ASTV ผู้จัดการรายวัน - เรียลตี้เวิร์ดฯ ระบุปี56 ลูกค้าห้องชุดซื้อเพื่อลงทุนเมื่อ4-5ปีก่อนหน้าแห่นำห้องชุดออกรีเซลล์แข่งคอนโดโครงการใหม่ หลังโครงการใหม่ราคาพุ่ง แจงข้อได้เปรียบทำเลดีเลือกได้ สร้างเสร็จแล้ว ราคาไม่แพง ชี้บ้านเดี่ยวมือสอง ระดับ3.5ล้านบาท-ทาวน์เฮาส์1.5-1.7ล้านบาทปีนี้รุ่ง หลังสินค้าใหม่ปรับขึ้นราคา บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ราคาต่ำกว่า 3.5ล้านและ1.5ล้านในตลาดแทบไม่มีขายแล้ว
นายวิศิษฐ์ คุณาทรกุล ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เรียลตี้ เวิลด์ อัลไลแอนซ์ จำกัด กล่าวว่าในปี2555ที่ผ่านมาสภาวะตลาดรวมบ้านมือสองมีการหดตัวอย่างมาก เนื่องจากได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากช่วงปลายปี2554 จากปัญหาน้ำท่วมและการชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย เพื่อรอความชัดเจนในการแก้ปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาลและรอดูว่าในปลายปี55จะเกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำอีกหรือไม่ จากปัญหาดังกล่าวส่งผลให้ในปีที่ผ่านมาตลาดรวมหดตัวลงอย่างหนัก โดยเฉพาะในทำเลที่น้ำเคยท่วม ขณะที่ห้องชุดหรือคอนโดมิเนียมในพื้นที่น้ำท่วมไม่ถึงกลายเป็นสินค้าที่เข้ามาดูดซับดีมานด์ส่วนไป
ทั้งนี้ ในปีที่แล้วผลดำเนินการของบริษัทได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมอย่างมาก โดยมีผลการดำเนินงานหดตัวลงจากปี2554 กว่า 10% อย่างไรก็ตามในปี2556 นี้ เชื่อว่าแนวโน้มตลาดจะปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก เนื่องจากปัจจัยลบจากปัญหาน้ำท่วมหมดไป
นอกจากนี้ ตลาดบ้านมือสองยังได้รับปัจจัยบวกเข้าเสริม เช่น การปรับค้าแรง300บาทต่อวัน การปรับราคาวัสดุก่อสร้าง และราคาที่ดินเมืองแพงขึ้น ซึ่งส่งผลต่อต้นทุนบ้านใหม่ และคอนโดมิเนียมในเมืองมีราคาขายสูงขึ้น และทำให้ผู้บริโภคที่มีรายได้หรือความสามารถในการผ่อนจำกัดหันมาซื้อบ้านมือสองเพิ่มมากขึ้น
โดยเฉพาะในส่วนของคอนโดมิเนียมมือสอง ในปี56นี้จะมีความคึกคักมาก เนื่องจากกลุ่มนักลงทุนที่ซื้อเพื่อการลงทุนในช่วง4-5ปีก่อนหน้าหรือห้องชุดในโครงการที่สร้างเสร็จแล้ว จะมีการนำห้องชุดในเมืองทำเลเด่นๆ กลับมารีเซลล์(ขายใหม่) ในปีนี้จำนวนมาก โดยคาดว่าจะมีจำนวน 20-30% ของจำนวนห้องชุดที่เปิดขายและก่อสร้างเสร็จแล้วในช่วง4-5ปีที่ผ่านมา
“ในช่วงที่ผ่านมามีห้องชุดที่เปิดขายต่อปีกว่า 5-6 หมื่นยูนิตต่อปี โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการที่เปิดขายในเมืองใกล้ระบบรถไฟฟ้า แต่ขณะนี้ที่ดีราคาแพง และหายากมาก ทำให้โครงการใหม่ในย่านแนวรถไฟฟ้ามีจำนวนลดลงและราคาแพงขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับโครงการที่เปิดขายในช่วง4-5ปีที่ผ่านมา ดังนั้นห้องชุดที่มีการนำมารีเซลล์ใหม่จึงน่าจะได้รับความสนใจอย่างมากในปีนี้ โดยคาดว่าในส่วนของห้องชุดรีเซลล์นี้จะกระตุ้นและทำให้ตลาดรวมห้องชุดมือสองเติบโตจากปีที่แล้วไม่ต่ำกว่า 10%”
นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์มือสองในปี2556นี้คาดว่าจะดีกว่าในปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าน่าจะขยายตัวจากตลาดรวมช่วงปกติดได้7-10% เนื่องจากราคาบ้านใหม่ปรับตัวขึ้นตามต้นทุนแรงงาน ราคาวัสดุก่อสร้าง โดยกลุ่มบ้านเดี่ยวที่ขายดีน่าจะเป็นกลุ่มบ้านราคาขายเฉลี่ย3.5ล้านบาท เนื่องจากบ้านเดี่ยว ซึ่งเป็นบ้านใหม่ราคาขายระดับ3.5ล้านบาทหากยากมากแล้ว หากจะมีบ้านเดี่ยวในราคาต่ำกว่า3.5ล้านบาทก็จะอยู่ไกลออกไปจากย่านชาญเมืองค่อนข้างมาก
ส่วนทาวน์เฮาส์ ที่น่าจะได้ข่ายดีในปีนี้ราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ระดับ1.5-1.7ล้านบาท ส่วนทาวน์เฮาส์ระดับราคา1ล้านบาทหรือต่ำกว่า1ล้านบาทในปัจจุบันแทบหาไม่ได้แล้ว เนื่องจากราคาที่ดินที่ปรับตัวขึ้นรวมถึงต้นทุนก่อสร้างแรงงาน และราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับขึ้นแทบทุกตัว
สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปี2556 นี้จะเน้นการหาทรัพย์ใหม่ๆมาเพิ่มในพอร์ตโดยให้น้ำหนักกับทรัพย์รอการขายของสถาบันการเงินซึ่งคาดว่าจะเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อเข้าไปบริหารการขายทรัพย์รอการขายของสถาบันการเงินเพิ่มอีกประมาณ2,000ล้านบาท ส่วนคอนโดมิเนียมนั้นจะเน้นรับฝากขายจากลูกค้ารายย่อย ปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตสินค้าในมือ 10,000 ล้านบาทแบ่งเป็นทรัพย์รอการขายสถาบันการเงิน60% และทรัพย์ฝากขาย40%
นายวิศิษฐ์ คุณาทรกุล ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เรียลตี้ เวิลด์ อัลไลแอนซ์ จำกัด กล่าวว่าในปี2555ที่ผ่านมาสภาวะตลาดรวมบ้านมือสองมีการหดตัวอย่างมาก เนื่องจากได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากช่วงปลายปี2554 จากปัญหาน้ำท่วมและการชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย เพื่อรอความชัดเจนในการแก้ปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาลและรอดูว่าในปลายปี55จะเกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำอีกหรือไม่ จากปัญหาดังกล่าวส่งผลให้ในปีที่ผ่านมาตลาดรวมหดตัวลงอย่างหนัก โดยเฉพาะในทำเลที่น้ำเคยท่วม ขณะที่ห้องชุดหรือคอนโดมิเนียมในพื้นที่น้ำท่วมไม่ถึงกลายเป็นสินค้าที่เข้ามาดูดซับดีมานด์ส่วนไป
ทั้งนี้ ในปีที่แล้วผลดำเนินการของบริษัทได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมอย่างมาก โดยมีผลการดำเนินงานหดตัวลงจากปี2554 กว่า 10% อย่างไรก็ตามในปี2556 นี้ เชื่อว่าแนวโน้มตลาดจะปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก เนื่องจากปัจจัยลบจากปัญหาน้ำท่วมหมดไป
นอกจากนี้ ตลาดบ้านมือสองยังได้รับปัจจัยบวกเข้าเสริม เช่น การปรับค้าแรง300บาทต่อวัน การปรับราคาวัสดุก่อสร้าง และราคาที่ดินเมืองแพงขึ้น ซึ่งส่งผลต่อต้นทุนบ้านใหม่ และคอนโดมิเนียมในเมืองมีราคาขายสูงขึ้น และทำให้ผู้บริโภคที่มีรายได้หรือความสามารถในการผ่อนจำกัดหันมาซื้อบ้านมือสองเพิ่มมากขึ้น
โดยเฉพาะในส่วนของคอนโดมิเนียมมือสอง ในปี56นี้จะมีความคึกคักมาก เนื่องจากกลุ่มนักลงทุนที่ซื้อเพื่อการลงทุนในช่วง4-5ปีก่อนหน้าหรือห้องชุดในโครงการที่สร้างเสร็จแล้ว จะมีการนำห้องชุดในเมืองทำเลเด่นๆ กลับมารีเซลล์(ขายใหม่) ในปีนี้จำนวนมาก โดยคาดว่าจะมีจำนวน 20-30% ของจำนวนห้องชุดที่เปิดขายและก่อสร้างเสร็จแล้วในช่วง4-5ปีที่ผ่านมา
“ในช่วงที่ผ่านมามีห้องชุดที่เปิดขายต่อปีกว่า 5-6 หมื่นยูนิตต่อปี โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการที่เปิดขายในเมืองใกล้ระบบรถไฟฟ้า แต่ขณะนี้ที่ดีราคาแพง และหายากมาก ทำให้โครงการใหม่ในย่านแนวรถไฟฟ้ามีจำนวนลดลงและราคาแพงขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับโครงการที่เปิดขายในช่วง4-5ปีที่ผ่านมา ดังนั้นห้องชุดที่มีการนำมารีเซลล์ใหม่จึงน่าจะได้รับความสนใจอย่างมากในปีนี้ โดยคาดว่าในส่วนของห้องชุดรีเซลล์นี้จะกระตุ้นและทำให้ตลาดรวมห้องชุดมือสองเติบโตจากปีที่แล้วไม่ต่ำกว่า 10%”
นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์มือสองในปี2556นี้คาดว่าจะดีกว่าในปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าน่าจะขยายตัวจากตลาดรวมช่วงปกติดได้7-10% เนื่องจากราคาบ้านใหม่ปรับตัวขึ้นตามต้นทุนแรงงาน ราคาวัสดุก่อสร้าง โดยกลุ่มบ้านเดี่ยวที่ขายดีน่าจะเป็นกลุ่มบ้านราคาขายเฉลี่ย3.5ล้านบาท เนื่องจากบ้านเดี่ยว ซึ่งเป็นบ้านใหม่ราคาขายระดับ3.5ล้านบาทหากยากมากแล้ว หากจะมีบ้านเดี่ยวในราคาต่ำกว่า3.5ล้านบาทก็จะอยู่ไกลออกไปจากย่านชาญเมืองค่อนข้างมาก
ส่วนทาวน์เฮาส์ ที่น่าจะได้ข่ายดีในปีนี้ราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ระดับ1.5-1.7ล้านบาท ส่วนทาวน์เฮาส์ระดับราคา1ล้านบาทหรือต่ำกว่า1ล้านบาทในปัจจุบันแทบหาไม่ได้แล้ว เนื่องจากราคาที่ดินที่ปรับตัวขึ้นรวมถึงต้นทุนก่อสร้างแรงงาน และราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับขึ้นแทบทุกตัว
สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปี2556 นี้จะเน้นการหาทรัพย์ใหม่ๆมาเพิ่มในพอร์ตโดยให้น้ำหนักกับทรัพย์รอการขายของสถาบันการเงินซึ่งคาดว่าจะเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อเข้าไปบริหารการขายทรัพย์รอการขายของสถาบันการเงินเพิ่มอีกประมาณ2,000ล้านบาท ส่วนคอนโดมิเนียมนั้นจะเน้นรับฝากขายจากลูกค้ารายย่อย ปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตสินค้าในมือ 10,000 ล้านบาทแบ่งเป็นทรัพย์รอการขายสถาบันการเงิน60% และทรัพย์ฝากขาย40%
