ข่าวในประเทศ - กลุ่มบริษัท “สามมิตร” ทุ่มลงทุนพันล้นบาท เตรียมย้ายฐานผลิตปิกอัพซีเอ็นจี “เอสจีพี” หรือรถ “ก้านกล้วย” จากเดิมที่บางแคไปตั้งโรงงานใหม่ย่านบางนา เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเท่าตัว รองรับการขยายตัวของตลาด และเข้าสู่เออีซี พร้อมหนีปัญหาน้องน้ำอาจท่วมซ้ำในอนาคต มั่นใจเทคโนโลยีและจุดเด่นที่ไม่แพ้ผู้ผลิตจากโรงงานโดยตรง จะช่วยผลักดันเติบโตต่อเนื่อง
นายสุรยุทธิ์ โพธิศิริสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามมิตร กรีนพาวเวอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายปิกอัพซีเอ็นจี ภายใต้ชื่อ “เอสจีพี” (SGP) เปิดเผยว่า ทิศทางของรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ต่อไปจะใช้พลังงานก๊าซธรรมชาติ หรือซีเอ็นจี(CNG) เป็นหลัก เพราะมีราคาที่ถูกกว่าและเป็นพลังงานที่จะทดแทนน้ำมันบางส่วน ประกอบกับการสนับสนุนของภาครัฐ รวมถึงแผนการขยายสถานีบริการของปตท. จะผลักดันให้รถยนต์ที่ใช้ซีเอ็นจีเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“เพื่อรองรับการขยายตัวดังกล่าว สามมิตรฯ จึงได้ตัดสินใจตั้งโรงงานใหม่มูลค่าลงทุน 1,000 ล้านบาท สำหรับขยายกำลังการผลิตอีกเท่าตัว หรือประมาณ 2,5000 คันต่อเดือน จากโรงงานปัจจุบันที่อยู่บางแค ผลิตได้สูงสุด 1,000 คันต่อเดือน และยังเป็นการป้องกันปัญหาน้ำท่วมซ้ำในอนาคตด้วย หลังจากปีที่ผ่านมาโรงงานถูกน้ำท่วมเสียหายไปพอสมควร”
โดยโรงงานแห่งใหม่ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ บนถนนบางนา-ตราด บริเวณกิโลเมตรที่ 12 ขณะนี้กำลังปรับพื้นที่และเริ่มดำเนินการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2556 ส่วนโรงงานปัจจุบันที่อยู่บางแคจะมีการปรับให้เป็นศูนย์บริการครบวงจร แต่จะยังคงมีการผลิตในบางส่วนอยู่บ้าง ซึ่งนอกจากผลิตปิกอัพติดตั้งซีเอ็นจี สามมิตรฯ ยังมีการพัฒนาระบบซีเอ็นจีและผลิตชิ้นส่วนเองแล้ว รวมถึงพัฒนาและผลิตชิ้นส่วนซีเอ็นจีบางอย่างให้กับโตโยต้าด้วย
นายสุรยุทธิ์เปิดเผยว่า ปิกอัพเอสจีพีซีเอ็นจีของสามมิตรฯ จึงเป็นมาตรฐานระดับโรงงาน หรือโออีเอ็ม (OEM) และก่อนที่จะทำตลาดปิกอัพซีเอ็นจีในไทย บริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจติดตั้งอุปกรณ์ดัดแปลงเครื่องยนต์ซีเอ็นจี ให้กับพันธมิตรอย่างโฟล์คสวาเกนในประเทศจีนมานานกว่า 6 ปี และในไทยได้มีการใช้เวลากว่า 2 ปี ในการศึกษาวิจัยและพัฒนาระบบซีเอ็นจีมาตรฐานสากล ด้วยลิขสิทธิ์เฉพาะของเอสจีพีเอง และเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ซีเอ็นจี 3 ถัง 2 ระบบ ในประเทศไทย สหรัฐอเมริกา ยุโรป จีน และญี่ปุ่น
สำหรับเอสจีพี ซีเอ็นจี ปิกอัพ ติดตั้งอุปกรณ์ดัดแปลงซีเอ็นจีบนโครงสร้างของปิกอัพโตโยต้า มีให้เลือกทั้งแบบตอนเดียว มีแค็บ ดับเบิลแค็บ และที่กำลังได้รับความนิยมในรุ่นก้านกล้วย ซึ่งเป็นปิกอัพแบบพื้นเรียบที่มีจุดเด่นรองรับการบรรทุกได้มากสุด ใหญ่กว่ากระบะทั่วไป 20% ด้วยการออกแบบบนแชสซีที่แข็งแรงทนทาน จึงเหมาะกับการบรรทุกสินค้าที่มีน้ำหนักมาก ในราคาเพียงกว่า 6 แสนบาท โดยปิกอัพซีเอ็นจีของเอสจีพีได้รับการยอมรับ ทั้งจากกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ รถโดยสาร ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผู้ค้าขาย และกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป
“คาดว่าปีนี้จะมียอดขายกว่า 2,500 คัน โดยในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ขายไปเกือบ 2,000 คัน ซึ่งในปี 2556 ตั้งเป้าขายเพิ่มเป็น 3,500 คัน และเชื่อมั่นจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จากทิศทางและความต้องการของตลาด ต่อรถยนต์ใช้พลังงานซีเอ็นจี และโดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน หรือเออีซี(AEC) ที่จะทำให้เกิดการขนส่งยาวไกลขึ้น นี่จึงเป็นอีกส่วนหนึ่งในการตัดสินใจลงทุนเพิ่มกำลังการผลิต ด้วยการตั้งโรงงานใหม่ขึ้นมา” นายสุรยุทธิ์กล่าวและว่า
ส่วนการที่บริษัทรถหันมาทำตลาดปิกอัพซีเอ็นจี อาจจะส่งผลกระทบบ้าง แต่ทุกยี่ห้อทุกรุ่นย่อมมีความแตกต่าง และจุดเด่นของเอสจีพีปิกอัพที่นอกจากกล่าวไปแล้ว ยังให้การรับประกันคุณภาพถึง 5 ปี ขณะที่บริษัทรถส่วนใหญ่เพียง 3 ปีเท่านั้น เหตุนี้จึงเชื่อว่าลูกค้าที่ต้องการจุดคุ้มทุนเร็ว จะเลือกเอสจีพีซีเอ็นจีปิกอัพ ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีนโยบายเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการเพิ่มเป็น 15 แห่งในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันมี 11 แห่ง และจะเปิดเพิ่มอย่างต่อเนื่องในปีต่อๆ ไป
นายสุรยุทธิ์ โพธิศิริสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามมิตร กรีนพาวเวอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายปิกอัพซีเอ็นจี ภายใต้ชื่อ “เอสจีพี” (SGP) เปิดเผยว่า ทิศทางของรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ต่อไปจะใช้พลังงานก๊าซธรรมชาติ หรือซีเอ็นจี(CNG) เป็นหลัก เพราะมีราคาที่ถูกกว่าและเป็นพลังงานที่จะทดแทนน้ำมันบางส่วน ประกอบกับการสนับสนุนของภาครัฐ รวมถึงแผนการขยายสถานีบริการของปตท. จะผลักดันให้รถยนต์ที่ใช้ซีเอ็นจีเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“เพื่อรองรับการขยายตัวดังกล่าว สามมิตรฯ จึงได้ตัดสินใจตั้งโรงงานใหม่มูลค่าลงทุน 1,000 ล้านบาท สำหรับขยายกำลังการผลิตอีกเท่าตัว หรือประมาณ 2,5000 คันต่อเดือน จากโรงงานปัจจุบันที่อยู่บางแค ผลิตได้สูงสุด 1,000 คันต่อเดือน และยังเป็นการป้องกันปัญหาน้ำท่วมซ้ำในอนาคตด้วย หลังจากปีที่ผ่านมาโรงงานถูกน้ำท่วมเสียหายไปพอสมควร”
โดยโรงงานแห่งใหม่ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ บนถนนบางนา-ตราด บริเวณกิโลเมตรที่ 12 ขณะนี้กำลังปรับพื้นที่และเริ่มดำเนินการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2556 ส่วนโรงงานปัจจุบันที่อยู่บางแคจะมีการปรับให้เป็นศูนย์บริการครบวงจร แต่จะยังคงมีการผลิตในบางส่วนอยู่บ้าง ซึ่งนอกจากผลิตปิกอัพติดตั้งซีเอ็นจี สามมิตรฯ ยังมีการพัฒนาระบบซีเอ็นจีและผลิตชิ้นส่วนเองแล้ว รวมถึงพัฒนาและผลิตชิ้นส่วนซีเอ็นจีบางอย่างให้กับโตโยต้าด้วย
นายสุรยุทธิ์เปิดเผยว่า ปิกอัพเอสจีพีซีเอ็นจีของสามมิตรฯ จึงเป็นมาตรฐานระดับโรงงาน หรือโออีเอ็ม (OEM) และก่อนที่จะทำตลาดปิกอัพซีเอ็นจีในไทย บริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจติดตั้งอุปกรณ์ดัดแปลงเครื่องยนต์ซีเอ็นจี ให้กับพันธมิตรอย่างโฟล์คสวาเกนในประเทศจีนมานานกว่า 6 ปี และในไทยได้มีการใช้เวลากว่า 2 ปี ในการศึกษาวิจัยและพัฒนาระบบซีเอ็นจีมาตรฐานสากล ด้วยลิขสิทธิ์เฉพาะของเอสจีพีเอง และเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ซีเอ็นจี 3 ถัง 2 ระบบ ในประเทศไทย สหรัฐอเมริกา ยุโรป จีน และญี่ปุ่น
สำหรับเอสจีพี ซีเอ็นจี ปิกอัพ ติดตั้งอุปกรณ์ดัดแปลงซีเอ็นจีบนโครงสร้างของปิกอัพโตโยต้า มีให้เลือกทั้งแบบตอนเดียว มีแค็บ ดับเบิลแค็บ และที่กำลังได้รับความนิยมในรุ่นก้านกล้วย ซึ่งเป็นปิกอัพแบบพื้นเรียบที่มีจุดเด่นรองรับการบรรทุกได้มากสุด ใหญ่กว่ากระบะทั่วไป 20% ด้วยการออกแบบบนแชสซีที่แข็งแรงทนทาน จึงเหมาะกับการบรรทุกสินค้าที่มีน้ำหนักมาก ในราคาเพียงกว่า 6 แสนบาท โดยปิกอัพซีเอ็นจีของเอสจีพีได้รับการยอมรับ ทั้งจากกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ รถโดยสาร ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผู้ค้าขาย และกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป
“คาดว่าปีนี้จะมียอดขายกว่า 2,500 คัน โดยในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ขายไปเกือบ 2,000 คัน ซึ่งในปี 2556 ตั้งเป้าขายเพิ่มเป็น 3,500 คัน และเชื่อมั่นจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จากทิศทางและความต้องการของตลาด ต่อรถยนต์ใช้พลังงานซีเอ็นจี และโดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน หรือเออีซี(AEC) ที่จะทำให้เกิดการขนส่งยาวไกลขึ้น นี่จึงเป็นอีกส่วนหนึ่งในการตัดสินใจลงทุนเพิ่มกำลังการผลิต ด้วยการตั้งโรงงานใหม่ขึ้นมา” นายสุรยุทธิ์กล่าวและว่า
ส่วนการที่บริษัทรถหันมาทำตลาดปิกอัพซีเอ็นจี อาจจะส่งผลกระทบบ้าง แต่ทุกยี่ห้อทุกรุ่นย่อมมีความแตกต่าง และจุดเด่นของเอสจีพีปิกอัพที่นอกจากกล่าวไปแล้ว ยังให้การรับประกันคุณภาพถึง 5 ปี ขณะที่บริษัทรถส่วนใหญ่เพียง 3 ปีเท่านั้น เหตุนี้จึงเชื่อว่าลูกค้าที่ต้องการจุดคุ้มทุนเร็ว จะเลือกเอสจีพีซีเอ็นจีปิกอัพ ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีนโยบายเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการเพิ่มเป็น 15 แห่งในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันมี 11 แห่ง และจะเปิดเพิ่มอย่างต่อเนื่องในปีต่อๆ ไป