ไม่รู้ว่าผมเผลอหลับไปหรือวูบไป หรือถูกทำร้ายอย่างใดอย่างหนึ่งแน่ๆ เมื่อรู้สึกตัวจึงเหมือนอยู่คนละภพคนละโลกกับที่เคยอยู่ เคยมีประสบการณ์
อ่านหนังสือพิมพ์พบว่า ผลสำรวจนักการเมืองที่ประชาชนชื่นชม นิยมชมชอบอันดับหนึ่งเป็นนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นอกจากนั้นเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งคะแนนห่างจากนางสาวยิ่งลักษณ์มาก
นโยบายรัฐบาลที่ประชาชนชื่นชมเห็นว่าเป็นนโยบายดีเยี่ยม คือ นโยบายรับจำนำข้าว
เจอ 2 ข้อนี้เท่านั้นก็มึนงงเหมือนถูกหมัดน็อกแล้วละครับ
นักการเมืองที่ประชาชนในประเทศนี้ชื่นชมคือ นักการเมืองที่ผมคิดว่าโง่ ไม่ประสีประสา ไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่รู้จักอาย อย่างนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นี่ละหรือ?
หรือว่าสมองผมฟั่นเฟือน เพราะความจริงแล้วนางสาวยิ่งลักษณ์คือผู้ที่ฉลาด ปราชญ์เปรื่อง สุขุมลุ่มลึก มองการณ์ไกลยิ่งเสียกว่านักการเมืองคนไหนๆ ในปัจจุบัน
หรือว่าผมคิดผิดจริงๆ ที่มองว่า การรับจำนำข้าวของรัฐบาล เป็นนโยบายที่ฉ้อฉลที่สุดนโยบายหนึ่ง ผลาญงบประมาณแผ่นดินมากที่สุดนโยบายหนึ่ง หลอกลวงชาวไร่ชาวนาและประชาชนที่สุดนโยบายหนึ่งที่เคยมีมา
แท้จริงแล้วเป็นนโยบายที่สุดวิเศษล้ำเลิศที่ช่วยเหลือคนยากคนจน คือ ชาวนา
หรือคำว่า “ให้ชาวนาเถอะค่ะ” ที่ผมเคยได้ยินในสภาแล้วเกิดความรู้สึกว่า เป็นคำพูดที่ดัดจริตที่สุด ตอแหลที่สุด แท้จริงแล้ว เป็นคำพูดที่น่าชื่นชมที่สุด ไพเราะเพราะพริ้งที่สุด เห็นอกเห็นใจชาวไร่ชาวนาคนยากคนจนที่สุด
อาจเป็นเพราะผมเกิดมานานแล้ว ผ่านการเลือกตั้งสกปรกของจอมพลป.พิบูลสงคราม ผ่านเผด็จการทหารสมบูรณ์แบบของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เคยเห็นเขาใช้ มาตรา 17 เคยได้ยินเขาบอกว่า ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่ผู้เดียว แล้วก็มาเห็นจอมพลถนอมกิตติขจร จอมพลประภาส จารุเสถียร ผ่านเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 จน 6 ตุลาคม 2519 เห็นนักการเมืองชั่วอย่างนายสมัคร สุนทรเวช เห็นทหารออกมาเล่นการเมืองอย่าง พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เห็นนักธุรกิจการเมืองมากหน้าหลายตา ไม่ว่าจะเป็นนายบรรหาร ศิลปอาชา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ
และในที่สุดก็เห็น ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งในความเห็นของผมตอนนี้เห็นว่า นี่แหละคือสุดยอดของความเลว สุดยอดของคนตอแหล สุดยอดของความหน้าด้าน
ผมเคยคิดว่า ถ้าหากผมมีเงินอย่างเขา และถ้าหากผมทำชั่วทำเลวอย่างเขา จะใช้เงินอย่างไรให้พี่น้องประชาชนมาสนับสนุนมาต่อสู้เรียกร้องและมาตายแทนได้ ผมเคยถามตัวเองว่า ถ้าหากผมตกอยู่ในสถานะอย่างเขา ผมจะกล้าพูดกับประชาชนหรือไม่ว่า พี่น้องครับ ผมแพ้ไม่ได้ พี่น้องครับผมอยากกลับบ้านเหลือเกิน
ผมจะกล้าตอแหลกับประชาชนไหมว่า ผมรักพี่น้องคนเสื้อแดงเหลือเกิน แต่อีกวันผมก็บอกว่า ส่งผมขึ้นมาถึงฝั่งแล้ว พี่น้องจะต้องแบกเรือขึ้นรถขึ้นเขาไปกับผมทำไม
และในที่สุดผมก็คิดว่า ผมจะกล้าให้รัฐบาลน้องสาวของผมเอาเงินงบประมาณแผ่นดินซึ่งเป็นเงินภาษีของประชาชนมาจ่าย 7 ล้าน 5 ล้านให้พี่น้องประชาชนที่มาขายชีวิตให้ผมในเหตุการณ์เมษายน 2552 และเมษายน 2553
ผมจะทำอย่างไรให้สื่อทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ไม่ก่นด่า ความชั่ว ความเลวของผม
และผมจะวางหน้าอย่างไร เมื่อผมบอกพี่น้องประชาชนทั้งหลายว่า ถ้าเสียงปืนแตก ผมจะมาเดินนำหน้าพาพี่น้องทั้งหลายเดินหน้าเข้ากรุง แล้วผมก็ไม่เคยโผล่หน้ามาให้เห็นเลยนอกจากโผล่มาทางจอโทรทัศน์ และทางเสียงโทรศัพท์
ผมทำไม่ได้ แต่ทักษิณ ชินวัตร มันทำได้
ทำให้น้องสาวที่ไม่ประสีประสาทางการเมืองก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างไม่ขัดเขิน ไม่อาย
และในที่สุดก็กลายเป็นนักการเมืองที่เป็นที่นิยมชมชอบของประชาชน เป็นขวัญใจของ 15 ล้านเสียง และอาจจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในการเลือกตั้งครั้งต่อๆ ไป อาจจะได้รับเลือกตั้งอีกในสมัยที่ 2 ที่ 3 หรืออาจจะต้องเป็นนายกรัฐมนตรีจนเบื่อไปเอง หรือจนกระทั่งไม่เหลือประเทศให้เป็นนายกรัฐมนตรีให้บริหารอีกก็เป็นได้
ผมต้องกราบขออภัยในความผิดที่คิดเลวร้ายชั่วช้าเลวทราม เพราะผมคิดว่า นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์โง่ ไม่ประสีประสาทางการเมือง ไม่รู้จักอาย หรือแม้กระทั่งไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีเสียด้วยซ้ำ
ผมต้องขออภัยจริงๆ ต่อนายกรัฐมนตรีที่ประชาชนนิยมยกย่อง และต่อนโยบายที่ดีเลิศประเสริฐศรีวิเศษสุด
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ผมก็ยังคิดอยู่นั่นแหละครับว่า ผมเผลอหลับหรืออยู่ๆ ก็วูบไป ถูกชก ถูกน็อกอย่างใดอย่างหนึ่ง จึงได้คิดต่างจากประชาชนทั้งหลายทั้งปวงที่สำนักโพลไปสำรวจมา
อ่านหนังสือพิมพ์พบว่า ผลสำรวจนักการเมืองที่ประชาชนชื่นชม นิยมชมชอบอันดับหนึ่งเป็นนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นอกจากนั้นเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งคะแนนห่างจากนางสาวยิ่งลักษณ์มาก
นโยบายรัฐบาลที่ประชาชนชื่นชมเห็นว่าเป็นนโยบายดีเยี่ยม คือ นโยบายรับจำนำข้าว
เจอ 2 ข้อนี้เท่านั้นก็มึนงงเหมือนถูกหมัดน็อกแล้วละครับ
นักการเมืองที่ประชาชนในประเทศนี้ชื่นชมคือ นักการเมืองที่ผมคิดว่าโง่ ไม่ประสีประสา ไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่รู้จักอาย อย่างนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นี่ละหรือ?
หรือว่าสมองผมฟั่นเฟือน เพราะความจริงแล้วนางสาวยิ่งลักษณ์คือผู้ที่ฉลาด ปราชญ์เปรื่อง สุขุมลุ่มลึก มองการณ์ไกลยิ่งเสียกว่านักการเมืองคนไหนๆ ในปัจจุบัน
หรือว่าผมคิดผิดจริงๆ ที่มองว่า การรับจำนำข้าวของรัฐบาล เป็นนโยบายที่ฉ้อฉลที่สุดนโยบายหนึ่ง ผลาญงบประมาณแผ่นดินมากที่สุดนโยบายหนึ่ง หลอกลวงชาวไร่ชาวนาและประชาชนที่สุดนโยบายหนึ่งที่เคยมีมา
แท้จริงแล้วเป็นนโยบายที่สุดวิเศษล้ำเลิศที่ช่วยเหลือคนยากคนจน คือ ชาวนา
หรือคำว่า “ให้ชาวนาเถอะค่ะ” ที่ผมเคยได้ยินในสภาแล้วเกิดความรู้สึกว่า เป็นคำพูดที่ดัดจริตที่สุด ตอแหลที่สุด แท้จริงแล้ว เป็นคำพูดที่น่าชื่นชมที่สุด ไพเราะเพราะพริ้งที่สุด เห็นอกเห็นใจชาวไร่ชาวนาคนยากคนจนที่สุด
อาจเป็นเพราะผมเกิดมานานแล้ว ผ่านการเลือกตั้งสกปรกของจอมพลป.พิบูลสงคราม ผ่านเผด็จการทหารสมบูรณ์แบบของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เคยเห็นเขาใช้ มาตรา 17 เคยได้ยินเขาบอกว่า ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่ผู้เดียว แล้วก็มาเห็นจอมพลถนอมกิตติขจร จอมพลประภาส จารุเสถียร ผ่านเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 จน 6 ตุลาคม 2519 เห็นนักการเมืองชั่วอย่างนายสมัคร สุนทรเวช เห็นทหารออกมาเล่นการเมืองอย่าง พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เห็นนักธุรกิจการเมืองมากหน้าหลายตา ไม่ว่าจะเป็นนายบรรหาร ศิลปอาชา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ
และในที่สุดก็เห็น ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งในความเห็นของผมตอนนี้เห็นว่า นี่แหละคือสุดยอดของความเลว สุดยอดของคนตอแหล สุดยอดของความหน้าด้าน
ผมเคยคิดว่า ถ้าหากผมมีเงินอย่างเขา และถ้าหากผมทำชั่วทำเลวอย่างเขา จะใช้เงินอย่างไรให้พี่น้องประชาชนมาสนับสนุนมาต่อสู้เรียกร้องและมาตายแทนได้ ผมเคยถามตัวเองว่า ถ้าหากผมตกอยู่ในสถานะอย่างเขา ผมจะกล้าพูดกับประชาชนหรือไม่ว่า พี่น้องครับ ผมแพ้ไม่ได้ พี่น้องครับผมอยากกลับบ้านเหลือเกิน
ผมจะกล้าตอแหลกับประชาชนไหมว่า ผมรักพี่น้องคนเสื้อแดงเหลือเกิน แต่อีกวันผมก็บอกว่า ส่งผมขึ้นมาถึงฝั่งแล้ว พี่น้องจะต้องแบกเรือขึ้นรถขึ้นเขาไปกับผมทำไม
และในที่สุดผมก็คิดว่า ผมจะกล้าให้รัฐบาลน้องสาวของผมเอาเงินงบประมาณแผ่นดินซึ่งเป็นเงินภาษีของประชาชนมาจ่าย 7 ล้าน 5 ล้านให้พี่น้องประชาชนที่มาขายชีวิตให้ผมในเหตุการณ์เมษายน 2552 และเมษายน 2553
ผมจะทำอย่างไรให้สื่อทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ไม่ก่นด่า ความชั่ว ความเลวของผม
และผมจะวางหน้าอย่างไร เมื่อผมบอกพี่น้องประชาชนทั้งหลายว่า ถ้าเสียงปืนแตก ผมจะมาเดินนำหน้าพาพี่น้องทั้งหลายเดินหน้าเข้ากรุง แล้วผมก็ไม่เคยโผล่หน้ามาให้เห็นเลยนอกจากโผล่มาทางจอโทรทัศน์ และทางเสียงโทรศัพท์
ผมทำไม่ได้ แต่ทักษิณ ชินวัตร มันทำได้
ทำให้น้องสาวที่ไม่ประสีประสาทางการเมืองก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างไม่ขัดเขิน ไม่อาย
และในที่สุดก็กลายเป็นนักการเมืองที่เป็นที่นิยมชมชอบของประชาชน เป็นขวัญใจของ 15 ล้านเสียง และอาจจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในการเลือกตั้งครั้งต่อๆ ไป อาจจะได้รับเลือกตั้งอีกในสมัยที่ 2 ที่ 3 หรืออาจจะต้องเป็นนายกรัฐมนตรีจนเบื่อไปเอง หรือจนกระทั่งไม่เหลือประเทศให้เป็นนายกรัฐมนตรีให้บริหารอีกก็เป็นได้
ผมต้องกราบขออภัยในความผิดที่คิดเลวร้ายชั่วช้าเลวทราม เพราะผมคิดว่า นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์โง่ ไม่ประสีประสาทางการเมือง ไม่รู้จักอาย หรือแม้กระทั่งไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีเสียด้วยซ้ำ
ผมต้องขออภัยจริงๆ ต่อนายกรัฐมนตรีที่ประชาชนนิยมยกย่อง และต่อนโยบายที่ดีเลิศประเสริฐศรีวิเศษสุด
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ผมก็ยังคิดอยู่นั่นแหละครับว่า ผมเผลอหลับหรืออยู่ๆ ก็วูบไป ถูกชก ถูกน็อกอย่างใดอย่างหนึ่ง จึงได้คิดต่างจากประชาชนทั้งหลายทั้งปวงที่สำนักโพลไปสำรวจมา