วานนี้ (13 ม.ค. 56) เวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เพื่อพิจารณาผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. โดยมีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธาน
จากนั้นเวลา 11.00 น. กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยนำโดยนายจารุพงศ์ นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค ร่วมกันแถลงภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น โดยนายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ได้มีการเสนอชื่อพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร.และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมรายชื่อเดียว ซึ่งที่กรรประชุมมีมติเอกฉันท์ ส่งพล.ต.อ.พงศพัศลงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. พร้อมแต่งตั้งนายภูมิธรรม เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้ง
นายภูมิธรรม กล่าวว่า เหตุผลที่เลือกพล.ต.อ.พงศพัศ เนื่องจากมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เป็นนายตำรวจที่คลุกคลีกับประชาชน ซึ่งเช้าวันที่ 15 ม.ค.นี้ พล.ต.อ.พงศพัศจะเดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค จากนั้นจะเปิดตัวเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ของพรรคอย่างเป็นทางการ และเป็นโอกาสที่พล.ต.อ.พงศพัศจะพูดความในใจพร้อมกับเปิดตัวนโยบายสำหรับการเลือกตั้ง สิ่งสำคัญคือข้อเสนอการบริหารจัดการปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมและผู้สมัครที่พรรคเลือกจะประสานงานระหว่างท้องถิ่น คือกทม.กับรัฐบาลในการแก้ปัญหาของ กทม. สามารถตอบสนองต่อแนวนโยบายการบริหารจัดการได้อย่างเต็มที่ ส่วนทีมรองผู้ว่าฯ กทม.จะเปิดตัวในวาระโอกาสต่างๆ หลังจากนี้ อย่างไรก็ตามในส่วนของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทยได้อยู่ในทีมงานที่จะช่วยเรื่องการเมืองการเลือกตั้งด้วย สัปดาห์ที่ผ่านมาได้เข้ามาช่วยดูเรื่องนโยบาย จึงเป็นสิ่งยืนยันว่าไม่มีปัญหา ทุกคนช่วยกันทำงานเต็มที่
นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า กองอำนวยการการเลือกตั้งจะทำงานร่วมกับกรรมการทุกส่วนภายในพรรค ไม่ว่าจะเป็นกรรมการทั้ง 3 โซนของ กทม. กรรมการยุทธศาสตร์ คณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ โดยมีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานที่ปรึกษา อย่างไรก็ตามจากผลโพลล์ของพรรคเพื่อไทยที่ได้ทำการสำรวจความเห็นของประชาชนใน กทม.ทำให้พรรคมีความมั่นว่าผู้สมัครที่พรรคเลือกเป็นบุคคลซึ่งเป็นที่รู้จักของประชาชนและมีศักยภาพ ขณะที่นโยบายจะมีทั้งนโยบายภาพรวมสำหรับ กทม.และนโยบายย่อยเฉพาะลักษณะพื้นที่
นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ว่า สำหรับแนวทางการปฏิบัติของสมาชิกพรรคเพื่อไทยในการช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ของพรรค โดยเฉพาะสมาชิกที่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรรมการบริหารพรรคเป็นห่วงว่าจะมีการหยิบยกมาเป็นประเด็นว่าใช้ตำแหน่งทางการเมืองไปช่วย ดังนั้นในที่ประชุมส.ส.วันที่ 15 ม.ค.นี้ หัวหน้าพรรคจะเน้นย้ำแนวทางการหาเสียง และแจกเป็นคู่มือให้กับสมาชิก รวมทั้งติดประกาศถึงละเอียดการปฏิบัติตัวในการหาเสียง โดยให้ยึดถือตามระเบียบประกาศกทม.อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้สมาชิกที่เป็นข้าราชกาการเมืองซึ่งไปช่วยหาเสียงถูกร้องว่าไม่เป็นกลางหรือให้คุณให้โทษกับผู้สมัคร เพราะพรรคต้องการให้การหาเสียงเป็นไปอย่างโปร่งใส ไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลังอีก
นายพร้อมพงศ์ แถลงว่า เป็นห่วงข้าราชการเมืองไปช่วยหาเสียงรณรงค์การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ดังนั้นที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค จึงเสนอให้หัวหน้าพรรคลงนามเป็นคำสั่งห้าม โดยยึดระเบียบจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกรุงเทพฯ (กกต.กทม.) ประกาศอย่างเคร่งครัด ตั้งแต่ปี 2551-2555 ให้สมาชิกพรรคปฏิบัติ โดยจะมีการแจกคู่มือ และปิดประกาศให้ทราบ เพื่อป้องกันสมาชิกพรรคเพื่อไทยหาเสียงในส่วนข้าราชการเมือง อาจถูกร้องว่าไม่เป็นกลาง หรือใช้เวลาราชการไปหาเสียง หรือให้คุณให้โทษผู้สมัคร
พ.ต.ท.พัทธนนท์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ช่วยนายเวร พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เปิดเผยวันนี้ (13 ม.ค.)ว่า พล.ต.อ.พงศพัศ ทราบแล้ว ถึงมติพรรคเพื่อไทย ที่ส่งชื่อลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ในนามพรรค โดยพร้อมจะลงชิงชัยในการหาเสียงเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. แน่ ซึ่งวันที่ 14 ม.ค. พล.ต.อ.พงศพัศ จะยื่นหนังสือ ลาออกจากตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. ต่อ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. และในวันเดียวกัน จะยื่นหนังสือลาออกถึง เลขาฯ กระทรวงยุติธรรม จากตำแหน่ง เลขา ป.ป.ส. ด้วย
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดเว็บไซต์ และนำเอาโซเชียลมีเดียเข้ามาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ให้กับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการติดตามข่าวสาร ภายใต้สโลแกน “รักกรุงเทพ ร่วมสร้างกรุงเทพ” และร่วมนำเสนอข้อมูลต่างๆได้
ทั้งนี้ ยังเปิดนโยบายหลักของพรรคในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ คือการนำเสนอนโยบายการสร้างกรุงเทพเป็นมหานคร 7 ด้าน ได้แก่ การสร้างกรุงเทพให้เป็นเมืองแห่งความปลอดภัย , ความสุข , ความสะอาด , การเรียนรู้ , เมืองของทุกคน และเป็นมหานครแห่งอาเซียน ซึ่งรายละเอียดต่างๆประชาชนสามารถเข้าไปดูไปทางเฟสบุ๊คของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ หรือ เว็บไซต์ www.sukhumbhand.com
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ และทีมงานจะลงพื้นที่หาเสียงพร้อมชูนโยบายหลักที่ย่านเยาวราช โดยจะเริ่มต้นที่โรงพยาบาลเทียมฟ้า ไปตามถนนเยาวราช และจะไปสิ้นสุดที่วัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร
อีกด้านบริเวณสวนสมเด็จย่า 84 ถนนวิภาวดี นายโฆสิต สุวินิจจิต ว่าที่ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯราชการกรุงเทพมหานคร แถลงข่าวเปิดนโยบายกรุงเทพฯ 4 นโยบายแก้ไขปัญหาเร่งด่วนและสามารถทำได้ทันที ภายใต้กรอบ “ กรุงเทพฯ 24 ชั่วโมง” โดย 4 นโยบายนั้นคือ แก้ไขปัญหาจราจร พัฒนาการศึกษา เศรษฐกิจ รองรับ AEC และบริการ 24 ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
เช่น นโยบาย กรุงเทพฯเดินทางสะดวก 24 ชั่วโมง โดยจะเน้นการแก้ปัญหาจราจร เพื่อให้การเดินทางในกรุงเทพฯสะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น คือ ติดป้ายบอกทางให้มากขึ้น เนื่องจากสาเหตุหลัก อีกสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้กรุงเทพฯ รถติด คือ คนขับรถหลงทาง เนื่องจากมีป้ายบอกทางน้อย บอกทางไม่ชัดเจน จึงได้เกิดปัญหาดังกล่าว
ซึ่งการติดตั้งป้ายหาเสียงของตนในวันนี้ก็จะเน้นให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนให้มากที่สุด ดีกว่าการติดป้ายหาเสียงแบบเดิมๆ ที่สามารถปัญหาการจราจรเพิ่มให้กับประชาชนที่ใช้ยวดยานในท้องถนน โดยจะติดตั้งบอกเส้นทางทั้งทางลัด ทางแยก และระยะทาง เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์ในการเดินทาง รวมถึงนโยบายการเรียนรู้ 24 ชั่วโมง นโยบาย ทำงาน 24 ชั่วโมง และนโยบายปลอดภัย 24 ชั่วโมง
นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. กล่าวถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ว่า สำนักงานกกต.กทม. ได้เตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หลังจากผลการลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ไว้หมดแล้ว เบื้องต้นคาดว่าในวันที่ 21 - 25 ม.ค.นี้ จะสามารถเปิดรับสมัครผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานครได้ และวันเลือกตั้งคือวันที่ 3 มี.ค. ขณะเดียวกันนับตั้งแต่ประกาศให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. แล้ว ผู้สมัครก็สามารถหาเสียงได้ตามปกติเหมือนกับการเลือกตั้งท้องถิ่นและเลือกตั้งส.ส.ทั่วไป
โดยกกต.มีชุดสืบสวนและชุดป้องปราม ลงไปตรวจสอบในพื้นที่ทั้ง 88 สถานีแล้ว หากผู้สมัครรายใดที่จะลงสมัครผู้ว่าฯกทม. มีการกระทำผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง ในการดำเนินการต่างๆ อาทิ การแจกเงิน แจกสิ่งของ หรือสัญญาว่าจะให้ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันเลือกตั้ง ซึ่งจะมีผลทำให้กกต. สามารถดำเนินการตรวจสอบการกระทำนั้นๆ ของผู้สมัครได้ก็ต่อเมื่อผู้สมัครได้ทำการสมัครไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นขอให้ผู้ที่จะสมัครลงผู้ว่าฯ กทม. ศึกษาข้อกฎหมายและระมัดระวังในการดำเนินการต่างๆ ที่อาจจะทำให้เกิดการร้องเรียนเข้ามายังกกต. ได้
จากนั้นเวลา 11.00 น. กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยนำโดยนายจารุพงศ์ นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค ร่วมกันแถลงภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น โดยนายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ได้มีการเสนอชื่อพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร.และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมรายชื่อเดียว ซึ่งที่กรรประชุมมีมติเอกฉันท์ ส่งพล.ต.อ.พงศพัศลงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. พร้อมแต่งตั้งนายภูมิธรรม เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้ง
นายภูมิธรรม กล่าวว่า เหตุผลที่เลือกพล.ต.อ.พงศพัศ เนื่องจากมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เป็นนายตำรวจที่คลุกคลีกับประชาชน ซึ่งเช้าวันที่ 15 ม.ค.นี้ พล.ต.อ.พงศพัศจะเดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค จากนั้นจะเปิดตัวเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ของพรรคอย่างเป็นทางการ และเป็นโอกาสที่พล.ต.อ.พงศพัศจะพูดความในใจพร้อมกับเปิดตัวนโยบายสำหรับการเลือกตั้ง สิ่งสำคัญคือข้อเสนอการบริหารจัดการปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมและผู้สมัครที่พรรคเลือกจะประสานงานระหว่างท้องถิ่น คือกทม.กับรัฐบาลในการแก้ปัญหาของ กทม. สามารถตอบสนองต่อแนวนโยบายการบริหารจัดการได้อย่างเต็มที่ ส่วนทีมรองผู้ว่าฯ กทม.จะเปิดตัวในวาระโอกาสต่างๆ หลังจากนี้ อย่างไรก็ตามในส่วนของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทยได้อยู่ในทีมงานที่จะช่วยเรื่องการเมืองการเลือกตั้งด้วย สัปดาห์ที่ผ่านมาได้เข้ามาช่วยดูเรื่องนโยบาย จึงเป็นสิ่งยืนยันว่าไม่มีปัญหา ทุกคนช่วยกันทำงานเต็มที่
นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า กองอำนวยการการเลือกตั้งจะทำงานร่วมกับกรรมการทุกส่วนภายในพรรค ไม่ว่าจะเป็นกรรมการทั้ง 3 โซนของ กทม. กรรมการยุทธศาสตร์ คณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ โดยมีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานที่ปรึกษา อย่างไรก็ตามจากผลโพลล์ของพรรคเพื่อไทยที่ได้ทำการสำรวจความเห็นของประชาชนใน กทม.ทำให้พรรคมีความมั่นว่าผู้สมัครที่พรรคเลือกเป็นบุคคลซึ่งเป็นที่รู้จักของประชาชนและมีศักยภาพ ขณะที่นโยบายจะมีทั้งนโยบายภาพรวมสำหรับ กทม.และนโยบายย่อยเฉพาะลักษณะพื้นที่
นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ว่า สำหรับแนวทางการปฏิบัติของสมาชิกพรรคเพื่อไทยในการช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ของพรรค โดยเฉพาะสมาชิกที่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรรมการบริหารพรรคเป็นห่วงว่าจะมีการหยิบยกมาเป็นประเด็นว่าใช้ตำแหน่งทางการเมืองไปช่วย ดังนั้นในที่ประชุมส.ส.วันที่ 15 ม.ค.นี้ หัวหน้าพรรคจะเน้นย้ำแนวทางการหาเสียง และแจกเป็นคู่มือให้กับสมาชิก รวมทั้งติดประกาศถึงละเอียดการปฏิบัติตัวในการหาเสียง โดยให้ยึดถือตามระเบียบประกาศกทม.อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้สมาชิกที่เป็นข้าราชกาการเมืองซึ่งไปช่วยหาเสียงถูกร้องว่าไม่เป็นกลางหรือให้คุณให้โทษกับผู้สมัคร เพราะพรรคต้องการให้การหาเสียงเป็นไปอย่างโปร่งใส ไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลังอีก
นายพร้อมพงศ์ แถลงว่า เป็นห่วงข้าราชการเมืองไปช่วยหาเสียงรณรงค์การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ดังนั้นที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค จึงเสนอให้หัวหน้าพรรคลงนามเป็นคำสั่งห้าม โดยยึดระเบียบจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกรุงเทพฯ (กกต.กทม.) ประกาศอย่างเคร่งครัด ตั้งแต่ปี 2551-2555 ให้สมาชิกพรรคปฏิบัติ โดยจะมีการแจกคู่มือ และปิดประกาศให้ทราบ เพื่อป้องกันสมาชิกพรรคเพื่อไทยหาเสียงในส่วนข้าราชการเมือง อาจถูกร้องว่าไม่เป็นกลาง หรือใช้เวลาราชการไปหาเสียง หรือให้คุณให้โทษผู้สมัคร
พ.ต.ท.พัทธนนท์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ช่วยนายเวร พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เปิดเผยวันนี้ (13 ม.ค.)ว่า พล.ต.อ.พงศพัศ ทราบแล้ว ถึงมติพรรคเพื่อไทย ที่ส่งชื่อลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ในนามพรรค โดยพร้อมจะลงชิงชัยในการหาเสียงเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. แน่ ซึ่งวันที่ 14 ม.ค. พล.ต.อ.พงศพัศ จะยื่นหนังสือ ลาออกจากตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. ต่อ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. และในวันเดียวกัน จะยื่นหนังสือลาออกถึง เลขาฯ กระทรวงยุติธรรม จากตำแหน่ง เลขา ป.ป.ส. ด้วย
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดเว็บไซต์ และนำเอาโซเชียลมีเดียเข้ามาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ให้กับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการติดตามข่าวสาร ภายใต้สโลแกน “รักกรุงเทพ ร่วมสร้างกรุงเทพ” และร่วมนำเสนอข้อมูลต่างๆได้
ทั้งนี้ ยังเปิดนโยบายหลักของพรรคในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ คือการนำเสนอนโยบายการสร้างกรุงเทพเป็นมหานคร 7 ด้าน ได้แก่ การสร้างกรุงเทพให้เป็นเมืองแห่งความปลอดภัย , ความสุข , ความสะอาด , การเรียนรู้ , เมืองของทุกคน และเป็นมหานครแห่งอาเซียน ซึ่งรายละเอียดต่างๆประชาชนสามารถเข้าไปดูไปทางเฟสบุ๊คของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ หรือ เว็บไซต์ www.sukhumbhand.com
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ และทีมงานจะลงพื้นที่หาเสียงพร้อมชูนโยบายหลักที่ย่านเยาวราช โดยจะเริ่มต้นที่โรงพยาบาลเทียมฟ้า ไปตามถนนเยาวราช และจะไปสิ้นสุดที่วัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร
อีกด้านบริเวณสวนสมเด็จย่า 84 ถนนวิภาวดี นายโฆสิต สุวินิจจิต ว่าที่ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯราชการกรุงเทพมหานคร แถลงข่าวเปิดนโยบายกรุงเทพฯ 4 นโยบายแก้ไขปัญหาเร่งด่วนและสามารถทำได้ทันที ภายใต้กรอบ “ กรุงเทพฯ 24 ชั่วโมง” โดย 4 นโยบายนั้นคือ แก้ไขปัญหาจราจร พัฒนาการศึกษา เศรษฐกิจ รองรับ AEC และบริการ 24 ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
เช่น นโยบาย กรุงเทพฯเดินทางสะดวก 24 ชั่วโมง โดยจะเน้นการแก้ปัญหาจราจร เพื่อให้การเดินทางในกรุงเทพฯสะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น คือ ติดป้ายบอกทางให้มากขึ้น เนื่องจากสาเหตุหลัก อีกสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้กรุงเทพฯ รถติด คือ คนขับรถหลงทาง เนื่องจากมีป้ายบอกทางน้อย บอกทางไม่ชัดเจน จึงได้เกิดปัญหาดังกล่าว
ซึ่งการติดตั้งป้ายหาเสียงของตนในวันนี้ก็จะเน้นให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนให้มากที่สุด ดีกว่าการติดป้ายหาเสียงแบบเดิมๆ ที่สามารถปัญหาการจราจรเพิ่มให้กับประชาชนที่ใช้ยวดยานในท้องถนน โดยจะติดตั้งบอกเส้นทางทั้งทางลัด ทางแยก และระยะทาง เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์ในการเดินทาง รวมถึงนโยบายการเรียนรู้ 24 ชั่วโมง นโยบาย ทำงาน 24 ชั่วโมง และนโยบายปลอดภัย 24 ชั่วโมง
นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. กล่าวถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ว่า สำนักงานกกต.กทม. ได้เตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หลังจากผลการลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ไว้หมดแล้ว เบื้องต้นคาดว่าในวันที่ 21 - 25 ม.ค.นี้ จะสามารถเปิดรับสมัครผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานครได้ และวันเลือกตั้งคือวันที่ 3 มี.ค. ขณะเดียวกันนับตั้งแต่ประกาศให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. แล้ว ผู้สมัครก็สามารถหาเสียงได้ตามปกติเหมือนกับการเลือกตั้งท้องถิ่นและเลือกตั้งส.ส.ทั่วไป
โดยกกต.มีชุดสืบสวนและชุดป้องปราม ลงไปตรวจสอบในพื้นที่ทั้ง 88 สถานีแล้ว หากผู้สมัครรายใดที่จะลงสมัครผู้ว่าฯกทม. มีการกระทำผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง ในการดำเนินการต่างๆ อาทิ การแจกเงิน แจกสิ่งของ หรือสัญญาว่าจะให้ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันเลือกตั้ง ซึ่งจะมีผลทำให้กกต. สามารถดำเนินการตรวจสอบการกระทำนั้นๆ ของผู้สมัครได้ก็ต่อเมื่อผู้สมัครได้ทำการสมัครไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นขอให้ผู้ที่จะสมัครลงผู้ว่าฯ กทม. ศึกษาข้อกฎหมายและระมัดระวังในการดำเนินการต่างๆ ที่อาจจะทำให้เกิดการร้องเรียนเข้ามายังกกต. ได้
