เจาะโผนครบาลปีทองของ “คำรณวิทย์”

ตรงเป้า

ศรรามา

“อั๊วให้ลื้อมามากแล้วเที่ยวนี้ต้องแบ่งให้คนอื่นบ้างเขาจะได้มีเพาเวอร์”ชายหน้าเหลี่ยมโทร.จากแดนไกลถึงชายหน้าดำในเมืองไทยเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับสารวัตรถึงรองผู้บังคับการและยังโทร.ถึงหญิงหน้าซาละเปาในเรื่องเดียวกันด้วยเพียงแต่เปลี่ยนสรรพนามให้อ่อนโยนเหมือนพี่เหมือนน้อง

ก็เป็นที่รู้กันอยู่ทั่วไปไม่ใช่เฉพาะแวดวงสีกากีเท่านั้นการแต่งตั้งโยกย้ายระดับสูงกว่ารองผู้บังคับการที่ผ่านมาศูนย์รวม “ใบสั่ง - ใบฝาก”อยู่ที่เจ๊หน้าซาละเปาและที่บังหน้าดำแต่คราวนี้มีคำสั่งเฉียบขาด จากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตัวจริงเสียงจริงไม่ว่าชายหรือหญิงเจ้าของศูนย์รวมที่เคยผยองพองขนต่างถอดสีศิโรราบไม่กล้าหือกล้าอือกลายเป็นสีกากีระดับ“มีวันนี้เพราะพี่ให้”ที่มีอยู่เกลื่อนกลาดผงาดขึ้นมาแทน

แต่งตั้งโยกย้ายหรือโยกเยกเที่ยวนี้มีคำเรียกขานตำแหน่งเกิดขึ้นเป็นตำแหน่งเดิมแต่เปลี่ยนชื่อใหม่ให้มันสับสนเล่นๆ น่าจะเป็นความคิดของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล รอง ผบ.ตร.หัวหน้าฝ่ายบริหาร

ตำแหน่งพนักงานสอบสวนสัญญาบัตร1(พงส. สบ.1)เทียบเท่ารองสารวัตร เปลี่ยนชื่อเป็น“พนักงานสอบสวน”(พงส.)

ตำแหน่งพนักงานสอบสวนสัญญาบัตร 2 (พงส. สบ.2)เทียบเท่าสารวัตร เปลี่ยนชื่อเป็น“พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ”(พงส. ผนก.)

ตำแหน่งพนักงานสอบสวนสัญญาบัตร 3(พงส. สบ.3) เทียบเท่ารองผู้กำกับการ เปลี่ยนชื่อเป็น“พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ”(พงส. ผนพ.)

ตำแหน่งพนักงานสอบสวนสัญญาบัตร 4 (พงส. สบ.4)เทียบเท่าผู้กำกับการ เปลี่ยนชื่อเป็น“พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ”(พงส. ผทค.)

และมีตำแหน่งพนักงานสอบสวนผู้เชี่ยวชาญ(ผงส.ผชช.)เทียบเท่ารองผู้บังคับการ ประจำกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดด้วย

ปกติตำแหน่ง พงส.สบ. 4 หรือ พงส.ผทค.จะประจำทุกกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัจจุบันนำร่องแต่งตั้งประจำสถานีตำรวจภูธรเมืองคาดว่าจะแต่งตั้งไปอยู่สถานีตำรวจใหญ่ต่อไป

ก็นี่แหละเรื่องไม่เป็นเรื่องก็ทำให้เป็นเรื่องส่วนเรื่องที่น่าจะนำมาแก้ไขไม่ยักกะทำ อย่างเช่นชื่อสถานีตำรวจภูธรแต่เดิมระบุ“อำเภอหรือตำบล”อยู่ด้วยแต่มาสมัย พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียาเวส เป็น ผบ.ตร.สั่งตัดคำว่าอำเภอและตำบลออกไม่รู้ด้วยเหตุผลอะไรแต่ที่แน่ ๆ สถานีตำรวจภูธรทุกแห่งทั่วประเทศต้องจัดทำป้ายสถานีตำรวจใหม่

หรืออย่างชื่อสถานีตำรวจที่ซ้ำกันอย่างเช่น สภ.โชคชัย ของจังหวัดนครราชสีมา กับ สน.โชคชัย ของนครบาล 4ไม่มีสติปัญญาเปลี่ยนแปลงอ้างแต่ว่ารู้กันอยู่นั่นเป็นภูธรนี่เป็นนครบาล

โผนครบาลเที่ยวนี้อะร้าอร่ามจริงๆ เลื่อนตำแหน่งสับเปลี่ยนตำแหน่งภายในหน่วย มีจำนวนถึง 468 นายโยกเยกมาจากหน่วยอื่น 234 นาย รวมทั้งหมด 707 นายมากมายมหาศาลกว่าทุกกองบัญชาการ

ขณะที่สำนักงาน ก.ตร.และสำนักงานก.ต.ช.แต่งตั้งเพียงหน่วยละ1นาย

พ.ต.ต.วิโรจน์ รัตนตรัยเจริญ สว.ฝ่ายอำนวยการ กองร้องทุกข์ สำนักงาน ก.ตร.เป็น สว.ฝ่ายนิติการ กองตรวจสอบและทะเบียนประวัติ สำนักงาน ก.ตร. และ พ.ต.ท.สุทธพร นราพงศ์ รอง ผกก.ฝ่ายการประชุม สำนักงานก.ต.ช.เป็นรอง ผกก.ฝ่ายนโยบายส่งเสริมการมีส่วนร่วม สำนักงาน ก.ต.ช.

นครบาลมีการยกฐานะสถานีตำรวจ 2 แห่ง จากสารวัตรใหญ่เป็นหัวหน้าเขยิบเป็นผู้กำกับการเป็นหัวหน้า สน.บวรมงคล บก.น.7 และ สน.ปากคลองสาน บก.น.8 ทำให้ 2 สน.มีตำแหน่งรอง ผกก.ป. กับรอง ผกก.สส.เพิ่มขึ้นมา รวมทั้ง สว.จร.ด้วย

พ.ต.อ.ภิญโญ ป้อมสถิตย์ นายเวร (สบ.4) จเรตำรวจ(คำสั่งระบุอย่างนี้น่าจะเป็นนายเวรของจเรตำรวจแห่งชาติมากกว่า) เป็น ผกก.สน.บวรมงคล คนแรก

พ.ต.ท.สมเกียรติ เริงหิรัญ รอง ผกก.สส.สน.โคกคราม เป็นรอง ผกก.ป.สน.บวรมงคล พ.ต.ท.พิศณุ วิทยาภรณ์ รอง ผกก.สส.สน.บุปผาราม เป็นรอง ผกก.สส.สน.บวรมงคล

พ.ต.อ.ไมตรี ศิลปเสวี ผกก.ฝอ.น. 9 เป็น ผกก.สน.ปากคลองสานคนแรก พ.ต.ท.สมบูรณ์ อินทร์สิงห์ รอง ผกก.ควบคุมฝูงชน1 บก.อารักขาและควบคุมฝูงชนเป็นรอง ผกก.ป.สน.ปากคลองสาน พ.ต.ท.นครินทร์ งามถ้อย รอง ผกก.ฝอ.2 อก.บช.น. เป็นรอง ผกก.สส.สน.ปากคลองสาน ร.ต.ต.รัตนเทพ เพชรปานกัน นายเวร (สบ.1) ผบก.น.4 เป็น สว.จร.สน.ปากคลองสาน

ผกก.ที่มีรอยตำหนิไม่ว่าจะเป็นเรื่องบ่อนการพนันในพื้นที่สถานบริการไม่เอาใจใส่ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับบาดเจ็บจากการปกิบัติหน้าที่หรือปล่อยปละละเลยบกพร่องในด้านบังคับบัญชาต่อผู้ใต้บังคับบัญชาหรือมีการแห่ศพประท้วงเจ้าหน้าที่ต่างกระเด้งกระดอนไปตามสถานะ

พ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ ผกก.สน.ห้วยขวาง เป็น ผกก.สน.ศาลาแดง พ.ต.อ.ธนกฤต ไชยจารุวุฒิ ผกก.สน.บางขุนเทียน เป็น ผกก.ฝอ.น.2 พ.ต.อ.มาโนช รัตนโชติ ผกก.สน.พระโชนง เป็น ผกก.สน.ลำหิน พ.ต.อ.สิทธิภาพ ใบประเสริฐ ผกก.สน.คลองตัน เป็น ผกก.สน.หนองจอก พ.ต.อ.จักร อ่อนนิ่ม ผกก.สน.ประชาชื่น เป็น ผกก.สภ.ทุ่งหัวช้าง จว.ลำพูน

มีนายเวรของบิ๊กสีกากีไหลเข้านครบาลมากมาย พ.ต.อ.รัชพล บุนนาค ผู้ช่วย นว.(สบ.4) ผบ.ตร. (พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์) เป็น ผกก.สน.บางรัก พ.ต.ท.ดลชัย ปิ่นปัก ผู้ช่วย นว.(สบ.3) หัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ (พล.ต.บอ.ชลธาร จิราณรงค์) เป็นรอง ผกก.ป.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.ธีรศักดิ์ เธียรประเสริฐ ผู้ช่วย นว.(สบ.3) รอง ผบ.ตร. (พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต) เป็นรอง ผกก.สส.สน.พญาไท พ.ต.ท.ธัชพงศ์ สารวนางกูร ผู้ช่วย นว.(สบ.3) รอง ผบ.ตร. (พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา)เป็นรอง ผกก.จร.สน.พลับพลาไชย 1 พ.ต.ท.เธียรธวัช อรรจนะเวทางค์ ผู้ช่วย นว.(สบ.3) รอง ผบ.ตร. (พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์) เป็นรอง ผกก จร.สน.พระโชนง ส่วน พ.ต.อ.อาณัติ ภุมรินทร์ นว. (สบ.5) ผบ.ตร. (พล.ต.อ.เพรียวพันธ์) เป็นรอง ผบก.ตรวจคนเข้าเมือง 3

แต่ไฮไลท์อยู่ที่ พ.ต.ท.ทวีป โพธิ์แก้ว เป็นรอง ผกก.สส.บก.น.4 ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2546 เป็นเวลา 9 ปีโยกย้ายเที่ยวนี้ยังอยู่ในตำแหน่งเดิมไปเป็นรอง ผกก.สส.บก.น.3 พ.ต.ท.มนต์ชัย รัตนะวิศ นั่งเก้าอี้รอง ผกก.ป.สน.บึงกุ่ม ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2547 น้อยกว่า พ.ต.ท.ทวีปปีเดียวได้เป็น ผกก.สน.แสมดำ

ปีนี้นับเป็นปีทองของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.นครบาล นอกจากได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้เป็นนายตำรวจราชสำนักเวรได้ประดับพระปรมาภิไธยย่อ ภปร.บนบ่ายังได้เป็นประธานบอร์ดการท่าเรือแห่งประเทศไทยโดยมีพลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก เป็นแค่กรรมการ

ไม่ต้องบอกว่าพระปรมาภิไธยย่อที่ประดับบนบ่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวงขนาดไหนยิ่งกว่าและเหนือกว่าสิ่งใดๆ ในชีวิต "คำรณวิทย์" ย่อมรู้ดีและสำนึกดีมิใช่หรือ.