นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การสัมนาส.ส.ของพรรค ที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีการพิจารณา ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. โดยมีการพิจารณา 4 รายชื่อ ประกอบด้วย นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ , นายอภิชัย เตชะอุบล ซึ่งมีรายชื่อในอันดับที่ 64 ของระบบัญชีรายชื่อของพรรค , ดร.ประกอบ จิรกิตติ และม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่า กทม. คนปัจจุบัน โดยทางกรรมการจะดูจากผู้ที่แสดงความจำนง เปิดโอกาสให้ชี้แจงกับกรรมการคัดเลือก ที่มีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นประธาน ซึ่งจะได้ข้อยุติในวันจันทร์ที่ 24 ธ.ค.นี้ และเมื่อเสร็จแล้ว กรรมการคัดเลือกก็จะทำความเห็นมายังกรรมการบริหารพรรค
ส่วนกรณีที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ประกาศตัวจะลงสมัครพร้อมเสนอนโยบายล่วงหน้า จะเป็นการผูกมัดให้พรรคต้องส่งลงสมัครผู้ว่าฯกทม. หรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ คงกังวลนิดหน่อยว่า นโยบายหลายเรื่องที่เตรียมไว้ ถ้าไม่มีโอกาสพูดเลย พรรคอื่น คู่แข่งอื่น จะเอาไปพูดก่อน และนโยบายที่พูดหลักๆ ก็เป็นการเดินหน้าสานต่อเป้าหมายของงานปัจจุบัน คงไม่มีปัญหาอะไร เพราะเท่าที่ติดตามดู เช่น เรื่องการจราจร การคืนเงินให้กับผู้ใช้รถไฟฟ้า เพราะรายได้ของกทม. หรือสัญญาที่ไปทำจะเปิดโอกาสให้ทำได้ เป็นความคิดที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ได้มาแจ้งต่อพรรค ก็ถือเป็นความต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถระบุได้ว่า จะมีคนอื่นเพิ่มเติมอีกหรือไม่ โดยทั้งหมดอยู่ที่กระบวนการของกรรมการคัดเลือก จะทำความเห็นมา แต่คิดว่าไม่น่าจะมีคนอื่นเพิ่มเติมแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าพรรคตัดสินใจไม่ส่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ลงสมัคร จะกลายเป็นการหักหน้ากันหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกคนเข้าใจกระบวนการของพรรค ซึ่งตนเข้าใจว่า ในช่วงที่ยังมีความไม่ชัดเจน แต่มีความพยายามที่จะนำเสนอบางนโยบายที่ทำงานกับพรรคมา ก็ต้องทำพร้อมๆ กันไป และการพิจารณาคุณสมบัติของตัวผู้สมัคร จะมุ่งที่ใครสามารถทำงานตอบสนองคนกรุงเทพฯให้ประสบความสำเร็จได้มากที่สุด คงไม่ได้พูดถึงภาพลักษณ์อย่างเดียว แต่ต้องพูดถึงตัวเนื้องานที่จะต้องเดิน และนโยบายที่จะทำ
ส่วนรายชื่อที่ปรากฏออกมา ซึ่งเป็นคนของพรรคทั้งสิ้น ไม่มีความหวือหวานั้น ตนเห็นว่าอยู่ที่ความสมัครใจ เพราะเป็นงานหนัก และเกี่ยวข้องกับการเมืองท้องถิ่น ซึ่งตนเห็นว่า รายชื่อของผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ที่ปรากฏออกมา ก็ไม่ใช่ชื่อใหม่ แม้ว่าจะเป็นผู้ที่ทำงานด้านการประชาสัมพันธ์ ก็ไม่น่ากังวล เพราะเมื่อถึงเวลาที่จะรณรงค์หาเสียงแข่งขันกัน ก็วัดกันที่นโยบาย ความจริงใจในการทำงานให้กับประชาชน
"ผมยังมั่นใจว่า กระบวนการคัดเลือกผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. จะไม่ทำให้เกิดปัญหาภายในพรรค แม้ว่าชื่อที่ถูกเคาะออกมา จะไม่ใช่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ก็ตาม เพราะเชื่อว่าท่านเป็นคนมีวินัย แต่คงไปตอบแทนไม่ได้ว่า จะน้อยใจหรือไม่ และกรรมการบริหารพรรค ก็ต้องสรุปด้วยเหตุผล อธิบายได้ และสมาชิกพรรคต้องยอมรับการตัดสินใจนั้น" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้ตนไม่มีความกังวล แม้ทางพรรคจะยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ ว่าจะให้ตนลงสมัครในนามพรรค หรือไม่ หรือทางพรรคมีรายชื่อใครบ้าง ตนก็ไม่เคยถาม เพราะถือว่าไม่ใช่เรื่อง
เมื่อถามว่า สมมติว่าไม่ได้รับการคัดเลือกให้ลงสมัครในนามพรรค ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ กล่าวว่า ตนไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้กดดัน เร่งรัด หรือยื่นคำขาด แม้แต่นิดเดียว พรรคอยากจะทำอะไรก็ทำไป เพราะขณะนี้ตนต้องบริหารจัดการงานกทม. อย่างเต็มที่
"ถ้าสมมติว่าไฟไหม้บ้านท่าน ท่านก็คงไม่คิดว่าไฟไหม้ จะต้องไหม้บ้าน ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น ดังนั้นผมก็ตอบไม่ได้ เพราะผมไม่คิดว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไฟไหม้ ผมมั่นใจทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำลงไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ ท่ามกลางอุปสรรคนานัปการ ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง แต่หากพรรคไม่ส่ง ก็ต้องมีเหตุผลที่ดี ผมก็รับฟังได้ ไม่มีปัญหา แต่ก็อยากให้เคาะก่อน 17 ก.พ.นี้ "
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะลาออกก่อนครบวาระ ในวันที่ 10 ม.ค. หรือไม่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ กล่าวว่า ตนขอสงวนว่า จะลาออกก่อนวันที่ 10 ม.ค. ต้องดูฤกษ์ยามที่เหมาะสม และแม้ตนจะลาออก 1-2 วัน ก่อนหน้า ก็คงไม่ทำให้ใครเดือดร้อนหากเป็นฤกษ์ยามที่ดี ทั้งนี้นโยบายที่จะใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง คิดไว้หมดแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผย ต้องคุยกับทางพรรคก่อน เพราะจะต้องร่างร่วมกัน
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อไม่นานมานี้ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ได้หยิบยกประเด็นการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ ที่จะมีขึ้นในเดือน ก.พ. ปี 56 มาหารือเป็นการภายใน โดยเชื่อว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้ คน กทม. จะหันไปเลือกผู้ว่าฯอิสระมากขึ้น เพราะนักการเมืองจากทั้งสองพรรคใหญ่ ยังไม่มีนโยบายสร้างความก้าวหน้าให้กับบ้านเมือง มีแต่เรื่องแย่งชิง ผลัดกันเข้าสู่อำนาจ โดยเบื้องต้นพันธมิตรฯ มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนผู้สมัครอิสระที่มีความซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา และจงรักภักดีต่อสถาบันฯ คาดว่าในเร็วๆนี้ จะมีการพบปะกับระหว่างผู้ที่พันธมิตรฯ เห็นควรจะสนับสนุนโดยแกนนำอาจจะเข้าไปนั่งเป็นที่ปรึกษา ในการวางกลยุทธด้วย
ส่วนกรณีที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ประกาศตัวจะลงสมัครพร้อมเสนอนโยบายล่วงหน้า จะเป็นการผูกมัดให้พรรคต้องส่งลงสมัครผู้ว่าฯกทม. หรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ คงกังวลนิดหน่อยว่า นโยบายหลายเรื่องที่เตรียมไว้ ถ้าไม่มีโอกาสพูดเลย พรรคอื่น คู่แข่งอื่น จะเอาไปพูดก่อน และนโยบายที่พูดหลักๆ ก็เป็นการเดินหน้าสานต่อเป้าหมายของงานปัจจุบัน คงไม่มีปัญหาอะไร เพราะเท่าที่ติดตามดู เช่น เรื่องการจราจร การคืนเงินให้กับผู้ใช้รถไฟฟ้า เพราะรายได้ของกทม. หรือสัญญาที่ไปทำจะเปิดโอกาสให้ทำได้ เป็นความคิดที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ได้มาแจ้งต่อพรรค ก็ถือเป็นความต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถระบุได้ว่า จะมีคนอื่นเพิ่มเติมอีกหรือไม่ โดยทั้งหมดอยู่ที่กระบวนการของกรรมการคัดเลือก จะทำความเห็นมา แต่คิดว่าไม่น่าจะมีคนอื่นเพิ่มเติมแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าพรรคตัดสินใจไม่ส่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ลงสมัคร จะกลายเป็นการหักหน้ากันหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกคนเข้าใจกระบวนการของพรรค ซึ่งตนเข้าใจว่า ในช่วงที่ยังมีความไม่ชัดเจน แต่มีความพยายามที่จะนำเสนอบางนโยบายที่ทำงานกับพรรคมา ก็ต้องทำพร้อมๆ กันไป และการพิจารณาคุณสมบัติของตัวผู้สมัคร จะมุ่งที่ใครสามารถทำงานตอบสนองคนกรุงเทพฯให้ประสบความสำเร็จได้มากที่สุด คงไม่ได้พูดถึงภาพลักษณ์อย่างเดียว แต่ต้องพูดถึงตัวเนื้องานที่จะต้องเดิน และนโยบายที่จะทำ
ส่วนรายชื่อที่ปรากฏออกมา ซึ่งเป็นคนของพรรคทั้งสิ้น ไม่มีความหวือหวานั้น ตนเห็นว่าอยู่ที่ความสมัครใจ เพราะเป็นงานหนัก และเกี่ยวข้องกับการเมืองท้องถิ่น ซึ่งตนเห็นว่า รายชื่อของผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ที่ปรากฏออกมา ก็ไม่ใช่ชื่อใหม่ แม้ว่าจะเป็นผู้ที่ทำงานด้านการประชาสัมพันธ์ ก็ไม่น่ากังวล เพราะเมื่อถึงเวลาที่จะรณรงค์หาเสียงแข่งขันกัน ก็วัดกันที่นโยบาย ความจริงใจในการทำงานให้กับประชาชน
"ผมยังมั่นใจว่า กระบวนการคัดเลือกผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. จะไม่ทำให้เกิดปัญหาภายในพรรค แม้ว่าชื่อที่ถูกเคาะออกมา จะไม่ใช่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ก็ตาม เพราะเชื่อว่าท่านเป็นคนมีวินัย แต่คงไปตอบแทนไม่ได้ว่า จะน้อยใจหรือไม่ และกรรมการบริหารพรรค ก็ต้องสรุปด้วยเหตุผล อธิบายได้ และสมาชิกพรรคต้องยอมรับการตัดสินใจนั้น" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้ตนไม่มีความกังวล แม้ทางพรรคจะยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ ว่าจะให้ตนลงสมัครในนามพรรค หรือไม่ หรือทางพรรคมีรายชื่อใครบ้าง ตนก็ไม่เคยถาม เพราะถือว่าไม่ใช่เรื่อง
เมื่อถามว่า สมมติว่าไม่ได้รับการคัดเลือกให้ลงสมัครในนามพรรค ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ กล่าวว่า ตนไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้กดดัน เร่งรัด หรือยื่นคำขาด แม้แต่นิดเดียว พรรคอยากจะทำอะไรก็ทำไป เพราะขณะนี้ตนต้องบริหารจัดการงานกทม. อย่างเต็มที่
"ถ้าสมมติว่าไฟไหม้บ้านท่าน ท่านก็คงไม่คิดว่าไฟไหม้ จะต้องไหม้บ้าน ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น ดังนั้นผมก็ตอบไม่ได้ เพราะผมไม่คิดว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไฟไหม้ ผมมั่นใจทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำลงไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ ท่ามกลางอุปสรรคนานัปการ ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง แต่หากพรรคไม่ส่ง ก็ต้องมีเหตุผลที่ดี ผมก็รับฟังได้ ไม่มีปัญหา แต่ก็อยากให้เคาะก่อน 17 ก.พ.นี้ "
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะลาออกก่อนครบวาระ ในวันที่ 10 ม.ค. หรือไม่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ กล่าวว่า ตนขอสงวนว่า จะลาออกก่อนวันที่ 10 ม.ค. ต้องดูฤกษ์ยามที่เหมาะสม และแม้ตนจะลาออก 1-2 วัน ก่อนหน้า ก็คงไม่ทำให้ใครเดือดร้อนหากเป็นฤกษ์ยามที่ดี ทั้งนี้นโยบายที่จะใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง คิดไว้หมดแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผย ต้องคุยกับทางพรรคก่อน เพราะจะต้องร่างร่วมกัน
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อไม่นานมานี้ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ได้หยิบยกประเด็นการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ ที่จะมีขึ้นในเดือน ก.พ. ปี 56 มาหารือเป็นการภายใน โดยเชื่อว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้ คน กทม. จะหันไปเลือกผู้ว่าฯอิสระมากขึ้น เพราะนักการเมืองจากทั้งสองพรรคใหญ่ ยังไม่มีนโยบายสร้างความก้าวหน้าให้กับบ้านเมือง มีแต่เรื่องแย่งชิง ผลัดกันเข้าสู่อำนาจ โดยเบื้องต้นพันธมิตรฯ มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนผู้สมัครอิสระที่มีความซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา และจงรักภักดีต่อสถาบันฯ คาดว่าในเร็วๆนี้ จะมีการพบปะกับระหว่างผู้ที่พันธมิตรฯ เห็นควรจะสนับสนุนโดยแกนนำอาจจะเข้าไปนั่งเป็นที่ปรึกษา ในการวางกลยุทธด้วย
