00 เริ่มปีใหม่ เปิดทำการวันแรกพวกนักการเมืองกระจอกทั้งหลายก็เริ่มเคลื่อนไหวคิดทำแต่เรื่องผลประโยชน์ของตัวเองกันทันทีเช่นเดียวกัน อย่างเรื่องแก้ไขรธน. ที่ต่อเนื่องค้างคามาตั้งแต่ปีก่อน แต่ยังไม่สำเร็จเพราะชาวบ้านเขารู้ทัน คราวนี้ก็ปรับเปลี่ยนรูปแบบตบตากันใหม่ เปลี่ยนหน้ากันเข้ามาใหม่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับนักการเมืองทั้งสิ้น ชาวบ้านไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย
00 ชาวบ้านเขาไม่ได้เดือดร้อนกับ รัฐธรรมนูญ แต่คนที่เดือดร้อนคือ นักการเมืองชั่ว ขี้โกงมากกว่า แทนที่จะแก้ไขที่นิสัยเลวทรามของพวกนักการเมือง แต่ดันไปแก้ไข รธน.ที่บทบัญญัติควบคุมนักการเมืองขี้ฉ้ออันเข้มงวดไปเสียฉิบ คนพวกนี้จึงทนไม่ได้ แต่จะลงมือฉีกทิ้งแบบดุ่ยๆ ก็ยังขัดเขินจึงอ้างว่ามีที่มาเผด็จการบ้างละ ไม่เป็นประชาธิปไตยบ้างละ อำมาตย์อุปถัมภ์บ้างละ สารพัด ทั้งที่รธน.ฉบับปัจจุบันจะว่าไปแล้วเป็นการปรับปรุงจากทุกฉบับถือว่า “ก้าวหน้า” กว่าฉบับก่อนๆ ด้วยซ้ำไป และที่สำคัญก็ผ่านการรับรองโดยการลงประชามติจากชาวบ้านถึงกว่า 14.7 ล้านเสียง แล้วจะเอาอะไรกันอีก
00 น่าสมเพชพวกนักการเมืองบางกลุ่มที่จมไม่ลง ยังหลงละเมอเพ้อพกว่าตัวเองมีความสำคัญ อย่างเช่น บรรหาร ศิลปอาชา ที่ล่าสุดยังถ่อสังขารออกมาเสนอตัวเป็น “คนกลาง” ในการเคลื่อนไหวแก้ไขรธน. อ้างว่าเพื่อความปรองดองในบ้านเมือง ความหมายก็คือ ถ้าไม่ได้แก้ไข ก็ปรองดองไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ถูกต้องแล้ว เพราะไม่สมควรปรองดองกับนักการเมืองชั่วๆ บอกให้ก้าวข้าม ทักษิณ ชินวัตร ไปเสียที ก็จะข้ามได้อย่างไร ในเมื่อคนอย่างเขาไม่ยอมลดละ ยังเคลื่อนไหวทำลายระบบศาลยุติธรรมเพื่อให้ตัวเองพ้นผิดอยู่ตลอดเวลา อย่างนี้ข้ามไปง่ายๆไม่ได้หรอก
00 การเคลื่อนไหวของ บรรหาร แค่อ้าปากก็เห็นตับไตแล้ว แทนที่จะใช้ชีวิตในบั้นปลายเงียบๆ หรือเอาเวลาที่เหลือไปดูแลคุณหญิงแจ่มใส เลี้ยงหลานให้มีความสุข เลิกข้องแวะการเมือง แต่นี่ยังจมไม่ลง ยัง “หลงตัวเอง” ไม่เลิก อ้างว่าจะขอเป็น “คนกลาง” ประสานคนนั้นคนนี้ ขอโทษพวกเอ็งเป็นใครวะ พูดเองเออเอง คิดเอาแต่ได้ คิดว่าคนอื่นเขาตามไม่ทันหรือไง ยังทำร้ายบ้านเมืองไม่พอหรือไง ที่ผ่านมาทำ “ธุรกิจการเมือง” จนร่ำรวยไม่พอหรืออย่างไร ไปเถอะ บรรหาร ไปให้ไกลๆ เลยขอร้องละ !!
00 เริ่มมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วต่อเนื่องมาจนถึงปีใหม่สำหรับการไล่บี้ อภิสิทธิ์-สุเทพ จากฝ่ายเครือข่าย ทักษิณ ล่าสุดพ่วงเอา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เข้าไปอีกคน สองคนแรกโดนตั้งแต่เรื่องถอดยศร้อยตรีโดย รมว.กลาโหม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต และซ้ำด้วยดอกหนักจากดีเอสไอ ภายใต้ ธาริต เพ็งดิษฐ์ ใน “คดีสั่งฆ่า” ยัดข้อหาอาญาร้ายแรงใส่มือเป็น “ชนักปักหลัง”คาไว้อย่างนั้น ส่วน “คุณชาย” เพิ่งจะโดนตั้งข้อหาจากการขยายอายุสัมปทานเดินรถไฟฟ้าให้กับบีทีเอส เรื่องนี้ถูกมองเป็นการเมืองจนได้ เพราะกำลังจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.พอดี แต่งานนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นแต้มบวกหรือลบกันแน่ หากสังคมมองว่าถูกกลั่นแกล้ง มันก็อาจกลายเป็น “แรงส่ง”ให้เขากลับมาเป็นผู้ว่าฯอีกสมัยก็ได้
00 ปีใหม่ขึ้นมาแม้ว่าในภาพรวมจะดูคึกคักหลังจากนโยบายประชานิยมหลายอย่างเริ่มเดินหน้าโดยเฉพาะค่าแรง 300 บาทเริ่มมีผลใช้ทั่วประเทศ แน่นอนว่าในเบื้องต้นผู้ใช้แรงงานได้เฮแน่ แต่เชื่อว่าหลังจากนี้อีกประมาณ 1-2 เดือนก็จะได้เห็นบรรดาธุรกิจรายเล็กรายน้อยจะทยอยปิดตัวลงเพราะแบกรักค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นพรวดพราดไม่ไหว ส่วนขนาดกลางจะย้ายโรงงานมาอยู่ในเมืองหรือออกไปตั้งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน กลายเป็นว่าคนจะตกงานเพิ่ม และจะย้ายถิ่นเข้ามาในเมืองมากขึ้น แต่ที่สำคัญปัญหาค่าครองชีพที่สูง สินค้าจำเป็นแพงและขึ้นไปรอล่วงหน้าแล้ว ขณะที่มาตรการรองรับจากรัฐบาลแทบไม่ได้ยิน ได้ยินแต่เสียงขู่ของ รมว.แรงงาน เผดิมชัย สะสมทรัพย์ ที่บังคับให้จ่ายค่าแรงตามกม.แต่มาตรการช่วยเหลือเยียวยากลับไม่มี ในภาพรวมเชื่อว่าปีนี้เป็นปีที่จะประจานรัฐบาลปูจนล่อนจ้อนได้ชัดเจน ขอให้อยู่ให้นานๆแล้วกัน !!
00 ชาวบ้านเขาไม่ได้เดือดร้อนกับ รัฐธรรมนูญ แต่คนที่เดือดร้อนคือ นักการเมืองชั่ว ขี้โกงมากกว่า แทนที่จะแก้ไขที่นิสัยเลวทรามของพวกนักการเมือง แต่ดันไปแก้ไข รธน.ที่บทบัญญัติควบคุมนักการเมืองขี้ฉ้ออันเข้มงวดไปเสียฉิบ คนพวกนี้จึงทนไม่ได้ แต่จะลงมือฉีกทิ้งแบบดุ่ยๆ ก็ยังขัดเขินจึงอ้างว่ามีที่มาเผด็จการบ้างละ ไม่เป็นประชาธิปไตยบ้างละ อำมาตย์อุปถัมภ์บ้างละ สารพัด ทั้งที่รธน.ฉบับปัจจุบันจะว่าไปแล้วเป็นการปรับปรุงจากทุกฉบับถือว่า “ก้าวหน้า” กว่าฉบับก่อนๆ ด้วยซ้ำไป และที่สำคัญก็ผ่านการรับรองโดยการลงประชามติจากชาวบ้านถึงกว่า 14.7 ล้านเสียง แล้วจะเอาอะไรกันอีก
00 น่าสมเพชพวกนักการเมืองบางกลุ่มที่จมไม่ลง ยังหลงละเมอเพ้อพกว่าตัวเองมีความสำคัญ อย่างเช่น บรรหาร ศิลปอาชา ที่ล่าสุดยังถ่อสังขารออกมาเสนอตัวเป็น “คนกลาง” ในการเคลื่อนไหวแก้ไขรธน. อ้างว่าเพื่อความปรองดองในบ้านเมือง ความหมายก็คือ ถ้าไม่ได้แก้ไข ก็ปรองดองไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ถูกต้องแล้ว เพราะไม่สมควรปรองดองกับนักการเมืองชั่วๆ บอกให้ก้าวข้าม ทักษิณ ชินวัตร ไปเสียที ก็จะข้ามได้อย่างไร ในเมื่อคนอย่างเขาไม่ยอมลดละ ยังเคลื่อนไหวทำลายระบบศาลยุติธรรมเพื่อให้ตัวเองพ้นผิดอยู่ตลอดเวลา อย่างนี้ข้ามไปง่ายๆไม่ได้หรอก
00 การเคลื่อนไหวของ บรรหาร แค่อ้าปากก็เห็นตับไตแล้ว แทนที่จะใช้ชีวิตในบั้นปลายเงียบๆ หรือเอาเวลาที่เหลือไปดูแลคุณหญิงแจ่มใส เลี้ยงหลานให้มีความสุข เลิกข้องแวะการเมือง แต่นี่ยังจมไม่ลง ยัง “หลงตัวเอง” ไม่เลิก อ้างว่าจะขอเป็น “คนกลาง” ประสานคนนั้นคนนี้ ขอโทษพวกเอ็งเป็นใครวะ พูดเองเออเอง คิดเอาแต่ได้ คิดว่าคนอื่นเขาตามไม่ทันหรือไง ยังทำร้ายบ้านเมืองไม่พอหรือไง ที่ผ่านมาทำ “ธุรกิจการเมือง” จนร่ำรวยไม่พอหรืออย่างไร ไปเถอะ บรรหาร ไปให้ไกลๆ เลยขอร้องละ !!
00 เริ่มมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วต่อเนื่องมาจนถึงปีใหม่สำหรับการไล่บี้ อภิสิทธิ์-สุเทพ จากฝ่ายเครือข่าย ทักษิณ ล่าสุดพ่วงเอา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เข้าไปอีกคน สองคนแรกโดนตั้งแต่เรื่องถอดยศร้อยตรีโดย รมว.กลาโหม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต และซ้ำด้วยดอกหนักจากดีเอสไอ ภายใต้ ธาริต เพ็งดิษฐ์ ใน “คดีสั่งฆ่า” ยัดข้อหาอาญาร้ายแรงใส่มือเป็น “ชนักปักหลัง”คาไว้อย่างนั้น ส่วน “คุณชาย” เพิ่งจะโดนตั้งข้อหาจากการขยายอายุสัมปทานเดินรถไฟฟ้าให้กับบีทีเอส เรื่องนี้ถูกมองเป็นการเมืองจนได้ เพราะกำลังจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.พอดี แต่งานนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นแต้มบวกหรือลบกันแน่ หากสังคมมองว่าถูกกลั่นแกล้ง มันก็อาจกลายเป็น “แรงส่ง”ให้เขากลับมาเป็นผู้ว่าฯอีกสมัยก็ได้
00 ปีใหม่ขึ้นมาแม้ว่าในภาพรวมจะดูคึกคักหลังจากนโยบายประชานิยมหลายอย่างเริ่มเดินหน้าโดยเฉพาะค่าแรง 300 บาทเริ่มมีผลใช้ทั่วประเทศ แน่นอนว่าในเบื้องต้นผู้ใช้แรงงานได้เฮแน่ แต่เชื่อว่าหลังจากนี้อีกประมาณ 1-2 เดือนก็จะได้เห็นบรรดาธุรกิจรายเล็กรายน้อยจะทยอยปิดตัวลงเพราะแบกรักค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นพรวดพราดไม่ไหว ส่วนขนาดกลางจะย้ายโรงงานมาอยู่ในเมืองหรือออกไปตั้งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน กลายเป็นว่าคนจะตกงานเพิ่ม และจะย้ายถิ่นเข้ามาในเมืองมากขึ้น แต่ที่สำคัญปัญหาค่าครองชีพที่สูง สินค้าจำเป็นแพงและขึ้นไปรอล่วงหน้าแล้ว ขณะที่มาตรการรองรับจากรัฐบาลแทบไม่ได้ยิน ได้ยินแต่เสียงขู่ของ รมว.แรงงาน เผดิมชัย สะสมทรัพย์ ที่บังคับให้จ่ายค่าแรงตามกม.แต่มาตรการช่วยเหลือเยียวยากลับไม่มี ในภาพรวมเชื่อว่าปีนี้เป็นปีที่จะประจานรัฐบาลปูจนล่อนจ้อนได้ชัดเจน ขอให้อยู่ให้นานๆแล้วกัน !!
