปีแห่งการฝึก จ่อตั้งกองทุนทหารพราน
วันนี้ (28 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 15.00 น. พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงภายหลังการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก และ ผู้บังคับหน่วยระดับผู้พันทั่วประเทศที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานการประชุมว่า ผู้บัญชาการทหารบกได้เน้นย้ำทิศทางการทำงานในปี 2556 ซึ่งได้ลงรายละเอียดในแต่ละด้าน ตั้งแต่ระดับกำลังพล ถึงงบประมาณเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ทั้งนี้ผู้บัญชาการทหารบกได้ขอบคุณกำลังพลที่ได้มุ่งมั่นทำงานในปีที่ผ่านมา ซึ่งงานทุกอย่างได้ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ แต่ก็สามารถบรรลุผลสำเร็จเกิดความรัก ความศรัทธา ที่ประชาชนมอบให้ จึงขอความร่วมมือให้ดำเนินการในปีต่อไปด้วย ทั้งนี้ขอให้กำลังพลยึดมั่นในทำงานเพื่อสังคม และประเทศชาติ เป็นที่พึ่งของประชาชนทุกโอกาส
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า ส่วนการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยผู้บัญชาการทหารบก ให้ความสำคัญเพราะงานด้านความมั่นคงเป็นเสาหลักในอาเซียน จึงให้ผู้บังคับหน่วยไปศึกษา และเตรียมพร้อมในข้อมูลรวมทั้งชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบเพื่อเตรียมพร้อมเป็นประชาคมอาเซียน อีกทั้งสถานการณ์โลกได้เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาจึงกำชับให้ผู้บังคับหน่วยได้ติดตามสถานการณ์โลก และสถานการณ์ของภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำความรู้ไปสร้างเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบกยังได้เน้นย้ำหลักการการทำงานว่าขอให้น้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเรื่องของคุณธรรม และความเมตตา ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานในการทำงาน อีกทั้งนำโอวาทของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่ให้คนในชาติมีความคิดเห็นต่างได้ แต่ทุกคนจะต้องอยู่ด้วยกันอย่างสันติ ซึ่งให้ผู้บังคับหน่วยนำไปปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับการวางตนของทหารที่มี 2 สถานะ คือ 1. ประชาชน ขอให้ทำตามรัฐธรรมนูญ และ 2. ในฐานะที่เป็นทหาร ขอให้ทำตามหน้าที่ที่จะต้องสอดคล้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์การเมืองอาจมีข้อจำกัด ดังนั้นขอให้รู้สถานะของตนเอง ส่วนการดูแลอธิปไตยเป็นงานหลัก กองทัพบกต้องสานต่อ รวมทั้งการดูแลพื้นที่แนวชายแดนโดยจะต้องดำเนินการตามแผนมาตรการต่างๆ ที่มีอยู่แล้ว รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์ทางด้านทหารกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อลดปัญหาบริเวณชายแดนให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ส่วนเรื่องการฝึกเตรียมพร้อมในปี 2556 โดยให้นโยบายว่าปี 2556 จะเป็นปีแห่งการพัฒนาการฝึกของกองทัพบก โดยเน้นการฝึกทั้งตัวบุคคล การฝึกหน่วยเพื่อเพิ่มทักษะความรู้ความสามารถ และใช้สนามฝึกที่มีอยู่เพื่อให้ประหยัดงบประมาณมากที่สุด หรือไม่ให้ใช้งบประมาณเลย
“ผู้บัญชาการทหารบกได้ให้ความสำคัญในการดูแลทหารของกองทัพบก ทั้งกำลังพล และครอบครัว โดยในปี 2556 จะให้ความสำคัญดูแลกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต จากการปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน และทุกภารกิจ โดยมีการตั้งกองทุนทหารพรานทั่วประเทศ รวมทั้งจะดูแลครอบครัวของทหารที่มีบุตรหลานพิการ พร้อมทั้งจัดสร้างที่พักอาศัย ให้กำลังพลชั้นประทวนเพื่อให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นในทุกพื้นที่ ส่วนสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทาง พล.อ.ประยุทธ์ให้ผู้บังคับหน่วยไปทำความเข้าใจและศึกษาสาระสำคัญของการทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และตอบให้ได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดดีขึ้นในส่วนใด และมีข้อจำกัดอะไรบ้าง ให้ประชาชนได้เห็นการเปลี่ยนแปลง โดยกองทัพภาคที่ 4 จะดูแลประชาชนอย่างเต็มที่” พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ระบุ