ภาพที่ทหารในเครื่องแบบเดินไปบ้านพระอาทิตย์ที่ทำงานของ ASTV เมื่อวันศุกร์ และเสาร์ที่ผ่านมานั้นไม่สวยเลยครับ แม้จะเป็นข่าวกระพร่องกระแพร่งในประเทศ หนังสือพิมพ์หลายฉบับ โทรทัศน์หลายช่องไม่ได้ให้ความสนใจนำเสนอข่าวดังกล่าว แต่ก็ดังไปทั่วโลก เพราะสำนักข่าวต่างประเทศให้ความสนใจ
เรื่องของเรื่องมาจากการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกเกี่ยวกับกรณีที่จะมีการชุมนุมของประชาชนในเรื่องเขาพระวิหาร ซึ่งกำลังเป็นความกันอยู่กับกัมพูชาในศาลโลก คนไทยส่วนหนึ่งไม่พอใจรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ออกมาพูดล่วงหน้าไว้ก่อนให้ประชาชนไทยยอมรับคำตัดสินของศาลโลก ซึ่งจะมีผลแพ้หรือไม่ก็เสมอตัว
การออกมาพูดล่วงหน้าของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเช่นนี้ คนไทยส่วนหนึ่งเห็นว่ามันเหมือนเป็นการสมยอม เป็นการไม่รักษาผลประโยชน์ของประเทศ และจะทำให้ไทยเสียดินแดนอย่างแน่นอน ถ้าหากเป็นอย่างที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออกมาพูด จึงจะชุมนุมกดดันรัฐบาลให้ต่อสู้อย่างจริงจังบนเวทีศาลโลก
นักข่าวถามถึงถ้ากลุ่มพันธมิตรฯ ร่วมชุมนุม....?
เท่านั้นแหละ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ท่านก็ระเบิดอารมณ์ขึ้นมาทันที เพราะกลุ่มพันธมิตรฯ หมายถึงเสื้อเหลือง หมายถึง ASTV หมายถึงหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะผู้บัญชาการทหารบกอย่างตรงไปตรงมา
เรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์นั้นมาจากงานในหน้าที่ผู้บัญชาการทหารรบกของท่านที่ไม่ออกมาปกป้องบรรดาทหารทั้งหลายที่รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองในเหตุการณ์เมษายน/พฤษภาคม 2553 ปล่อยให้ตำรวจ ปล่อยให้ดีเอสไอไล่บี้ทหารใต้บังคับบัญชาของท่าน
ปล่อยให้พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ตายฟรี
หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ หรือนักพูด นักวิจารณ์การบ้านการเมืองแสดงความผิดหวังในตัวผู้บัญชาการทหารบกหลายครั้งเข้า
เมื่อมีใครพูดถึง ASTV ท่านจึงถามด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียวว่า ASTV หรือหนังสือพิมพ์ผู้จัดการเอาศักดิ์ศรีอะไรมาวิพากษ์วิจารณ์ท่าน
ท่านถึงกับระบุคำว่า “ห่วยแตก” ออกมา โดยที่ท่านผู้บัญชาการทหารบกไม่รู้เลยว่า การชุมนุมที่ว่านั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับ ASTV สักนิด ไม่เกี่ยวข้องกับเสื้อเหลืองหรือกลุ่มพันธมิตรฯ เลยสักหน่อย เป็นกลุ่มอื่นที่เขาก็ห่วงใยชาติบ้านเมืองเหมือนกัน และก็ไม่เห็นจะต้องโกรธจะต้องฉุนเฉียวกับการที่มีคนไทยออกมาแสดงความรักชาติ รักประเทศ รักแผ่นดิน
ถ้าเคืองว่าเขาเป็นพวกคลั่งชาติ ก็ยังดีกว่าคนที่ไม่ขายชาติหรอกน่า
โดนเข้าไม้นี้ ASTV ผู้จัดการ ก็ย้อนคืนท่านบ้างว่า ท่านนั่นแหละห่วยแตก และห่วยแตกในเรื่องใดบ้างก็จาระไนออกมา ซึ่งเป็นที่มาของบรรดาทหารร้อยกว่าคนที่ตบเท้าไปที่บ้านพระอาทิตย์ เรียกร้องให้ ASTV ขอโทษผู้บัญชาการทหารบก
ซึ่งนอกจากไม่ได้รับคำขอโทษแล้ว ยังเป็นข่าวฉาวโฉ่ไปทั่วโลกอีกด้วย
เมื่อไม่นานมานี้มีม็อบตำรวจไปกดดันที่พรรคประชาธิปัตย์เพราะไม่พอใจพรรคประชาธิปัตย์ที่เรียงหน้าออกมาวิพากษ์วิจารณ์ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กรณีที่เดินทางไปให้ ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคุกหนีคดีอีกหลายคดีประดับยศให้ แล้วเอารูปมาติดไว้ที่ทำงานเขียนบอกให้รู้ว่า มีวันนี้เพราะพี่ให้สังคมก็วิพากษ์วิจารณ์มาหนหนึ่งแล้ว
คราวนี้เป็นทหาร แน่นอนไม่ผิดกฎหมายเพราะได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาแล้ว และก็ไม่ได้มาข่มขู่หรือทำร้ายใคร
แต่มาแสดงกำลัง แสดงพลังให้ชาวโลกเห็น ให้ชาวโลกรู้
แต่เป็นการแสดงพลังให้เห็นในขณะที่โลกทุกวันนี้เป็นโลกประชาธิปไตย เป็นโลกที่ใช้ตัวบทกฎหมาย ไม่ใช่ใช้กำลัง
ASTV ก็ดี หนังสือพิมพ์ผู้จัดการก็ดี มีเกียรติยศศักดิ์ศรีที่จะวิพากษ์วิจารณ์ผู้บัญชาการทหารบกได้แน่นอน อย่าว่าแต่ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกเลย นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ บุคคลสาธารณะอื่นๆ ASTV หนังสือพิมพ์ผู้จัดการก็วิพากษ์วิจารณ์มาแล้ว
ไม่ได้มีการยกเว้นให้ใครเป็นพิเศษ ยิ่งตำแหน่งสำคัญ หน้าที่การงานสำคัญก็ยิ่งจะอยู่ในสายตาของสื่อทั้งหลาย เพียงแต่สื่อจะทำหน้าที่สื่อที่ดีหรือจะประจบสอพลอ
นั่นก็เป็นอีกเรื่อง
แต่ ASTV หนังสือพิมพ์ผู้จัดการไม่ประจบ ไม่สอพลอแน่นอน
ปัญหาก็คือสิ่งที่ ASTV หรือหนังสือพิมพ์ผู้จัดการวิพากษ์วิจารณ์นั้นถูกหรือไม่ มีเหตุมีผลหรือไม่ เป็นเท็จหรือเป็นจริง สร้างความเสียหายให้แก่ผู้ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์หรือไม่ เป็นการหมิ่นประมาทหรือไม่ ย่อมมีตัวบทกฎหมายปกป้องคุ้มครองผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่แล้ว
บ้านเมืองเรามีทหาร มีกองทัพไว้สำหรับปกป้องอธิปไตยของชาติ เช่นเดียวกับที่มีตำรวจ มีอัยการ ทำงานด้านความยุติธรรมเบื้องต้น มีศาลเอาไว้ตัดสินคดีความตามตัวบทกฎหมาย มีคุกเอาไว้สำหรับขังคนผิดที่ศาลพิพากษาแล้ว เราพ้นจากยุคหินที่อยู่ในป่าในดอยในหุบเหวหรือไกลจากปี พ.ศ. 2499 มานานแล้วที่ไม่พอใจใครก็ยกกำลังไปสำแดงให้เห็นว่า แดง ไบเล่ จ๊อด ฮาวดี้ ใครมีกำลังสนับสนุนมากกว่ากัน ใครจะกินแดนบางลำพู ใครจะครองนางเลิ้ง
ทหารเป็นของกองทัพ ทหารต้องมีระเบียบวินัยครับ
เรื่องของเรื่องมาจากการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกเกี่ยวกับกรณีที่จะมีการชุมนุมของประชาชนในเรื่องเขาพระวิหาร ซึ่งกำลังเป็นความกันอยู่กับกัมพูชาในศาลโลก คนไทยส่วนหนึ่งไม่พอใจรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ออกมาพูดล่วงหน้าไว้ก่อนให้ประชาชนไทยยอมรับคำตัดสินของศาลโลก ซึ่งจะมีผลแพ้หรือไม่ก็เสมอตัว
การออกมาพูดล่วงหน้าของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเช่นนี้ คนไทยส่วนหนึ่งเห็นว่ามันเหมือนเป็นการสมยอม เป็นการไม่รักษาผลประโยชน์ของประเทศ และจะทำให้ไทยเสียดินแดนอย่างแน่นอน ถ้าหากเป็นอย่างที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออกมาพูด จึงจะชุมนุมกดดันรัฐบาลให้ต่อสู้อย่างจริงจังบนเวทีศาลโลก
นักข่าวถามถึงถ้ากลุ่มพันธมิตรฯ ร่วมชุมนุม....?
เท่านั้นแหละ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ท่านก็ระเบิดอารมณ์ขึ้นมาทันที เพราะกลุ่มพันธมิตรฯ หมายถึงเสื้อเหลือง หมายถึง ASTV หมายถึงหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะผู้บัญชาการทหารบกอย่างตรงไปตรงมา
เรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์นั้นมาจากงานในหน้าที่ผู้บัญชาการทหารรบกของท่านที่ไม่ออกมาปกป้องบรรดาทหารทั้งหลายที่รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองในเหตุการณ์เมษายน/พฤษภาคม 2553 ปล่อยให้ตำรวจ ปล่อยให้ดีเอสไอไล่บี้ทหารใต้บังคับบัญชาของท่าน
ปล่อยให้พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ตายฟรี
หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ หรือนักพูด นักวิจารณ์การบ้านการเมืองแสดงความผิดหวังในตัวผู้บัญชาการทหารบกหลายครั้งเข้า
เมื่อมีใครพูดถึง ASTV ท่านจึงถามด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียวว่า ASTV หรือหนังสือพิมพ์ผู้จัดการเอาศักดิ์ศรีอะไรมาวิพากษ์วิจารณ์ท่าน
ท่านถึงกับระบุคำว่า “ห่วยแตก” ออกมา โดยที่ท่านผู้บัญชาการทหารบกไม่รู้เลยว่า การชุมนุมที่ว่านั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับ ASTV สักนิด ไม่เกี่ยวข้องกับเสื้อเหลืองหรือกลุ่มพันธมิตรฯ เลยสักหน่อย เป็นกลุ่มอื่นที่เขาก็ห่วงใยชาติบ้านเมืองเหมือนกัน และก็ไม่เห็นจะต้องโกรธจะต้องฉุนเฉียวกับการที่มีคนไทยออกมาแสดงความรักชาติ รักประเทศ รักแผ่นดิน
ถ้าเคืองว่าเขาเป็นพวกคลั่งชาติ ก็ยังดีกว่าคนที่ไม่ขายชาติหรอกน่า
โดนเข้าไม้นี้ ASTV ผู้จัดการ ก็ย้อนคืนท่านบ้างว่า ท่านนั่นแหละห่วยแตก และห่วยแตกในเรื่องใดบ้างก็จาระไนออกมา ซึ่งเป็นที่มาของบรรดาทหารร้อยกว่าคนที่ตบเท้าไปที่บ้านพระอาทิตย์ เรียกร้องให้ ASTV ขอโทษผู้บัญชาการทหารบก
ซึ่งนอกจากไม่ได้รับคำขอโทษแล้ว ยังเป็นข่าวฉาวโฉ่ไปทั่วโลกอีกด้วย
เมื่อไม่นานมานี้มีม็อบตำรวจไปกดดันที่พรรคประชาธิปัตย์เพราะไม่พอใจพรรคประชาธิปัตย์ที่เรียงหน้าออกมาวิพากษ์วิจารณ์ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กรณีที่เดินทางไปให้ ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคุกหนีคดีอีกหลายคดีประดับยศให้ แล้วเอารูปมาติดไว้ที่ทำงานเขียนบอกให้รู้ว่า มีวันนี้เพราะพี่ให้สังคมก็วิพากษ์วิจารณ์มาหนหนึ่งแล้ว
คราวนี้เป็นทหาร แน่นอนไม่ผิดกฎหมายเพราะได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาแล้ว และก็ไม่ได้มาข่มขู่หรือทำร้ายใคร
แต่มาแสดงกำลัง แสดงพลังให้ชาวโลกเห็น ให้ชาวโลกรู้
แต่เป็นการแสดงพลังให้เห็นในขณะที่โลกทุกวันนี้เป็นโลกประชาธิปไตย เป็นโลกที่ใช้ตัวบทกฎหมาย ไม่ใช่ใช้กำลัง
ASTV ก็ดี หนังสือพิมพ์ผู้จัดการก็ดี มีเกียรติยศศักดิ์ศรีที่จะวิพากษ์วิจารณ์ผู้บัญชาการทหารบกได้แน่นอน อย่าว่าแต่ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกเลย นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ บุคคลสาธารณะอื่นๆ ASTV หนังสือพิมพ์ผู้จัดการก็วิพากษ์วิจารณ์มาแล้ว
ไม่ได้มีการยกเว้นให้ใครเป็นพิเศษ ยิ่งตำแหน่งสำคัญ หน้าที่การงานสำคัญก็ยิ่งจะอยู่ในสายตาของสื่อทั้งหลาย เพียงแต่สื่อจะทำหน้าที่สื่อที่ดีหรือจะประจบสอพลอ
นั่นก็เป็นอีกเรื่อง
แต่ ASTV หนังสือพิมพ์ผู้จัดการไม่ประจบ ไม่สอพลอแน่นอน
ปัญหาก็คือสิ่งที่ ASTV หรือหนังสือพิมพ์ผู้จัดการวิพากษ์วิจารณ์นั้นถูกหรือไม่ มีเหตุมีผลหรือไม่ เป็นเท็จหรือเป็นจริง สร้างความเสียหายให้แก่ผู้ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์หรือไม่ เป็นการหมิ่นประมาทหรือไม่ ย่อมมีตัวบทกฎหมายปกป้องคุ้มครองผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่แล้ว
บ้านเมืองเรามีทหาร มีกองทัพไว้สำหรับปกป้องอธิปไตยของชาติ เช่นเดียวกับที่มีตำรวจ มีอัยการ ทำงานด้านความยุติธรรมเบื้องต้น มีศาลเอาไว้ตัดสินคดีความตามตัวบทกฎหมาย มีคุกเอาไว้สำหรับขังคนผิดที่ศาลพิพากษาแล้ว เราพ้นจากยุคหินที่อยู่ในป่าในดอยในหุบเหวหรือไกลจากปี พ.ศ. 2499 มานานแล้วที่ไม่พอใจใครก็ยกกำลังไปสำแดงให้เห็นว่า แดง ไบเล่ จ๊อด ฮาวดี้ ใครมีกำลังสนับสนุนมากกว่ากัน ใครจะกินแดนบางลำพู ใครจะครองนางเลิ้ง
ทหารเป็นของกองทัพ ทหารต้องมีระเบียบวินัยครับ
