แบงก์ชาติเผยตัวเลขนักลงทุนไทยแห่ไปลงทุนต่างประเทศ ทั้งลงทุนโดยตรง ซื้อกิจการ และหลักทรัพย์ ตราสารหนี้ ช่วง 11 เดือนของปี 55 ทะลุ 5.5 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปี 54 ถึง 116% เชื่อแนวโน้มการไหลออกของเงินลงทุนต่อเนื่อง ขณะที่ฝั่งต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย 11 เดือนแรกของปี 55 อยู่ที่ 2.5 แสนล้านบาท
รายงานจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แจ้งว่า ธปท.ได้รายงานสถานการณ์การนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศล่าสุดตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ย.ปี 55 พบว่า คนไทยนำเงินลงทุนโดยตรง ซื้อกิจการ ย้ายฐานการผลิต และลงทุนในหลักทรัพย์ทั้งกองทุนหุ้น และตราสารหนี้สูงถึง 18,363 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 550,890 ล้านบาท (30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ) สูงกว่ายอดการออกไปลงทุนตลอดปี 54 ที่ผ่านมา
ซึ่งมีเม็ดเงินออกไปลงทุนทั้งสิ้น 8,467 ล้านบาท หรือประมาณ 254,010 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 296,880 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 116% เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน
ในช่วง 11 เดือนของปี 55 พบว่า ในส่วนของการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศของธุรกิจไทยมีทั้งสิ้น 10,576 ล้านเหรียญฯ หรือประมาณ 317,280 ล้านบาท ขณะที่การลงทุนหลักทรัพย์ของไทยทั้งหุ้น และตราสารหนี้ในประเทศเป็นเม็ดเงินทั้งสิ้น 7,787 ล้านเหรียญฯ หรือ 233,610 ล้านบาท
“จากทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรป ที่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจได้อย่างเบ็ดเสร็จ และยังคงอยู่ในทิศทางที่ฟื้นตัวช้าๆ หรือชะลอตัวต่อเนื่องในปีนี้ ขณะที่นักธุรกิจไทยเตรียมพร้อมการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 เพิ่มขึ้น และการย้ายฐานการผลิตออกไปต่างประเทศในบางส่วนเพื่อลดต้นทุนจากค่าแรงขั้นต่ำในประเทศที่เพิ่มขึ้นเป็น 300 บาทต่อวัน ธปท.คาดว่าในปี 2556 ทิศทางการออกไปลงทุนในต่างประเทศของภาคธุรกิจไทยจะยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง”แหล่งข่าวสายตลาดการเงินธปท.กล่าว
นอกจากนี้ สายตลาดการเงิน ธปท.ยังได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของบริษัทขนาดใหญ่ของไทย พบว่า ส่วนใหญ่ยังมีความสนใจออกไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น ขณะเดียวกันแนวทางการผ่อนคลายกฎเกณฑ์การนำเงินออกไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งธปท.และกระทรวงการคลังจะออกเริ่มตั้งแต่ต้นปี 56 นี้ โดยเฉพาะประเด็นการนำเงินออกไปลงทุนในต่างประเทศของบุคคลทั้งในรูปแบบการลงทุนโดยตรง การซื้อกิจาร ขยายฐานการผลิต รวมทั้งการลงทุนในหุ้น และตราสารหนี้ในต่างประเทศได้โดยไม่จำกัดจำนวนเงิน ซึ่งจะช่วยให้ยอดการนำเงินออกไปลงทุนในต่างประเทศในปีนี้มากขึ้น
ขณะเดียวกันในแง่ของเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในกิจการของประเทศไทยโดยตรง 11 เดือนแรกของปี 56 ที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่ไม่สูงมากนัก แต่ยังเห็นเงินไหลเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยมีเม็ดเงินต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนทั้งสิ้น 8,473 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 254,190 ล้านบาท.
รายงานจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แจ้งว่า ธปท.ได้รายงานสถานการณ์การนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศล่าสุดตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ย.ปี 55 พบว่า คนไทยนำเงินลงทุนโดยตรง ซื้อกิจการ ย้ายฐานการผลิต และลงทุนในหลักทรัพย์ทั้งกองทุนหุ้น และตราสารหนี้สูงถึง 18,363 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 550,890 ล้านบาท (30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ) สูงกว่ายอดการออกไปลงทุนตลอดปี 54 ที่ผ่านมา
ซึ่งมีเม็ดเงินออกไปลงทุนทั้งสิ้น 8,467 ล้านบาท หรือประมาณ 254,010 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 296,880 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 116% เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน
ในช่วง 11 เดือนของปี 55 พบว่า ในส่วนของการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศของธุรกิจไทยมีทั้งสิ้น 10,576 ล้านเหรียญฯ หรือประมาณ 317,280 ล้านบาท ขณะที่การลงทุนหลักทรัพย์ของไทยทั้งหุ้น และตราสารหนี้ในประเทศเป็นเม็ดเงินทั้งสิ้น 7,787 ล้านเหรียญฯ หรือ 233,610 ล้านบาท
“จากทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรป ที่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจได้อย่างเบ็ดเสร็จ และยังคงอยู่ในทิศทางที่ฟื้นตัวช้าๆ หรือชะลอตัวต่อเนื่องในปีนี้ ขณะที่นักธุรกิจไทยเตรียมพร้อมการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 เพิ่มขึ้น และการย้ายฐานการผลิตออกไปต่างประเทศในบางส่วนเพื่อลดต้นทุนจากค่าแรงขั้นต่ำในประเทศที่เพิ่มขึ้นเป็น 300 บาทต่อวัน ธปท.คาดว่าในปี 2556 ทิศทางการออกไปลงทุนในต่างประเทศของภาคธุรกิจไทยจะยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง”แหล่งข่าวสายตลาดการเงินธปท.กล่าว
นอกจากนี้ สายตลาดการเงิน ธปท.ยังได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของบริษัทขนาดใหญ่ของไทย พบว่า ส่วนใหญ่ยังมีความสนใจออกไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น ขณะเดียวกันแนวทางการผ่อนคลายกฎเกณฑ์การนำเงินออกไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งธปท.และกระทรวงการคลังจะออกเริ่มตั้งแต่ต้นปี 56 นี้ โดยเฉพาะประเด็นการนำเงินออกไปลงทุนในต่างประเทศของบุคคลทั้งในรูปแบบการลงทุนโดยตรง การซื้อกิจาร ขยายฐานการผลิต รวมทั้งการลงทุนในหุ้น และตราสารหนี้ในต่างประเทศได้โดยไม่จำกัดจำนวนเงิน ซึ่งจะช่วยให้ยอดการนำเงินออกไปลงทุนในต่างประเทศในปีนี้มากขึ้น
ขณะเดียวกันในแง่ของเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในกิจการของประเทศไทยโดยตรง 11 เดือนแรกของปี 56 ที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่ไม่สูงมากนัก แต่ยังเห็นเงินไหลเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยมีเม็ดเงินต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนทั้งสิ้น 8,473 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 254,190 ล้านบาท.
