แบงก์ชาติชี้ระยะต่อไปเงินทุนไหลเข้าไทยไม่มาก ปลื้มมาตรการผ่อนคลายกฎให้คนไทยลงทุนต่างแดนได้ผล และต่างชาติสนใจละตินอเมริกามากกว่าเอเชีย เล็งคลายกฎเพิ่มเติมช่วงเดือน ธ.ค.-ม.ค.นี้ อนุญาตให้รายย่อยลงทุนหลักทรัพย์ต่างประเทศได้ผ่านตัวกลาง พร้อมเปิดให้เอสเอ็มอีลงทุนโดยตรงในต่างประเทศอย่างเสรี และคนไทยฝากเงินตราต่างประเทศในบัญชี FCD ได้ตามภาระผูกพัน และไม่จำกัดเงื่อนเวลา
นางอลิศรา มหาสันทนะ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงิน สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ทิศทางค่าเงินบาทจะถูกกำหนดโดยปัจจัยตลาดโลกเป็นสำคัญจากความผันผวนในตลาดโลกที่ยังมีอยู่ ทำให้เงินทุนไหลเข้าไทยผันผวนเหมือนกันอย่างอดีตที่มีภาวะ Risk-on, Risk-off แต่ระยะต่อไป เงินทุนไหลเข้าไทยคงไม่มากเหมือนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพราะไทยมีแผนแม่บทเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ ทำให้เงินบาทแข็งค่าไม่เร็วนัก อีกทั้งปัจจุบัน ละตินอเมริกาก็เป็นภูมิภาคหนึ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจมากขึ้น จึงมีพื้นที่ส่วนอื่นรองรับเงินทุนเคลื่อนย้ายไม่ใช่เอเชียอย่างเดียว แต่ ธปท.ไม่วางใจ และจะสอดส่องดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไป
“ธนาคารกลางหลายแห่งกระตุ้นเศรษฐกิจ และหนี้ยุโรปบางส่วนเริ่มคลี่คลาย ทำให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนตลาดหุ้น พันธบัตร และราคาทองคำสูงขึ้นเร็ว ทำให้เงินบาทแข็งค่ามาก 3.3% ช่วงไตรมาส 3 ขณะที่ไตรมาส 4 เริ่มเดือน ต.ค. เงินบาทเคลื่อนไหวเป็น Rang อยู่ที่ 30.60-30.82 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แรงซื้อขายเงินดอลลาร์สหรัฐขณะนี้อยู่ระดับสมดุล เพราะผู้ส่งออกขายดอลลาร์ล่วงหน้าลดลง และแรงซื้อเงินดอลลาร์จากนักลงทุนไทยไปลงทุนต่างประเทศ (TDI) เพิ่มขึ้น”
ทั้งนี้ คนไทยลงทุนลักษณะ TDI ต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ไตรมาส 1-3 ของปีนี้ มีเม็ดเงินในส่วนนี้ทั้งสิ้น 9.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลอดปี 54 มีเงินทีดีไอ 8.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ธปท.มีแผนแม่บทเงินทุนเคลื่อนย้ายฯ ซึ่งจะส่งเสริมคนไทยลงทุนนอกประเทศเพิ่มขึ้น และเชื่อว่าจะเป็นแรงส่งที่ดีต่อไป นอกจากนี้ ยังมีเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคนี้ โดยไทยมีต่างชาติลงทุนในตลาดพันธบัตรส่วนใหญ่ ล่าสุด เดือน พ.ย.อยู่ที่ 9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ลงทุนในตลาดหุ้น 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตอนนี้เงินทุนไหลเข้าสุทธิในไทย 9.4 พันล้านเหรียญ
ผ่อนคลายกฎให้คนไทยลงทุนนอกเพิ่ม
นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธปท.กล่าวว่า ภายในเดือน ธ.ค.นี้ ธปท.จะออกมาตรการผ่อนคลายเงินทุนไหลออกเพิ่มเติม หลังจากก่อนหน้านี้ได้ทยอยผ่อนคลายออกมาเป็นระยะๆ โดยคาดว่า จะคลายกฎให้รายย่อยลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศได้ผ่านตัวกลาง หรือบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งส่วนนี้อยู่ภายใต้อำนาจของ ธปท.และฝ่ายกฎหมายของ ธปท.กำลังอยู่ระหว่างร่างประกาศ
นอกจากนี้ มาตรการต่อมาก็จะออกในช่วงต้นเดือน ม.ค.จะเป็นการผ่อนคลายให้บุคคลธรรมดาที่ลงทุนทีดีไอสามารถลงทุนในต่างประเทศได้ไม่จำกัดวงเงิน จากเดิมกำหนดให้แค่ 100 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี เพื่อเพิ่มศักยภาพธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (SMEs) และเตรียมพร้อมรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในระยะต่อไป และจะอนุญาตให้คนไทยสามารถนำเงินบาทไปแลกเป็นเงินตราต่างประเทศเข้าบัญชีเงินฝากในรูปเงินตราต่างประเทศ (FCD) ได้ตามภาระผูกพัน และไม่จำกัดเงื่อนเวลา