วานนี้ (7 ม.ค.56) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี และพล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เดินทางเข้าพบ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี เพื่อหารือการแก้ไขปัญหาพื้นที่ภาคใต้ หลังได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ให้เข้ามากำกับดูแลแก้ไขปัญหา โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 30 นาที
ร.ต.อ.เฉลิม เปิดเผยว่า ตน พร้อมด้วย ผบ.ตร.ไม่ได้มาหารือ แต่มาขอความกรุณาให้ท่านจุฬาราชมนตรี ช่วยนำแนวทางแก้ไขปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นแนวทางของรัฐบาล และแนวคิดของตน ที่ต้องการให้ภาคใต้เกิดความสงบ ซึ่งตนได้รับมอบหมายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในการดูแลรับผิดชอบปัญหาความมั่นคงในภาคใต้ จึงต้องมาพบท่านจุฬาราชมนตรี เพื่อมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้นในช่วงเหตุการณ์ไม่สงบ และปัญหาความรุนแรงในสามจังหวัดภาคใต้ ต้องช่วยกันแก้ไขทุกวิธีทาง ซึ่งตนเสนอว่าคดีต่างๆที่เกี่ยวกับ ป.วิอาญา ซึ่งมีผู้เสียหายชัดเจนไม่สามารถแก้ไขได้แล้ว แต่คดีที่เกิดขึ้นจากการประกาศใช้ พรก.ต่างๆรัฐบาลมีแนวทางแก้ไขได้ ซึ่งเชื่อว่าแนวทางของตนสามารถแก้ไขปัญหาความรุนแรงได้
"วันนี้ผมได้ขอให้ จุฬาราชมนตรี ทำการบันทึกเทปโทรทัศน์ออกอากาศเป็นภาษายาวี ให้ประชาชนทั้ง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เข้าใจและรับรู้แนวคิดของผม ที่พยายามเข้าไปแก้ไขปัญหาความรุนแรงให้ได้ ขอให้ท่านจุฬาราชมนตรีออกอากาศก่อนที่ผมจะเดินทางไปในพื้นที่ ซึ่งเป็นสถานีพิเศษของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต.เพื่อสื่อสารให้ชาวมุสลิมได้เข้าใจถึงแนวคิดการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลด้วยสันติวิธี และการเสมอภาคของทุกศาสนา ผมยืนยันว่าการแก้ไขปัญหาภาคใต้ต้องมาจากข้างนอกไม่ใช่ข้างใน ผมพร้อมแก้ไขปัญหาทันที และจะไม่เข้าไปแทรกแซงการทำงานของทหารอย่างเด็ดขาด ซึ่งทางกองทัพจะมียุทธวิธีอย่างไรผมไม่เข้าไปยุ่ง และเคารพในการตัดสินใจของกองทัพ โดยผมจะดูแลในส่วนของฝ่ายปกครอง และตำรวจเท่านั้น" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า ในวันที่ 8 ม.ค.นี้ ตนจะเดินทางไปประเทศมาเลเซีย เพื่อหารือกับผู้นำประเทศในหลายประเด็น เช่น การแก้ไขปัญหาประชาชนเดินทางเข้าไปทำงานในประเทศมาเลเซีย เกิน 30 วัน รวมไปถึง ร้านค้าที่ไม่ขึ้นทะเบียนตามกฎหมาย ทั้งในฝั่งประเทศไทยและประเทศมาเลเซียด้วยรวมทั้งนักศึกษาไทยจบใหม่อยากไปทำงานในประเทศมาเลเซีย ต้องได้ไปอย่างถูกกฎหมายเป็นหน้าที่ของอธิบดีกรมการจัดหางาน ต้องดำเนินการไม่ใช่หางานแต่ในประเทศไทยต้องหานอกประเทศด้วยเพื่อนำรายได้เข้าประเทศมากๆซึ่งเมื่อทุกคนมีงานทำปัญหาความไม่สงบจะลดลงไปได้ด้วยดี โดยจะเดินทางระหว่างวันที่ 8 - 10 ม.ค.นี้
เวลา 09.10 น. ณ ห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี นายกริยา กิจจารักษ์ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัด 15 จังหวัดภาคใต้และคณะ เข้าเยี่ยมคารวะนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่ออวยพรปีใหม่เนื่องในเทศกาลปีใหม่ 2556 และเปิดจดหมายเปิดผนึกให้รัฐบาล
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวภายหลังว่ายังไม่เห็นข้อเสนอ เนื่องจากเป็นจดหมายปิดผนึก จะให้ฝ่ายเลขาธิการนายกรัฐมนตรีดูว่าเกี่ยวข้องกับหน่วยงานไหนบ้าง ส่วนจะมีความร่วมมือที่ดีขึ้นหรือไม่ คิดว่าในส่วนของรัฐบาลก็ให้การสนับสนุนทุกศาสนา และสิ่งไหนที่เราร่วมกันทำได้และเป็นประโยชน์เราก็ยินดีอยู่แล้ว ก็คงต้องดูเนื้อหารายละเอียด และที่สำคัญก็คงต้องนัดหารือในเรื่องของการชี้แจงเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน และความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม
ส่วนความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องให้ความสนใจและลงไปในพื้นที่มากขึ้นหรือไม่ เชื่อว่า วันนี้เรื่องปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้เราให้ความสนใจอยู่แล้ว และถือว่าเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องร่วมกันในการแก้ไขปัญหา ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความใส่ใจในเรื่องต่างๆเหล่านี้ ได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไป โดยเฉพาะกระทรวงที่เกี่ยวข้องต้องลงไปทำความเข้าใจในพื้นที่ สำหรับปัญหาตอนนี้คือเราจะทำอย่างไรให้การทำงานในส่วนกลางและส่วนพื้นที่เป็นเอกภาพให้เร็วที่สุด ก็คงจะมีการนัดหารือและติดตามในการไปในพื้นที่อยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะฝากอะไรกับร.ต.อ.เฉลิม ซึ่งจะเดินทางไปประเทศมาเลเซีย น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า คงไม่ได้ฝาก เพราะจริงๆแล้วท่านรองนายกฯเองในฐานะผู้ที่กำกับดูแล ศปก.กปต.จะทราบภารกิจของรัฐบาลอยู่แล้ว รวมถึงจุดมุ่งหมายต่างๆ และยุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่ามีอะไรบ้าง เชื่อว่าท่านคงจะไปหารือในเนื้อหา และที่สำคัญเราเน้นในเรื่องความร่วมมือให้เกิดความสงบ ซึ่งเป็นเจตนารมณ์อยู่แล้ว
ร.ต.อ.เฉลิม เปิดเผยว่า ตน พร้อมด้วย ผบ.ตร.ไม่ได้มาหารือ แต่มาขอความกรุณาให้ท่านจุฬาราชมนตรี ช่วยนำแนวทางแก้ไขปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นแนวทางของรัฐบาล และแนวคิดของตน ที่ต้องการให้ภาคใต้เกิดความสงบ ซึ่งตนได้รับมอบหมายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในการดูแลรับผิดชอบปัญหาความมั่นคงในภาคใต้ จึงต้องมาพบท่านจุฬาราชมนตรี เพื่อมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้นในช่วงเหตุการณ์ไม่สงบ และปัญหาความรุนแรงในสามจังหวัดภาคใต้ ต้องช่วยกันแก้ไขทุกวิธีทาง ซึ่งตนเสนอว่าคดีต่างๆที่เกี่ยวกับ ป.วิอาญา ซึ่งมีผู้เสียหายชัดเจนไม่สามารถแก้ไขได้แล้ว แต่คดีที่เกิดขึ้นจากการประกาศใช้ พรก.ต่างๆรัฐบาลมีแนวทางแก้ไขได้ ซึ่งเชื่อว่าแนวทางของตนสามารถแก้ไขปัญหาความรุนแรงได้
"วันนี้ผมได้ขอให้ จุฬาราชมนตรี ทำการบันทึกเทปโทรทัศน์ออกอากาศเป็นภาษายาวี ให้ประชาชนทั้ง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เข้าใจและรับรู้แนวคิดของผม ที่พยายามเข้าไปแก้ไขปัญหาความรุนแรงให้ได้ ขอให้ท่านจุฬาราชมนตรีออกอากาศก่อนที่ผมจะเดินทางไปในพื้นที่ ซึ่งเป็นสถานีพิเศษของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต.เพื่อสื่อสารให้ชาวมุสลิมได้เข้าใจถึงแนวคิดการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลด้วยสันติวิธี และการเสมอภาคของทุกศาสนา ผมยืนยันว่าการแก้ไขปัญหาภาคใต้ต้องมาจากข้างนอกไม่ใช่ข้างใน ผมพร้อมแก้ไขปัญหาทันที และจะไม่เข้าไปแทรกแซงการทำงานของทหารอย่างเด็ดขาด ซึ่งทางกองทัพจะมียุทธวิธีอย่างไรผมไม่เข้าไปยุ่ง และเคารพในการตัดสินใจของกองทัพ โดยผมจะดูแลในส่วนของฝ่ายปกครอง และตำรวจเท่านั้น" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า ในวันที่ 8 ม.ค.นี้ ตนจะเดินทางไปประเทศมาเลเซีย เพื่อหารือกับผู้นำประเทศในหลายประเด็น เช่น การแก้ไขปัญหาประชาชนเดินทางเข้าไปทำงานในประเทศมาเลเซีย เกิน 30 วัน รวมไปถึง ร้านค้าที่ไม่ขึ้นทะเบียนตามกฎหมาย ทั้งในฝั่งประเทศไทยและประเทศมาเลเซียด้วยรวมทั้งนักศึกษาไทยจบใหม่อยากไปทำงานในประเทศมาเลเซีย ต้องได้ไปอย่างถูกกฎหมายเป็นหน้าที่ของอธิบดีกรมการจัดหางาน ต้องดำเนินการไม่ใช่หางานแต่ในประเทศไทยต้องหานอกประเทศด้วยเพื่อนำรายได้เข้าประเทศมากๆซึ่งเมื่อทุกคนมีงานทำปัญหาความไม่สงบจะลดลงไปได้ด้วยดี โดยจะเดินทางระหว่างวันที่ 8 - 10 ม.ค.นี้
เวลา 09.10 น. ณ ห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี นายกริยา กิจจารักษ์ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัด 15 จังหวัดภาคใต้และคณะ เข้าเยี่ยมคารวะนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่ออวยพรปีใหม่เนื่องในเทศกาลปีใหม่ 2556 และเปิดจดหมายเปิดผนึกให้รัฐบาล
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวภายหลังว่ายังไม่เห็นข้อเสนอ เนื่องจากเป็นจดหมายปิดผนึก จะให้ฝ่ายเลขาธิการนายกรัฐมนตรีดูว่าเกี่ยวข้องกับหน่วยงานไหนบ้าง ส่วนจะมีความร่วมมือที่ดีขึ้นหรือไม่ คิดว่าในส่วนของรัฐบาลก็ให้การสนับสนุนทุกศาสนา และสิ่งไหนที่เราร่วมกันทำได้และเป็นประโยชน์เราก็ยินดีอยู่แล้ว ก็คงต้องดูเนื้อหารายละเอียด และที่สำคัญก็คงต้องนัดหารือในเรื่องของการชี้แจงเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน และความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม
ส่วนความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องให้ความสนใจและลงไปในพื้นที่มากขึ้นหรือไม่ เชื่อว่า วันนี้เรื่องปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้เราให้ความสนใจอยู่แล้ว และถือว่าเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องร่วมกันในการแก้ไขปัญหา ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความใส่ใจในเรื่องต่างๆเหล่านี้ ได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไป โดยเฉพาะกระทรวงที่เกี่ยวข้องต้องลงไปทำความเข้าใจในพื้นที่ สำหรับปัญหาตอนนี้คือเราจะทำอย่างไรให้การทำงานในส่วนกลางและส่วนพื้นที่เป็นเอกภาพให้เร็วที่สุด ก็คงจะมีการนัดหารือและติดตามในการไปในพื้นที่อยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะฝากอะไรกับร.ต.อ.เฉลิม ซึ่งจะเดินทางไปประเทศมาเลเซีย น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า คงไม่ได้ฝาก เพราะจริงๆแล้วท่านรองนายกฯเองในฐานะผู้ที่กำกับดูแล ศปก.กปต.จะทราบภารกิจของรัฐบาลอยู่แล้ว รวมถึงจุดมุ่งหมายต่างๆ และยุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่ามีอะไรบ้าง เชื่อว่าท่านคงจะไปหารือในเนื้อหา และที่สำคัญเราเน้นในเรื่องความร่วมมือให้เกิดความสงบ ซึ่งเป็นเจตนารมณ์อยู่แล้ว
