xs
xsm
sm
md
lg

กองทุนภัยพิบัติโชว์ทุนประกัน ทะลุ6.2หมื่นล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คปภ. เผยยอดกรมธรรม์กองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ สิ้นปี 2555 ทะลัก 5.9 แสนฉบับ ขณะยอดทุนประกันภัยพิบัติอยู่ที่ 6.2 หมื่นล้านบาท ล่าสุดเผยอัตราเบี้ยประกันปรับลดลงหลังผู้เอาประกันตนมีความมั่นใจมากขึ้น จ่อช่วยชาวนาทั้งนาปีและนาปรัง

นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดถึงการดำเนินงานกองทุนช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาว่า ณ วันที่ 28 มีนาคม 2555 ถึงวันที่ 7 มกราคม 2556 ประชาชนและภาคธุรกิจได้ให้ความสำคัญต่อการทำประกันภัยพิบัติสูงขึ้น โดยมียอดจำหน่ายรวมจำนวนทั้งสิ้น 591,167 ฉบับ จากบริษัทประกันภัยทั้งสิ้น 52 บริษัท ทุนประกันภัยพิบัติ 62,985 ล้านบาทและมูลค่าเบี้ย 450 ล้านบาท ขณะที่เป็นทุนประกันภัยต่อตามสัดส่วนของกองทุนฯ 47,864 ล้านบาท เบี้ยประกันต่อตามสัดส่วนฯจำนวน 359 ล้านบาท และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน

ทั้งนี้กองทุนได้ดำเนินการรับประกันภัยต่อสำหรับกลุ่มบ้านที่อยู่อาศัยจำนวน 539,946 ฉบับ หรือคิดเป็น 91% ของกรมธรรม์ทั้งหมด , กลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม 47,476 ฉบับ หรือคิดเป็น 8% ของกรมธรรม์ทั้งหมด และกลุ่มอุตสาหกรรม 3,745 ฉบับ หรือคิดเป็น 1% ของกรมธรรม์ทั้งหมด

โดยมีทุนประกันภัยต่อ ในกลุ่มบ้านที่อยู่อาศัย 26,393 ล้านบาท หรือคิดเป็น 55% ของทุนประกันภัยต่อฯ ทั้งหมด กลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม 7,350 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15% ของทุนประกันภัยต่อทั้งหมด และกลุ่มอุตสาหกรรม 14,121 ล้านบาท หรือคิดเป็น 30%ของทุนประกันภัยต่อทั้งหมด สำหรับเบี้ยประกันภัยต่อกลุ่มบ้านที่อยู่อาศัยมีจำนวน 132 ล้านบาท หรือคิดเป็น 37% ของเบี้ยประกันภัยต่อทั้งหมด กลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม มีจำนวน 71 ล้านบาท หรือคิดเป็น 20% ของเบี้ยประกันภัยต่อทั้งหมด และกลุ่มอุตสาหกรรมมีจำนวน 159 ล้านบาท หรือคิดเป็น 43% ของเบี้ยประกันภัยต่อทั้งหมด

นอกจากนั้นประชาชนและภาคธุรกิจในเขตกรุงเทพฯ ตระหนักถึงการซื้อประกันความเสี่ยงภัยพิบัติสูงสุดด้วยจำนวนกรมธรรม์180,626 ฉบับ หรือคิดเป็น 30% ของกรมธรรม์ทั้งหมด คิดเป็นเบี้ยประกัน 116 ล้านบาท หรือคิดเป็น 26% ของเบี้ยประกันทั้งหมดเป็นทุนประกันภัยต่อตามสัดส่วนของกองทุนฯ 13,523 ล้านบาท หรือคิดเป็น 28% ของทุนประกันภัยต่อตามสัดส่วนของกองทุนฯ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกลุ่มบ้านที่อยู่อาศัยจำนวน 9,166 ล้านบาท

นายประเวช กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า กองทุน ณ ปัจจุบันเราได้มีการติดตามภาวะในเชิงบวก และมีปัจจุบันได้มีการปรับลดอัตราเบี้ยประกันลง ดังนั้นในช่วงอีก 2 เดือนข้างหน้าอาจจะมีการพิจารณาอีกทีในเรื่องของขนาดของกองทุนควรจะมีการปรับลดลงรวมถึงบริษัทประกันภัยต่อต่างประเทศที่มีจำนวนที่ถูกลง เพราะหลังจากภาวะเริ่มคลี่คลาย แต่อย่างไรก็ตามเราได้มีการติดตามสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา เพราะทุกวันนี้ไม่ใช่ว่าจะมีเพียงน้ำท่วม ยังมีภัยที่เกิดจากพายุ แผ่นดินไหว ด้วย ดังนั้นกองทุนดังกล่าวจึงได้มีการให้ความช่วยเหลือไปยังกลุ่มชาวนา ทั้งนาปีและนาปรัง

ด้านนายพยุงศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ในช่วงปี 2556 นี้ เราได้มีการวางแผนและกำหนดแผนการและแนวความคิดเมื่อมีประกันภัยมากขึ้น เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นเพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ เพราะทุกวันนี้การจัดการสินไหมทดแทนดีขึ้น มีความสะดวกมากขึ้น ความคุ้มครองเบี้ยประกันมีความสมดุลมากยิ่งขึ้น บริษัทประกันภัยสามารถทำธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องด้วย

"ในส่วนของภาคธุรกิจเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ความเชื่อมั่นมากขึ้น เบื่อประกันเริ่มลดลง เราจะยังคงอยู่ต่อไปหรือไม่เพราะเราจัดตั้งมาแบบ พ.ร.บ. แต่อย่างไรก็ตาม ภัยที่เกิดขึ้นยังมีอีกมาก เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว พายุ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามกองทุนได้มีการขยายความช่วยเหลือออกไปยังชาวนาด้วย ทั้งข้าวนาปีและนาปรังที่เกิดขึ้นกับภัยต่าง ๆ เพราะในเชิงของนโยบายได้จัดสร้างให้มีความสมดุล" นายพยุงศักดิ์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น