ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวานนี้ (22พ.ย.) มีนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังการพิจารณากระทู้ถามทั่วไปเสร็จสิ้นลง ที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินการตามญัตติด่วน เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณากรณีเหตุระเบิดในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ปรากฏว่า รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไม่ยอมเข้าร่วมประชุม ทำให้ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไม่พอใจ เพราะต้องการให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง มาร่วมฟังด้วยเนื่องจากเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ โดยนายนิพนธ์ วิศิษฐ์ยุทธศาสตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ตำหนิว่า รัฐบาลไม่ให้ความสนใจ ทั้งที่ส.ส. และรัฐมนตรี มีเงินเดือนเป็นหลักแสน นั่งเครื่องบินฟรี ยังไม่ให้ความสนใจกับการประชุมสภาฯ รวมถึงที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการสามัญเรียกรัฐมนตรีมาชี้แจง ก็ไม่เคยมา แม้แต่เรียกปลัดกระทรวง ก็ส่งตัวแทน แค่ระดับ ซี 5 มาชี้แจง ถือว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และหากยังไม่ให้ความสำคัญ ตนจะเสนอให้นับองค์ประชุมทุกชั่วโมง จะทำอย่างกรรมาธิการฯว่า หากเรียกใครมาชี้แจงแล้วไม่มาก็ให้เลื่อนออกไป คงไม่ได้
ขณะที่นายเจะอามิง โตะตาหยง ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอขอใช้สิทธินับองค์ประชุม แต่นายเจริญ พยายามต่อรองว่า นายกรัฐมนตรี แจ้งมาว่า เมื่อเป็นเรื่องสำคัญอยู่ในความสนใจ ขอให้เลื่อนออกไปก่อน เพื่อรอรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง โดยให้นำเรื่องอื่นมาพิจารณาแทนไปก่อน แต่นายเจะอามิง ไม่ยอม ยืนยันขอใช้สิทธินับองค์ประชุม ทำให้นายเจริญ ได้สั่งปิดประชุมทันที เมื่อเวลา 14.00 น. เพราะประเมินดูแล้ว จำนวนสมาชิกในห้องประชุมไม่ครบองค์ประชุมแน่นอน
นายสุรเชษฐ์ แวอาแซ ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่สภาล่ม เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ ว่า ตนได้เสนอญัตติด่วน เรื่องเกี่ยวกับปัญหาความไม่สงบ และแนวทางการแก้ไขปัญหาของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากถูกเลื่อนมา 2-3 ครั้งแล้ว จากอาทิตย์ก่อนหน้านี้ เนื่องจากความไม่พร้อมของรัฐมนตรี ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ ก็ได้มีการรับปากกันเอาไว้แล้วว่าจะมีการพิจารณาญัตติของตน แต่ก็เป็นเช่นเดิมอีก โดยครั้งนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดับผู้กำกับ สภอ.สุไหงโก-ลก ที่ไม่ได้มีอำนาจ หรือบทบาทใดๆ ในแนวทางการบริหาร มาชี้แจงแทน แต่ ส.ส.ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง กลับแสดงความไม่ใส่ใจต่อปัญหา จนทำให้เกิดปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ และสภาล่ม เพราะฉะนั้นการประชุมครั้งนี้ จึงไร้ค่า ไม่ได้ประโยชน์ใดๆ เลย ตนจึงขอประณามรัฐบาลชุดนี้ ที่ไม่มีความจริงใจต่อปัญหาของภาคใต้ และไม่ให้ความสำคัญต่อสภานิติบัญญัติ
ทั้งนี้การประชุมสภาฯในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งสุดท้ายของสมัยประชุมสภาสามัญทั่วไป เนื่องจากในสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 25-28 พ.ย. จะมีการพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้าน และจะมีการปิดสมัยประชุมในวันที่ 28 พ.ย. โดยจะมีการเปิดประชุมสภาสมัยนิติบัญญัติวันที่ 21 ธ.ค.55 ถึง 18 เม.ย. 56
ขณะที่นายเจะอามิง โตะตาหยง ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอขอใช้สิทธินับองค์ประชุม แต่นายเจริญ พยายามต่อรองว่า นายกรัฐมนตรี แจ้งมาว่า เมื่อเป็นเรื่องสำคัญอยู่ในความสนใจ ขอให้เลื่อนออกไปก่อน เพื่อรอรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง โดยให้นำเรื่องอื่นมาพิจารณาแทนไปก่อน แต่นายเจะอามิง ไม่ยอม ยืนยันขอใช้สิทธินับองค์ประชุม ทำให้นายเจริญ ได้สั่งปิดประชุมทันที เมื่อเวลา 14.00 น. เพราะประเมินดูแล้ว จำนวนสมาชิกในห้องประชุมไม่ครบองค์ประชุมแน่นอน
นายสุรเชษฐ์ แวอาแซ ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่สภาล่ม เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ ว่า ตนได้เสนอญัตติด่วน เรื่องเกี่ยวกับปัญหาความไม่สงบ และแนวทางการแก้ไขปัญหาของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากถูกเลื่อนมา 2-3 ครั้งแล้ว จากอาทิตย์ก่อนหน้านี้ เนื่องจากความไม่พร้อมของรัฐมนตรี ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ ก็ได้มีการรับปากกันเอาไว้แล้วว่าจะมีการพิจารณาญัตติของตน แต่ก็เป็นเช่นเดิมอีก โดยครั้งนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดับผู้กำกับ สภอ.สุไหงโก-ลก ที่ไม่ได้มีอำนาจ หรือบทบาทใดๆ ในแนวทางการบริหาร มาชี้แจงแทน แต่ ส.ส.ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง กลับแสดงความไม่ใส่ใจต่อปัญหา จนทำให้เกิดปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ และสภาล่ม เพราะฉะนั้นการประชุมครั้งนี้ จึงไร้ค่า ไม่ได้ประโยชน์ใดๆ เลย ตนจึงขอประณามรัฐบาลชุดนี้ ที่ไม่มีความจริงใจต่อปัญหาของภาคใต้ และไม่ให้ความสำคัญต่อสภานิติบัญญัติ
ทั้งนี้การประชุมสภาฯในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งสุดท้ายของสมัยประชุมสภาสามัญทั่วไป เนื่องจากในสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 25-28 พ.ย. จะมีการพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้าน และจะมีการปิดสมัยประชุมในวันที่ 28 พ.ย. โดยจะมีการเปิดประชุมสภาสมัยนิติบัญญัติวันที่ 21 ธ.ค.55 ถึง 18 เม.ย. 56