“ฮอนด้า” ประเมินตลาดจักรยานยนต์ไทยปีงู เติบโตเป็น 2.15 ล้านคัน ท่ามกลางต้นทุนพุ่งสูง จนเตรียมขยับราคา 1% แต่มั่นใจทำสถิติยอดขาย 1.55 ล้านคัน จากกลยุทธ์รุกรอบด้าน โดยเฉพาะส่งรถสายพันธุ์ใหม่ลุย ขณะที่ตลาดรวมบิ๊กไบค์ติดเบรก หลังภาษีสรรพสามิตปรับขึ้น เดิมคาดจะวิ่งฉิว 8 พันคัน ลดเหลือ 7 พันคัน
นายจิอากิ คาโต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมารถจักรยานยนต์ฮอนด้าได้สร้างสถิติยอดขายสูงสุดเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ด้วยยอดขายกว่า 1.485 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 7% จากตลาดรวมทั้งหมด 2.13 ล้านคัน หรือครองส่วนแบ่งการตลาด 70% เพิ่มขึ้น 1% และเชื่อมั่นในปี 2556 นี้ ตลาดรถจักรยานยนต์ในไทยจะยังคงเติบโตต่อเนื่อง เพราะเศรษฐกิจไทยจะยังคงขยายตัวและมีเสถียรภาพต่อไป ประกอบกับตลาดรวมที่ยังมีอุปสงค์อย่างมาก
“การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในปีนี้ แน่นอนจะส่งผลให้กลุ่มผู้บริโภคระดับล่างถึงกลางมีรายได้สูงขึ้น ทั้งหมดจึงรวมกันเป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการซื้อได้ง่ายขึ้น ทำให้คาดว่าตลาดรถจักรยานยนต์ปีนี้ จะอยู่ที่ประมาณ 2.15 ล้านคัน แต่ในส่วนผลกระทบอีกด้านจากการปรับค่าแรงขั้นต่ำ ตรงนี้คงจะต้องใช้เวลาสังเกตุการณ์อีกสักพัก ว่าจะส่งผลกระทบมากน้อยแค่ไหน และยังมีเรื่องของปัญหาเศรษฐกิจโลกต้องระวัง จึงทำให้ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยปีนี้ปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย”
โดยในปี 2556 นี้ ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของแผนระยะกลางสามปี ได้วางเป้าหมายที่จะบรรลุเป้าหมายการขายในปีนี้ 1.55 ล้านคัน จากการดำเนินมาตรการสำคัญตามแผนระยะกลางให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์เหนือความคาดหมายของตลาด การเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในทุกด้าน และการสร้างความพึงพอใจสูงสุดของผู้ใช้และสังคม
นายคาโตเปิดเผยว่า ล่าสุดฮออนด้าได้แนะนำรถใหม่ 5 รุ่น โดยเฉพาะ 2 รุ่นใหม่ ฮอนด้า เอ็มเอสเอ็กซ์125 มินิสตรีทไบค์ และฮอนด้า ฟอร์ซา300 สกู๊ตเตอร์ขนาดใหญ่ พร้อมกันนี้ยังได้เร่งพัฒนาธุรกิจรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ หรือบิ๊กไบค์ หลังจากได้เปิดศูนย์ฮอนด้าบิ๊กวิงเมื่อเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา และมีการแนะนำฮอนด้า ซีบีอาร์500 ซึ่งเป็นการขึ้นไลน์ประกอบในไทยครั้งแรกสู่ตลาด และได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค เดือนเดียวมียอดจองมากกว่า 400 คัน
“ตลาดบิ๊กไบค์รวมในไทยเมื่อปี 2553 อยู่ที่ประมาณ 2,800 คัน และในปีที่ผ่านมาเพิ่มอีกเท่าตัวเป็นกว่า 5,000 คัน และปีนี้เดิมคาดว่าจะเพิ่มเป็น 8,000 คัน แต่ก่อนสิ้นปีที่ผ่านมารัฐบาลได้ปรับภาษีสรรพสามิตบิ๊กไบค์ขึ้น จึงส่งผลกระทบต่อตลาดในปีนี้บ้าง ทำให้ต้องปรับลดภาพรวมตลาดบิ๊กไบค์ลงมาเป็น 7,000 คัน และในส่วนฮอนด้าเบื้องต้นตั้งเป้าหมาย 3,000 คัน และมาดูว่าจะได้รับผลกระทบจากการปรับภาษีมากน้อยแค่ไหน จึงค่อยจะมาทบทวนเป้าหมายอีกครั้ง”
นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์มีภาระต้นทุนที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวัตถุดิบ หรือล่าสุดค่าแรงขั้นต่ำปรับเป็น 300 บาทต่อวัน ซึ่งในส่วนของบางซัพพลายเออร์ได้รับกระทบ เหตุนี้บริษัทจึงเตรียมพิจารณาจะปรับราคารถจักรยานยนต์ขึ้นตามภาระต้นทุน
“เมื่อพิจารณาราคาใหม่เสร็จ จะยื่นขออนุมัติจากกระทรวงพาณิชย์ แต่การปรับราคาครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบผู้บริโภคมากนัก เพราะปรับขึ้นเพียง 1% เท่านั้น ส่วนเรื่องที่กระทรวงพาณิชย์จะเร่งให้มีการฟ้องร้องบริษัทฯ จากกรณีถูกกล่าวหาทำผิดกฎหมายแข่งขันทางการค้า ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณคณะกรรมการฯ จะฟ้องหรือไม่ แต่ในส่วนของฮอนด้าไม่หนักใจ เราเชื่อมั่นว่าทำถูกกฎหมายทุกอย่าง”
สำหรับรถจักรยานยนต์ใหม่ 5 รุ่น ฮอนด้า เอ็มเอสเอ็กซ์125 เป็นมินิสตรีทไบค์สายพันธุ์พันใหม่ เปิดตัวและวางจำหน่ายที่ประเทศไทยแห่งแรก เครื่องยนต์หัวฉีด PGM-FI ขนาด 125 ซีซี. ราคา 6.6 หมื่นบาท เริ่มจำหน่ายภายในเดือนมกราคมนี้ และฮอนด้า ฟอร์ซา300 บิ๊กสกู๊ตเตอร์ระดับพรีเมียม เครื่องยนต์หัวฉีด PGM-FI ขนาด 300 ซีซี. เปิดจำหนายต้นเดือนกุมภาพันธ์ เช่นเดียวกับรุ่นสแปซี่ ไอ ใหม่ และฮอนด้า ซีอาร์เอฟ250เอ็ม จะเปิดตัวในเดือนมีนาคม ขณะที่ฮอนด้า เวฟ110ไอ ใหม่ เปิดขายวันที่ 16 มกราคมนี้ ราคาเริ่มต้น 3.8 หมื่นบาท
นายจิอากิ คาโต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมารถจักรยานยนต์ฮอนด้าได้สร้างสถิติยอดขายสูงสุดเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ด้วยยอดขายกว่า 1.485 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 7% จากตลาดรวมทั้งหมด 2.13 ล้านคัน หรือครองส่วนแบ่งการตลาด 70% เพิ่มขึ้น 1% และเชื่อมั่นในปี 2556 นี้ ตลาดรถจักรยานยนต์ในไทยจะยังคงเติบโตต่อเนื่อง เพราะเศรษฐกิจไทยจะยังคงขยายตัวและมีเสถียรภาพต่อไป ประกอบกับตลาดรวมที่ยังมีอุปสงค์อย่างมาก
“การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในปีนี้ แน่นอนจะส่งผลให้กลุ่มผู้บริโภคระดับล่างถึงกลางมีรายได้สูงขึ้น ทั้งหมดจึงรวมกันเป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการซื้อได้ง่ายขึ้น ทำให้คาดว่าตลาดรถจักรยานยนต์ปีนี้ จะอยู่ที่ประมาณ 2.15 ล้านคัน แต่ในส่วนผลกระทบอีกด้านจากการปรับค่าแรงขั้นต่ำ ตรงนี้คงจะต้องใช้เวลาสังเกตุการณ์อีกสักพัก ว่าจะส่งผลกระทบมากน้อยแค่ไหน และยังมีเรื่องของปัญหาเศรษฐกิจโลกต้องระวัง จึงทำให้ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยปีนี้ปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย”
โดยในปี 2556 นี้ ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของแผนระยะกลางสามปี ได้วางเป้าหมายที่จะบรรลุเป้าหมายการขายในปีนี้ 1.55 ล้านคัน จากการดำเนินมาตรการสำคัญตามแผนระยะกลางให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์เหนือความคาดหมายของตลาด การเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในทุกด้าน และการสร้างความพึงพอใจสูงสุดของผู้ใช้และสังคม
นายคาโตเปิดเผยว่า ล่าสุดฮออนด้าได้แนะนำรถใหม่ 5 รุ่น โดยเฉพาะ 2 รุ่นใหม่ ฮอนด้า เอ็มเอสเอ็กซ์125 มินิสตรีทไบค์ และฮอนด้า ฟอร์ซา300 สกู๊ตเตอร์ขนาดใหญ่ พร้อมกันนี้ยังได้เร่งพัฒนาธุรกิจรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ หรือบิ๊กไบค์ หลังจากได้เปิดศูนย์ฮอนด้าบิ๊กวิงเมื่อเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา และมีการแนะนำฮอนด้า ซีบีอาร์500 ซึ่งเป็นการขึ้นไลน์ประกอบในไทยครั้งแรกสู่ตลาด และได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค เดือนเดียวมียอดจองมากกว่า 400 คัน
“ตลาดบิ๊กไบค์รวมในไทยเมื่อปี 2553 อยู่ที่ประมาณ 2,800 คัน และในปีที่ผ่านมาเพิ่มอีกเท่าตัวเป็นกว่า 5,000 คัน และปีนี้เดิมคาดว่าจะเพิ่มเป็น 8,000 คัน แต่ก่อนสิ้นปีที่ผ่านมารัฐบาลได้ปรับภาษีสรรพสามิตบิ๊กไบค์ขึ้น จึงส่งผลกระทบต่อตลาดในปีนี้บ้าง ทำให้ต้องปรับลดภาพรวมตลาดบิ๊กไบค์ลงมาเป็น 7,000 คัน และในส่วนฮอนด้าเบื้องต้นตั้งเป้าหมาย 3,000 คัน และมาดูว่าจะได้รับผลกระทบจากการปรับภาษีมากน้อยแค่ไหน จึงค่อยจะมาทบทวนเป้าหมายอีกครั้ง”
นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์มีภาระต้นทุนที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวัตถุดิบ หรือล่าสุดค่าแรงขั้นต่ำปรับเป็น 300 บาทต่อวัน ซึ่งในส่วนของบางซัพพลายเออร์ได้รับกระทบ เหตุนี้บริษัทจึงเตรียมพิจารณาจะปรับราคารถจักรยานยนต์ขึ้นตามภาระต้นทุน
“เมื่อพิจารณาราคาใหม่เสร็จ จะยื่นขออนุมัติจากกระทรวงพาณิชย์ แต่การปรับราคาครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบผู้บริโภคมากนัก เพราะปรับขึ้นเพียง 1% เท่านั้น ส่วนเรื่องที่กระทรวงพาณิชย์จะเร่งให้มีการฟ้องร้องบริษัทฯ จากกรณีถูกกล่าวหาทำผิดกฎหมายแข่งขันทางการค้า ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณคณะกรรมการฯ จะฟ้องหรือไม่ แต่ในส่วนของฮอนด้าไม่หนักใจ เราเชื่อมั่นว่าทำถูกกฎหมายทุกอย่าง”
สำหรับรถจักรยานยนต์ใหม่ 5 รุ่น ฮอนด้า เอ็มเอสเอ็กซ์125 เป็นมินิสตรีทไบค์สายพันธุ์พันใหม่ เปิดตัวและวางจำหน่ายที่ประเทศไทยแห่งแรก เครื่องยนต์หัวฉีด PGM-FI ขนาด 125 ซีซี. ราคา 6.6 หมื่นบาท เริ่มจำหน่ายภายในเดือนมกราคมนี้ และฮอนด้า ฟอร์ซา300 บิ๊กสกู๊ตเตอร์ระดับพรีเมียม เครื่องยนต์หัวฉีด PGM-FI ขนาด 300 ซีซี. เปิดจำหนายต้นเดือนกุมภาพันธ์ เช่นเดียวกับรุ่นสแปซี่ ไอ ใหม่ และฮอนด้า ซีอาร์เอฟ250เอ็ม จะเปิดตัวในเดือนมีนาคม ขณะที่ฮอนด้า เวฟ110ไอ ใหม่ เปิดขายวันที่ 16 มกราคมนี้ ราคาเริ่มต้น 3.8 หมื่นบาท
