xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“คดีบุญมี เริ่มสุข” หลักฐานมัด “แดง” ติดอาวุธ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แกนนำคนเสื้อแดงเถียงหัวชนฝาว่า การชุมนุมของพวกเขาดำเนินไปอย่างสงบ สันติและปราศจากอาวุธ แต่ดูเหมือนว่า ผลของคำพิพากษาในคดีนายบุญมี เริ่มสุข จะทำให้คำแก้ตัวและคำโกหกของคนเสื้อแดงมีสภาพไม่ต่างอะไรกับการผายลม

เพราะคำพิพากษาชี้ชัดว่า กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงมีการใช้อาวุธตอบโต้กับเจ้าหน้าที่

ทั้งนี้ คดีดังกล่าวเป็นคดีหมายเลขดำที่ ช.7/2555 ซึ่งพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 ยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนชันสูตรพลิกศพนายบุญมี เริ่มสุข อายุ 71 ปี ซึ่งถูกยิงบริเวณ ถ.พระราม 4 ในช่วงการขอคืนพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติการคำสั่งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2553 เพื่อมีคำสั่งว่าผู้ตายเป็นใคร ตายที่ไหน เมื่อใด เหตุและพฤติกรรมการตาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 150
และเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2556 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ก็ได้นัดอ่านคำสั่งชันสูตรพลิกศพ

“แม้พนักงานสอบสวนเบิกความว่า หัวกระสุนที่ได้จากตัวผู้ตายเป็นขนาด .223 (5.56 มม.) ที่ใช้กับปืนเล็กกล M16 ซึ่งใช้ในราชการทหาร แต่ก็ได้ความจากเจ้าพนักงานว่า มีเจ้าพนักงานถูกยิงด้วยหัวกระสุน ซึ่งใช้กับอาวุธปืนอาก้า หรืออาวุธปืนเล็กกล M16 เช่นเดียวกัน ซึ่งพยานผู้ตรวจพิสูจน์อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนก็เบิกความว่า ลูกกระสุนปืนของกลางในตัวผู้ตาย มีลักษณะคล้ายลูกกระสุนปืนที่ยิงถูกเจ้าพนักงาน จึงเชื่อว่านอกจากฝ่ายเจ้าพนักงานจะใช้กระสุนปืนขนาด .223 (5.56 มม.) แล้ว ยังมีบุคคลที่มีอาวุธปืนปะปนอยู่ในกลุ่ม นปช. และใช้กระสุนปืนขนาด .223 (5.56 มม.) ยิงตอบโต้กับฝ่ายเจ้าพนักงานด้วย”

คำวินิจฉัยดังกล่าวคือหลักฐานชั้นดีที่ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงไม่สามารถหาคำแก้ตัวใดๆ มาอธิบายได้ ขณะเดียวกันก็จะส่งผลต่อคดีก่อการร้ายของแกนนำ นปช. และแนวร่วมจำนวน 24 คน ซึ่งอัยการส่งฟ้องต่อศาล และอยู่ระหว่างการสืบพยานในชั้นศาลอย่างมีนัยสำคัญ

รวมทั้งเปลือยกรมสอบสวนคดีพิเศษอย่างล้อนจ่อนต่อความพยายามยัดเยียดข้อกล่าวหาว่าทหารเป็นผู้ยิง

แน่นอน แกนนำแดงในระดับประธานอย่าง “นางธิดา ถาวรเศรษฐ” ย่อมปฏิเสธเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา แต่วันนี้เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ไม่มีใครเชื่อคำพูดของธิดาแดงอีกต่อไป

ธิดาแดงลืมไปแล้วหรือว่า นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำ นปช.ได้เคยปราศรัยเอาไว้เมื่อวันที่ 29 ม.ค.53 โดยยอมรับว่า ได้มีกลุ่มกองกำลังไม่ทราบฝ่ายจะเข้ามาช่วยคนเสื้อแดง ทำให้ขบวนการต่อสู้มีแก้วสามประการครบแล้ว คือ มีพรรคการเมือง มีมวลชน และมีกองกำลัง

และนี่คือจุดพลิกผันที่สำคัญอีกครั้งหนึ่งหลังจากหลงลำพองในชัยชนะที่พรรคเพื่อไทยสามารถเถลิงอำนาจการปกครองประเทศ กระทั่งเชื่อว่า จะทำให้คดีพลิกจากดำกลายเป็นขาวได้


กำลังโหลดความคิดเห็น