ASTV ผู้จัดการรายวัน - “โทรีเซนไทย” เชื่อรายได้ปีนี้เติบโตเพิ่ม 20% พลิกกลับมามีกำไร จากธุรกิจเรือขุดเจาะ โลจิสติกส์ที่เวียดนามและการเปิดโรงงาน จ.สมุทรสาครของยูนิคไมนิ่ง ส่วนธุรกิจเดินเรือภาพรวมแค่ทรงตัว ล่าสุดรุกประมูลโรงไฟฟ้าIPPที่อินโดนีเซีย 200 เมกะวัตต์ เหตุติดพื้นที่ที่ได้รับสัมปทานถ่านหิน ด้านผู้บริหารหวังแผนเพิ่มทุนรอบนี้ฉลุย! หลังปรับใหม่ และเดินสายชี้แจงผู้ถือหุ้นที่เคยค้าน
ม.ล.จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เปิดเผยว่า ในปี 2556 บริษัทตั้งเป้ารายได้จะเติบโต 20% จากปีก่อนซึ่งมีรายได้ราว 1.6 หมื่นล้านบาท โดยในงวด 1 ปี สิ้นสุดเดือนก.ย.2555 บริษัทขาดทุนสุทธิ 4.62 พันล้านบาท
สำหรับภาพรวมธุรกิจในปีนี้ ประเมินว่าธุรกิจเดินเรื่อสินค้ายังไม่ดีเท่าที่ควร โดยค่าระวางเรือในปี 2556 น่าจะอยู่ที่ระดับ 9-9.5 พันเหรียญสหรัฐ/วัน/ลำ ลดลงจากปี 2555 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.07 หมื่นเหรียญสหรัฐ/วัน/ลำ ขณะเดียวกัน เชื่อว่า บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการวิศวกรรมโยธาใต้น้ำ จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น 100% เช่นเดียวกับ ธุรกิจโลจิสติกส์และปุ๋ยในเวียดนาม (Baconco)
ขณะที่ ธุรกิจถ่านหินของ บมจ. ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส น่าจะมีข่าวดีในช่วงมีนาคม คือสามารถเปิดใช้โรงงานในจ.สุมทรสาคร ได้อีกครั้ง ซึ่งจะทำให้บริษัทรับรู้รายได้จากธุรกิจพลังงานประมาณ 50%ของรายได้ทั้งหมด
“ค่าระวางเรือตอนนี้ยังอยู่ในระดับต่ำ แต่เราก็หวังว่าจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณบริษัท (เม.ย. - ก.ย.2556) จุดนี้ทำให้ราคาเรือมือสองปรับตัวต่ำลง และเรามองว่านี่คือโอกาสในการเข้าซื้อเรือในราคาที่ถูก ซึ่งอาจซื้อแบบเป็นล็อต หรือทยอยซื้อ เพื่อเสริมศักยภาพกองเรือรับการฟื้นตัวของธุรกิจที่ใกล้จะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามเรายังไม่คิดที่จะทำธุรกิจเรือเดินทะเลเข้าจดทะเบียนในตลาดสิงคโปร์ช่วง2-3ปีนี้ เพราะโอกาสยังไม่เหมาะ ด้านเมอร์เมดฯ ปีนี้ถือว่าจะเติบโต100% แต่เราของเราทั้ง2ลำเก่าแล้ว จำเป็นต้องซื้อเรือใหม่อีก 2 ลำ หามือสองไม่ได้ เพราะมีน้อยและทุกลำก็มีงาน”
ม.ล.จันทรจุฑา กล่าวว่า สำหรับธุรกิจถ่านหินในอินโดนีเซีย ที่ลงทุนผ่านบริษํทลูกร่วมกับพันธมิตรอีก 3 ราย ด้วยงบลงททุน 9 ล้านเหรียญสหรัฐ (TTAลงทุน3ล้านเหรียญ) ขณะนี้ได้รับใบอนุญาตสัมปทานแล้ว แต่เนื่องจากการไฟฟ้าของอินโดนีเซีย กำลังจะเปิดประมูลโรงไฟฟ้าIPP ขนาด 200-300 เมกะวัตต์ในพื้นที่ติดกับพื้นที่สัมปทานของบริษัท ทำให้ TTA มีแผนที่จะเข้าประมูลโรงไฟฟ้าดังกล่าวด้วยจุดเด่นในการขนส่งถ่านหินจากแหล่งสัมปทานได้ง่าย ซึ่งบริษัทจะส่งเอกสารร่วมประมูลในช่วง กรกฎาคม-สิงหาคมนี้ และคาดว่าน่าจะมีความชัดเจนในช่วงปลายปี
“เราสนใจเข้าร่วมประมูล ถ้าชนะก็จะง่ายต่อเราเพราะไม่จำเป็นต้องมีต้นทุนขนส่งถ่านหินมาชายหาด แต่จะลำเพียงไปผลิตไฟฟ้าต่อเลย หรือไม่เราก็จะติดต่อผู้ชนะการประมูลการนำเสนอขายถ่ายหินเนื่องจากสะดวก และรวดเร็วกว่ารายอื่น”
สำหรับการเพิ่มทุนของบริษัทนั้น ทางผู้บริหารเชื่อว่าในการประชุมผู้ถือหุ้น 30ม.ค.นี้ ผู้ถือหุ้นจะมีมติให้บริษัทเพิ่มทุนได้ เนื่องจากมีการปรับสัดส่วนการจัดสรรหุ้นใหม่ และทำความเข้าใจกับผู้ถือหุ้นที่คัดค้านในครั้งก่อนไปได้แล้วบางส่วน ซึ่งหากสำเร็จบริษัทจะได้รับเงินจากการเพิ่มทุนประมาณ 3.9 พันล้านบาท ในช่วงวันที่ 21-28ก.พ. และหากผู้ถือหุ้นใช้สิทธิแปลงสภาพวอร์แรนต์ก็จะทำให้บริษัทได้รับเงินเพิ่มเติมอีกประมาณ2.4 พันล้านบาท
ม.ล.จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เปิดเผยว่า ในปี 2556 บริษัทตั้งเป้ารายได้จะเติบโต 20% จากปีก่อนซึ่งมีรายได้ราว 1.6 หมื่นล้านบาท โดยในงวด 1 ปี สิ้นสุดเดือนก.ย.2555 บริษัทขาดทุนสุทธิ 4.62 พันล้านบาท
สำหรับภาพรวมธุรกิจในปีนี้ ประเมินว่าธุรกิจเดินเรื่อสินค้ายังไม่ดีเท่าที่ควร โดยค่าระวางเรือในปี 2556 น่าจะอยู่ที่ระดับ 9-9.5 พันเหรียญสหรัฐ/วัน/ลำ ลดลงจากปี 2555 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.07 หมื่นเหรียญสหรัฐ/วัน/ลำ ขณะเดียวกัน เชื่อว่า บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการวิศวกรรมโยธาใต้น้ำ จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น 100% เช่นเดียวกับ ธุรกิจโลจิสติกส์และปุ๋ยในเวียดนาม (Baconco)
ขณะที่ ธุรกิจถ่านหินของ บมจ. ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส น่าจะมีข่าวดีในช่วงมีนาคม คือสามารถเปิดใช้โรงงานในจ.สุมทรสาคร ได้อีกครั้ง ซึ่งจะทำให้บริษัทรับรู้รายได้จากธุรกิจพลังงานประมาณ 50%ของรายได้ทั้งหมด
“ค่าระวางเรือตอนนี้ยังอยู่ในระดับต่ำ แต่เราก็หวังว่าจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณบริษัท (เม.ย. - ก.ย.2556) จุดนี้ทำให้ราคาเรือมือสองปรับตัวต่ำลง และเรามองว่านี่คือโอกาสในการเข้าซื้อเรือในราคาที่ถูก ซึ่งอาจซื้อแบบเป็นล็อต หรือทยอยซื้อ เพื่อเสริมศักยภาพกองเรือรับการฟื้นตัวของธุรกิจที่ใกล้จะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามเรายังไม่คิดที่จะทำธุรกิจเรือเดินทะเลเข้าจดทะเบียนในตลาดสิงคโปร์ช่วง2-3ปีนี้ เพราะโอกาสยังไม่เหมาะ ด้านเมอร์เมดฯ ปีนี้ถือว่าจะเติบโต100% แต่เราของเราทั้ง2ลำเก่าแล้ว จำเป็นต้องซื้อเรือใหม่อีก 2 ลำ หามือสองไม่ได้ เพราะมีน้อยและทุกลำก็มีงาน”
ม.ล.จันทรจุฑา กล่าวว่า สำหรับธุรกิจถ่านหินในอินโดนีเซีย ที่ลงทุนผ่านบริษํทลูกร่วมกับพันธมิตรอีก 3 ราย ด้วยงบลงททุน 9 ล้านเหรียญสหรัฐ (TTAลงทุน3ล้านเหรียญ) ขณะนี้ได้รับใบอนุญาตสัมปทานแล้ว แต่เนื่องจากการไฟฟ้าของอินโดนีเซีย กำลังจะเปิดประมูลโรงไฟฟ้าIPP ขนาด 200-300 เมกะวัตต์ในพื้นที่ติดกับพื้นที่สัมปทานของบริษัท ทำให้ TTA มีแผนที่จะเข้าประมูลโรงไฟฟ้าดังกล่าวด้วยจุดเด่นในการขนส่งถ่านหินจากแหล่งสัมปทานได้ง่าย ซึ่งบริษัทจะส่งเอกสารร่วมประมูลในช่วง กรกฎาคม-สิงหาคมนี้ และคาดว่าน่าจะมีความชัดเจนในช่วงปลายปี
“เราสนใจเข้าร่วมประมูล ถ้าชนะก็จะง่ายต่อเราเพราะไม่จำเป็นต้องมีต้นทุนขนส่งถ่านหินมาชายหาด แต่จะลำเพียงไปผลิตไฟฟ้าต่อเลย หรือไม่เราก็จะติดต่อผู้ชนะการประมูลการนำเสนอขายถ่ายหินเนื่องจากสะดวก และรวดเร็วกว่ารายอื่น”
สำหรับการเพิ่มทุนของบริษัทนั้น ทางผู้บริหารเชื่อว่าในการประชุมผู้ถือหุ้น 30ม.ค.นี้ ผู้ถือหุ้นจะมีมติให้บริษัทเพิ่มทุนได้ เนื่องจากมีการปรับสัดส่วนการจัดสรรหุ้นใหม่ และทำความเข้าใจกับผู้ถือหุ้นที่คัดค้านในครั้งก่อนไปได้แล้วบางส่วน ซึ่งหากสำเร็จบริษัทจะได้รับเงินจากการเพิ่มทุนประมาณ 3.9 พันล้านบาท ในช่วงวันที่ 21-28ก.พ. และหากผู้ถือหุ้นใช้สิทธิแปลงสภาพวอร์แรนต์ก็จะทำให้บริษัทได้รับเงินเพิ่มเติมอีกประมาณ2.4 พันล้านบาท