ม็อบไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มวนเดียวจบ จบลงไปแล้วตั้งแต่ก่อนค่ำวันที่ 24 พฤศจิกายน เหตุผลของการยุติการชุมนุมตามที่พลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ผู้นำองค์การพิทักษ์สยามประกาศก็คือ ค่ำแล้ว ผู้คนมาน้อยไม่ถึง 1 ล้าน หรือเอาแค่แสนคนก็ไม่ถึง เหตุสำคัญก็คือ ไม่ต้องการให้ประชาชนบาดเจ็บล้มตายแม้แต่คนเดียว
พลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ผู้นำการชุมนุมตระหนักดีว่า หากชุมนุมยืดเยื้อต่อไป ความรุนแรงจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะเค้าลางมันเกิดขึ้นตั้งแต่เช้าก่อนการชุมนุมแล้ว เมื่อตำรวจไม่ให้ประชาชนเดินผ่านสะพานมัฆวานฯ อ้างว่าเป็นเขตหวงห้าม และเมื่อประชาชนจะฝ่าไปให้ได้เพราะไม่เห็นว่าที่ตรงนั้นจะเป็นเขตหวงห้ามอย่างใด และเป็นเขตหวงห้ามตั้งแต่เมื่อไร
ในเมื่อองค์การพิทักษ์สยามประกาศจะชุมนุมที่ลานพระรูปทรงม้า มาเป็นสัปดาห์แล้ว การชุมนุมดังกล่าวเป็นสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ
แต่ทางการคือ รัฐบาลเห็นว่า การชุมนุมดังกล่าวเพื่อกดดันให้รัฐบาลลาออก รัฐบาลนี้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เป็นรัฐบาลประชาธิปไตย นายกรัฐมนตรีจะโง่เง่าเต่าตุนอย่างไร รัฐมนตรีบางคนจะมีพฤติกรรมสามหาวเหิมเกริมอย่างไร โครงการประชานิยมบางโครงการจะส่อให้ห็นการทุจริตอย่างไร ประชาชนจะต้องยอมรับ ถ้าหากมีปัญหาให้ไปพูดกันที่สภา (ทั้งที่ตาปีตาชาตินางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่เคยให้ความสำคัญต่อสภาเลย) ใครมากดดันให้รัฐบาลลาออกจะต้องเป็นเผด็จการ เป็นฝ่ายที่ต้องการการปกครองอื่นที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย
รัฐบาลนี้แม้จะมาจากการเลือกตั้ง แต่ก็เคยชุมนุมโดยการใช้ความรุนแรงเพื่อกดดันให้รัฐบาลขณะนั้น (รัฐบาลอภิสิทธิ์ลาออกหรือยุบสภา) เกรงว่า กลุ่มผู้ชุมนุมจะเอาอย่างที่ตัวและพวกเคยทำ จึงพยายามสกัดกั้นการชุมนุมทุกอย่าง เป็นต้นว่า ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอสกัดประชาชนในท้องถิ่นไม่ให้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมชุมนุม ผู้ร่วมชุมนุมจะได้ไม่มีจำนวนมากเป็นหมื่นเป็นแสน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พลเอกบุญเลิศเคยประกาศมาก่อนหน้าการชุมนุมแล้วว่า ถ้าหากประชาชนมาไม่ถึงล้านก็จะไม่ชุมนุม
การสกัดกั้นการชุมนุมนั้น ฝ่ายรัฐบาลทำทุกวิถีทาง แกนนำคนเสื้อแดงซึ่งสนับสนุนรัฐบาลบอกว่า จะเอาคนเป็นหมื่นเป็นแสนมาสู้กับการชุมนุมของพลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์
ทักษิณ ชินวัตร ผู้บงการรัฐบาลสั่งให้บรรดาเสื้อแดงซึ่งครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ทักษิณเคยถีบส่งมาแล้วว่าให้อยู่ในที่ตั้ง สั่งรวมพลเมื่อไร ต้องได้เมื่อนั้น
และเมื่อถึงวันชุมนุมก็ระดมตำรวจเป็นหมื่น อ้างว่า มาดูแลความสงบเรียบร้อย เริ่มต้นด้วยการยิงแก๊สน้ำตาใส่ประชาชนที่จะมาเข้าร่วมการชุมนุมที่สะพานมัฆวานฯ ตั้งแต่เช้าก่อนการชุมนุมเสียด้วยซ้ำ โดยอ้างว่าประชาชนฝ่าฝืนคำสั่งเข้าไปในที่หวงห้าม
ตกบ่ายก็มีกระแสข่าวมาตลอดว่า ตำรวจเอาแน่
พลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ผู้นำองค์การพิทักษ์สยามซึ่งเป็นมือใหม่หัดขับ เป็นสุภาพบุรุษคิดว่าการชุมนุมเป็นเรื่องง่ายๆ คิดแต่เพียงว่า มีประชาชนเป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้าน ทนไม่ได้กับรัฐบาลงี่เง้าปัญญาอ่อน ปัญญานิ่ม ประกาศชุมนุมขับไล่เมื่อไร ก็จะหลั่งไหลมาทั่วทุกสารทิศเป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้าน รัฐบาลก็จะลาออกเองซึ่งไม่ใช่ การชุมนุมทางการเมืองเป็นเรื่องยาก เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ผู้จัดการชุมนุมจะต้องคิดการณ์ล่วงหน้าว่า ทำอย่างไรประชาชนจะมาร่วมการชุมนุม มีประเด็นการชุมนุมที่ชอบธรรมหรือไม่ ถ้าหากประชาชนมาร่วมชุมนุมเป็นหมื่นเป็นแสนจะมีห้องน้ำห้องท่าพอไหม อาหารการกินจะทำอย่างไร ฝนตกแดดออกหรือไม่ เจ็บไข้ได้ป่วยมีฝ่ายรักษาพยาบาลไหม มีการรักษาความปลอดภัยให้ผู้ชุมนุมอย่างไร มีใครบ้างที่จะขึ้นไปพูดปลุกเร้าประชาชนที่มาร่วมชุมนุม คนพูดมีจิตวิทยามวลชนไหม ตรึงมวลชนไว้ได้หรือไม่
ที่สำคัญมีหมัดเด็ดหมัดน็อกอย่างไร ที่เป็นความถูกต้องเป็นธรรม (มิใช่ด้วยการก่อความรุนแรงเผาบ้านเผาเมืองอย่างการชุมนุมของบางกลุ่มที่เห็นกันมาแล้ว)
เมื่อพลเอกบุญเลิศ และบรรดาแกนนำในการชุมนุมคาดไม่ถึง มองผ่านแม้กระทั่งว่า ทุกวันนี้ รัฐนี้คือรัฐตำรวจ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลยังบอกว่า มีวันนี้เพราะพี่ให้ อธิบดีกรมตำรวจ ก็รับไม้ต่อจากพี่เมียของทักษิณ ชินวัตร ตำรวจอีกหลายต่อหลายนายก็ได้ดิบได้ดีเพราะทักษิณ ชินวัตร เช่นเดียวกัน
การบริหารประเทศทุกวันนี้ก็ไม่ต่างไปจากสารวัตรใหญ่คุมพื้นที่ร้านอาหาร ร้านข้าวต้ม อู่ซ่อมรถ บ่อน ซ่อง มึงไม่รู้จักคำว่า ส่วย กูก็จับ กูก็กวนไม่ให้ทำมาหากินได้สะดวก ตั้งแต่ตั้งร้านเกะกะกีดขวางทางจราจรขัดต่อ พ.ร.บ.รักษาความสะอาด โอ้ย สารพัดละ! ถ้าหากคุณพี่สารวัตรใหญ่เขาจะเอาเรื่อง
ทักษิณ กำลังทำให้ประเทศไทยเป็นอย่างที่ว่านี้ ท่านพลเอกบุญเลิศไม่รู้บ้างหรอกหรือ?
ทั้งหลายทั้งปวงนี้ ประชาชนทั้งหลายก็อย่าเพิ่งถอดใจ เคยบอกแล้วว่า จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จอมพลถนอม กิตติขจร จอมพลประภาส จารุเสถียร มีอาวุธตั้งแต่หัวจรดเท้ายังพ่ายแพ้พลังของประชาชนมาแล้ว ให้พวกเขาเคลิ้มไปเถอะว่า กำหราบมัน (ประชาชน) แค่นี้ก็อยู่หมัดแล้ว หนทางสะดวกโยธินแล้วที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ง่ายแล้วที่จะเอาร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ ออกมาพิจารณาอีกทีเพื่อช่วยพ่อทักษิณของพวกมันให้กลับประเทศ
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็จะเป็นนายกรัฐมนตรีจนครบเทอม และจะได้ต่ออีกเทอมเพื่อที่จะได้ แต้งกิ้ว ทรีไทม์
ฝันวานไปเถอะแม่คุณ!
พลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ผู้นำการชุมนุมตระหนักดีว่า หากชุมนุมยืดเยื้อต่อไป ความรุนแรงจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะเค้าลางมันเกิดขึ้นตั้งแต่เช้าก่อนการชุมนุมแล้ว เมื่อตำรวจไม่ให้ประชาชนเดินผ่านสะพานมัฆวานฯ อ้างว่าเป็นเขตหวงห้าม และเมื่อประชาชนจะฝ่าไปให้ได้เพราะไม่เห็นว่าที่ตรงนั้นจะเป็นเขตหวงห้ามอย่างใด และเป็นเขตหวงห้ามตั้งแต่เมื่อไร
ในเมื่อองค์การพิทักษ์สยามประกาศจะชุมนุมที่ลานพระรูปทรงม้า มาเป็นสัปดาห์แล้ว การชุมนุมดังกล่าวเป็นสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ
แต่ทางการคือ รัฐบาลเห็นว่า การชุมนุมดังกล่าวเพื่อกดดันให้รัฐบาลลาออก รัฐบาลนี้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เป็นรัฐบาลประชาธิปไตย นายกรัฐมนตรีจะโง่เง่าเต่าตุนอย่างไร รัฐมนตรีบางคนจะมีพฤติกรรมสามหาวเหิมเกริมอย่างไร โครงการประชานิยมบางโครงการจะส่อให้ห็นการทุจริตอย่างไร ประชาชนจะต้องยอมรับ ถ้าหากมีปัญหาให้ไปพูดกันที่สภา (ทั้งที่ตาปีตาชาตินางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่เคยให้ความสำคัญต่อสภาเลย) ใครมากดดันให้รัฐบาลลาออกจะต้องเป็นเผด็จการ เป็นฝ่ายที่ต้องการการปกครองอื่นที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย
รัฐบาลนี้แม้จะมาจากการเลือกตั้ง แต่ก็เคยชุมนุมโดยการใช้ความรุนแรงเพื่อกดดันให้รัฐบาลขณะนั้น (รัฐบาลอภิสิทธิ์ลาออกหรือยุบสภา) เกรงว่า กลุ่มผู้ชุมนุมจะเอาอย่างที่ตัวและพวกเคยทำ จึงพยายามสกัดกั้นการชุมนุมทุกอย่าง เป็นต้นว่า ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอสกัดประชาชนในท้องถิ่นไม่ให้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมชุมนุม ผู้ร่วมชุมนุมจะได้ไม่มีจำนวนมากเป็นหมื่นเป็นแสน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พลเอกบุญเลิศเคยประกาศมาก่อนหน้าการชุมนุมแล้วว่า ถ้าหากประชาชนมาไม่ถึงล้านก็จะไม่ชุมนุม
การสกัดกั้นการชุมนุมนั้น ฝ่ายรัฐบาลทำทุกวิถีทาง แกนนำคนเสื้อแดงซึ่งสนับสนุนรัฐบาลบอกว่า จะเอาคนเป็นหมื่นเป็นแสนมาสู้กับการชุมนุมของพลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์
ทักษิณ ชินวัตร ผู้บงการรัฐบาลสั่งให้บรรดาเสื้อแดงซึ่งครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ทักษิณเคยถีบส่งมาแล้วว่าให้อยู่ในที่ตั้ง สั่งรวมพลเมื่อไร ต้องได้เมื่อนั้น
และเมื่อถึงวันชุมนุมก็ระดมตำรวจเป็นหมื่น อ้างว่า มาดูแลความสงบเรียบร้อย เริ่มต้นด้วยการยิงแก๊สน้ำตาใส่ประชาชนที่จะมาเข้าร่วมการชุมนุมที่สะพานมัฆวานฯ ตั้งแต่เช้าก่อนการชุมนุมเสียด้วยซ้ำ โดยอ้างว่าประชาชนฝ่าฝืนคำสั่งเข้าไปในที่หวงห้าม
ตกบ่ายก็มีกระแสข่าวมาตลอดว่า ตำรวจเอาแน่
พลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ผู้นำองค์การพิทักษ์สยามซึ่งเป็นมือใหม่หัดขับ เป็นสุภาพบุรุษคิดว่าการชุมนุมเป็นเรื่องง่ายๆ คิดแต่เพียงว่า มีประชาชนเป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้าน ทนไม่ได้กับรัฐบาลงี่เง้าปัญญาอ่อน ปัญญานิ่ม ประกาศชุมนุมขับไล่เมื่อไร ก็จะหลั่งไหลมาทั่วทุกสารทิศเป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้าน รัฐบาลก็จะลาออกเองซึ่งไม่ใช่ การชุมนุมทางการเมืองเป็นเรื่องยาก เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ผู้จัดการชุมนุมจะต้องคิดการณ์ล่วงหน้าว่า ทำอย่างไรประชาชนจะมาร่วมการชุมนุม มีประเด็นการชุมนุมที่ชอบธรรมหรือไม่ ถ้าหากประชาชนมาร่วมชุมนุมเป็นหมื่นเป็นแสนจะมีห้องน้ำห้องท่าพอไหม อาหารการกินจะทำอย่างไร ฝนตกแดดออกหรือไม่ เจ็บไข้ได้ป่วยมีฝ่ายรักษาพยาบาลไหม มีการรักษาความปลอดภัยให้ผู้ชุมนุมอย่างไร มีใครบ้างที่จะขึ้นไปพูดปลุกเร้าประชาชนที่มาร่วมชุมนุม คนพูดมีจิตวิทยามวลชนไหม ตรึงมวลชนไว้ได้หรือไม่
ที่สำคัญมีหมัดเด็ดหมัดน็อกอย่างไร ที่เป็นความถูกต้องเป็นธรรม (มิใช่ด้วยการก่อความรุนแรงเผาบ้านเผาเมืองอย่างการชุมนุมของบางกลุ่มที่เห็นกันมาแล้ว)
เมื่อพลเอกบุญเลิศ และบรรดาแกนนำในการชุมนุมคาดไม่ถึง มองผ่านแม้กระทั่งว่า ทุกวันนี้ รัฐนี้คือรัฐตำรวจ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลยังบอกว่า มีวันนี้เพราะพี่ให้ อธิบดีกรมตำรวจ ก็รับไม้ต่อจากพี่เมียของทักษิณ ชินวัตร ตำรวจอีกหลายต่อหลายนายก็ได้ดิบได้ดีเพราะทักษิณ ชินวัตร เช่นเดียวกัน
การบริหารประเทศทุกวันนี้ก็ไม่ต่างไปจากสารวัตรใหญ่คุมพื้นที่ร้านอาหาร ร้านข้าวต้ม อู่ซ่อมรถ บ่อน ซ่อง มึงไม่รู้จักคำว่า ส่วย กูก็จับ กูก็กวนไม่ให้ทำมาหากินได้สะดวก ตั้งแต่ตั้งร้านเกะกะกีดขวางทางจราจรขัดต่อ พ.ร.บ.รักษาความสะอาด โอ้ย สารพัดละ! ถ้าหากคุณพี่สารวัตรใหญ่เขาจะเอาเรื่อง
ทักษิณ กำลังทำให้ประเทศไทยเป็นอย่างที่ว่านี้ ท่านพลเอกบุญเลิศไม่รู้บ้างหรอกหรือ?
ทั้งหลายทั้งปวงนี้ ประชาชนทั้งหลายก็อย่าเพิ่งถอดใจ เคยบอกแล้วว่า จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จอมพลถนอม กิตติขจร จอมพลประภาส จารุเสถียร มีอาวุธตั้งแต่หัวจรดเท้ายังพ่ายแพ้พลังของประชาชนมาแล้ว ให้พวกเขาเคลิ้มไปเถอะว่า กำหราบมัน (ประชาชน) แค่นี้ก็อยู่หมัดแล้ว หนทางสะดวกโยธินแล้วที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ง่ายแล้วที่จะเอาร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ ออกมาพิจารณาอีกทีเพื่อช่วยพ่อทักษิณของพวกมันให้กลับประเทศ
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็จะเป็นนายกรัฐมนตรีจนครบเทอม และจะได้ต่ออีกเทอมเพื่อที่จะได้ แต้งกิ้ว ทรีไทม์
ฝันวานไปเถอะแม่คุณ!