ASTVผู้จัดการรายวัน - "ประยุทธ์" สั่งเปิดค่ายทหารให้ "ปชช." พักผ่อน - พักรถ ช่วงเทศกาลปีใหม่ ด้าน “สุรนันทน์”นำทีมลิ่วล้อเชลียร์ปู ส่วน "ผบ.ตร.” ประกาศคำสั่งห้ามลูกน้องนำสิ่งของหรือของขวัญเข้าอวยพรปีใหม่ พร้อมสั่งสถานบันเทิงห้ามจุดพลุหวั่นเกิดเหตุซ้ำรอยซานติก้าผับ กทม.ชวนคนกรุงเมาไม่ขับโทรเรียก 1555 ประสานศูนย์แท็กซี่ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งส่งคน-รถถึงบ้านช่วงเทศกาลปีใหม่
ที่กองบัญชาการกองทัพบก(บก.ทบ.) พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ได้สั่งการให้หน่วยทหารกองทัพบกทั่วประเทศให้การดูแลพี่น้องประชาชนที่จะสัญจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 โดยให้ทหารให้ความสะดวกหน้าค่ายทหาร จัดพื้นที่ในค่ายเป็นจุดพักรถ-พักคน สำหรับโรงพยาบาลกองทัพบกได้จัดบุคลากรทางการแพทย์ ยาและเวชภัณฑ์ โดยพร้อมให้บริการทันทีหากมีผู้บาดเจ็บ ทั้งนี้ มาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยพื้นที่สาธารณะและพื้นที่สำคัญ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นหน่วยงานหลักดูแลเรื่องนี้ ส่วนหน่วยทหารจะจัดเตรียมกำลังพลและอุปกรณ์ที่จำเป็นพร้อมสนับสนุนทันทีเมื่อได้รับการร้องขอ
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ แถลงว่า สำหรับพื้นที่ชายแดนกองกำลังของกองทัพบกยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติโดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนที่มีนักท่องเที่ยวและประชาชนสัญจรไป-มาผ่านด่านตรวจ โดยทางกองกำลังชายแดนจะดำเนินการตรวจค้น เพิ่มมาตรการเข้มข้นในการป้องปรามการกระทำผิดกฎหมาย เพราะช่วงเทศกาลมิจฉาชีพจะถือโอกาสนี้ลักลอบทำผิดกฎหมาย อาทิ หลบหนีเข้าเมือง ลักลอบนำสินค้าหนีภาษีและยาเสพติด
**“สุรนันทน์” ขอรับใช้นายกฯปู
วันที่ 26 ธ.ค.55 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นำรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ฝ่ายข้าราชการ ฝ่ายสังคม ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยผู้บริหาร ข้าราชการในสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) นำกระเช้าของขวัญเข้าขอพรน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสปีใหม่ โดยนายสุรนันทน์ กล่าวว่า พวกเราขอปวารณาตัวรับใช้นายกฯและประเทศชาติอย่างดีที่สุด และเป็นกำลังใจให้นายกฯ
ขณะที่นายกฯ กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกคนในสลน.ที่ช่วยกันทำงานให้กับบ้านเมืองและรัฐบาลอย่างเข้มแข็ง ทั้งที่มีปัญหา อุปสรรค และมีคนน้อย แต่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปีหน้าขอให้ทุกคนทำงานเพื่อประชาชน โดยนายกฯได้มอบเสื้อเป็นของขวัญปีใหม่และถ่ายรูปร่วม
ต่อมาพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นำกระเช้าดอกไม้เข้าขอพรนายกฯ พร้อมรองผบ.ตร. ผบช. และผบช.น
**“อดุลย์” งดรับของขวัญปีใหม่
วันนี้ (26 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีหนังสือคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจงดเดินทางและนำสิ่งของหรือของขวัญมาอวยพรปีใหม่ ทั้งที่ทำงานและที่บ้านพัก แต่ให้ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินในช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างดีที่สุด พร้อมเน้นย้ำให้ตำรวจในพื้นที่ที่มีการจัดงานนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ โดยเฉพาะตามเมืองใหญ่ต่างๆ ที่จะมีประชาชนเข้าร่วมงานจำนวนมาก ให้เตรียมมาตรการรักษาความปลอดภัย และแผนสำรองกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น กรณีไฟฟ้าดับ เพื่อควบคุมมวลชนให้ได้รับปลอดภัยสูงสุด
ส่วนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ตำรวจสันติบาลวิเคราะห์สถานการณ์และการข่าวอย่างใกล้ชิด รวมทั้งจับตากลุ่มที่เคยปฏิบัติการในพื้นที่ต่างๆ ป้องกันการก่อความไม่สงบ หรือความวุ่นวายใดๆ
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการสถานบันเทิง ห้ามจุดพลุ ดอกไม้ไฟ หรือใช้เอฟเฟกต์ ที่จะก่อให้เกิดประกายไฟ เกรงเหตุไฟไหม้ซ้ำรอยซานติก้าผับ รวมถึงการปล่อยโคมลอยต่างๆ ด้วย ซึ่งในวันที่ 27 ธ.ค. เวลา 17.00 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาประชุมระดับผู้บัญชาการขึ้นไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อกำชับการปฏิบัติหน้าที่ช่วงเทศกาลปีใหม่อีกครั้ง
***กทม.ส่งคนเมากลับบ้าน
นายบรรจง เหลืองรัตนมาศ ผู้อำนวยการกองนโยบายและแผนงาน สำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) กรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ได้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการดำเนินงานโครงการ “เมาไม่ขับ กลับแท๊กซี่” โดยมีศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กองบังคับการตำรวจนครบาล มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และสหกรณ์แท็กซี่จำนวน 8 ศูนย์ ได้แก่ สหกรณ์ปทุมวันแท๊กซี่ สหกรณ์แท๊กซี่สยาม จำกัด สหกรณ์แท็กซี่กรุงเทพ จำกัด สหกรณ์แท๊กซี่รวมมิตร จำกัด บริษัท รวมแท็กซี่ไทย จำกัด บริษัท โฮวาอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด สหกรณ์ภูมิพลังแท็กซี่ จำกัด และบริษัท นครชัยทรานสปอต์เตชั่น จำกัด ร่วมประชุมซักซ้อมความเข้าใจโดยเฉพาะการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 (7 วันระวังอันตราย) ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 2555 - 2 ม.ค. 2556 เพื่อเป็นการป้องกันและลดอุบัติเหตุจราจรจากผู้ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ที่ขับขี่ยานพาหนะ
โดยเปิดให้บริการจัดส่งผู้โดยสารพร้อมยานพาหนะ ซึ่งมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจะเป็นผู้ดำเนินการจัดส่งผู้โดยสารพร้อมยานพาหนะให้ฟรี ขณะที่การบริการจัดส่งผู้โดยสารอย่างเดียว สหกรณ์แท๊กซี่ที่เข้าร่วมโครงการทั้ง 8 ศูนย์ จะให้บริการโดยคิดค่าโดยสารตามระยะทางซึ่งผู้ที่ต้องการใช้บริการ สามารถใช้บริการผ่านสายด่วนกทม. โทร.1555 เป็นศูนย์รับเรื่อง โดยทางศูนย์จะประสานงานกับศูนย์วิทยุแท๊กซี่ หรือมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดส่งรถแท๊กซี่ หรือเจ้าหน้าที่ไปรับพร้อมยานพาหนะไปส่งที่บ้าน
“เราได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปีซึ่งเราอยากให้คนที่ดื่มเหล้าไม่ขับรถให้โทรมาที่สายด่วน 1555 ของกทม. อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้ให้บริการเฉพาะช่วงเทสกาลเท่านั้นแต่ประชาชนสามารถโทรเรียกใช้บริการได้ตลอดเวลา” นายบรรจง กล่าว
จากสถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่(7 วันอันตราย)ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ปีพ.ศ.2551-2555 ที่ผ่านมา(รายงานโดยสจส.กทม.)นั้น เบื้องต้นดังนี้ 1.ปีใหม่ 2551 เสียชีวิตรวม 24 ราย เฉลี่ย 3.4 ราย/วัน 2.ปีใหม่ 2552 เสียชีวิต 11 ราย เฉลี่ย 1.6 ราย/วัน 3.ปีใหม่2553 เสียชีวิต 9 ราย เฉลี่ย 1.3 ราย/วัน 4.ปีใหม่ 2554 เสียชีวิต 7 ราย เฉลี่ย 1 ราย/วัน และ 5.ปีใหม่ 2555 เสียชีวิต 12 ราย เฉลี่ย 1.7 ราย/วัน ซึ่งจะสังเกตได้ว่า อัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรช่วงเทศกาลปีใหม่ระหว่างปี 2554 กับปี 2555 ซึ่งเป็นปีล่าสุด มีค่าเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับอีก 2 ปีก่อนปี 54 ที่มีแนวโน้มว่าจะค่อยๆ ลดลงทุกปี
**ปภ.แนะผู้ขับขี่ระวังขับรถ
วันนี้ (26 ธ.ค.) นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า เทศกาลปีใหม่เป็นช่วงที่มีสถิติอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าปกติ เพื่อความปลอดภัย กรมฯแนะวิธีขับรถอย่างปลอดภัย ดังนี้ ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่ขับแซงรถคันอื่น ไม่เปลี่ยนช่องทางเดินรถกะทันหัน รวมถึงให้สัญญาณไฟล่วงหน้าทุกครั้งก่อนเปลี่ยนช่องทาง ไม่ขับรถชิดรถคันหน้าในระยะกระชั้นชิด หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้มีระยะหยุดรถอย่างปลอดภัย ใช้อุปกรณ์นิรภัยอย่างถูกวิธีทุกครั้งที่เดินทาง โดยสวมหมวกนิรภัยแบบเต็มใบที่ได้มาตรฐาน และมีขนาดพอดีกับศีรษะ คาดเข็มขัดนิรภัยแนบชิดลำตัว ไม่พลิก บิด งอ หรือหย่อนยาน
เด็กเล็กให้นั่งเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กบริเวณกึ่งกลางของเบาะด้านหลังรถ จะช่วยลดอัตราการบาดเจ็บรุนแรงและเสียชีวิตกรณีประสบอุบัติเหตุ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงเสียสมาธิในขณะขับรถ โดยผู้ขับขี่ไม่ควรรับประทานอาหาร แต่งหน้า ดูโทรทัศน์ ส่งข้อความสั้นทางโทรศัพท์ หรือประกอบกิจกรรมอื่นที่ต้องละสายตาจากเส้นทาง เพราะทำให้ไม่มีสมาธิในการขับรถ จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ไม่ขับรถเร็ว โดยใช้ความเร็วในอัตราที่กฎหมายกำหนด ลดความเร็วให้ต่ำกว่าปกติเมื่อขับรถในช่วงเวลากลางคืนหรือขับรถผ่านเส้นทางที่มีทัศนวิสัยไม่ดี เช่น หมอกลงจัด ฝนตกหนัก ควันไฟปกคลุม เป็นต้น เมาไม่ขับ ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด หากดื่มควรใช้บริการรถแท็กซี่ หรือให้เพื่อนที่ไม่ดื่มขับรถแทน หากไม่มีควรพักให้สร่างเมาแล้วค่อยขับรถกลับบ้าน ง่วงไม่ขับ
กรณีขับรถระยะทางไกล ควรมีเพื่อนร่วมเดินทางผลัดเปลี่ยนขับรถ หากไม่มี ควรหยุดพักรถเป็นระยะทุก 2 ชั่วโมง ถ้ามีอาการง่วงนอน ให้จอดรถพักในบริเวณที่ปลอดภัย เพื่อปรับอิริยาบถ จะช่วยคลายความอ่อนล้าและป้องกันอุบัติเหตุทางถนนจากการหลับใน โทรไม่ขับ ไม่ใช้โทรศัพท์มือถือในขณะขับรถ หากจำเป็นควรใช้แฮนด์ฟรี บลูทูธ และไม่ควรคุยโทรศัพท์เป็นเวลานาน หากไม่มีควรให้เพื่อนที่ร่วมเดินทางด้วยรับโทรศัพท์แทน หรือจอดรถคุยโทรศัพท์ริมข้างทางบริเวณที่ปลอดภัย
สุดท้ายเพื่อความปลอดภัย ผู้ขับขี่ควรเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถ ไม่ประมาท หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด “เร็ว เมา ง่วง โทรไม่ขับ”อย่างเด็ดขาด รวมถึงมีมารยาทในการขับรถและมีน้ำใจให้กับผู้ร่วมใช้เส้นทาง จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง
ที่กองบัญชาการกองทัพบก(บก.ทบ.) พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ได้สั่งการให้หน่วยทหารกองทัพบกทั่วประเทศให้การดูแลพี่น้องประชาชนที่จะสัญจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 โดยให้ทหารให้ความสะดวกหน้าค่ายทหาร จัดพื้นที่ในค่ายเป็นจุดพักรถ-พักคน สำหรับโรงพยาบาลกองทัพบกได้จัดบุคลากรทางการแพทย์ ยาและเวชภัณฑ์ โดยพร้อมให้บริการทันทีหากมีผู้บาดเจ็บ ทั้งนี้ มาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยพื้นที่สาธารณะและพื้นที่สำคัญ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นหน่วยงานหลักดูแลเรื่องนี้ ส่วนหน่วยทหารจะจัดเตรียมกำลังพลและอุปกรณ์ที่จำเป็นพร้อมสนับสนุนทันทีเมื่อได้รับการร้องขอ
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ แถลงว่า สำหรับพื้นที่ชายแดนกองกำลังของกองทัพบกยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติโดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนที่มีนักท่องเที่ยวและประชาชนสัญจรไป-มาผ่านด่านตรวจ โดยทางกองกำลังชายแดนจะดำเนินการตรวจค้น เพิ่มมาตรการเข้มข้นในการป้องปรามการกระทำผิดกฎหมาย เพราะช่วงเทศกาลมิจฉาชีพจะถือโอกาสนี้ลักลอบทำผิดกฎหมาย อาทิ หลบหนีเข้าเมือง ลักลอบนำสินค้าหนีภาษีและยาเสพติด
**“สุรนันทน์” ขอรับใช้นายกฯปู
วันที่ 26 ธ.ค.55 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นำรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ฝ่ายข้าราชการ ฝ่ายสังคม ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยผู้บริหาร ข้าราชการในสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) นำกระเช้าของขวัญเข้าขอพรน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสปีใหม่ โดยนายสุรนันทน์ กล่าวว่า พวกเราขอปวารณาตัวรับใช้นายกฯและประเทศชาติอย่างดีที่สุด และเป็นกำลังใจให้นายกฯ
ขณะที่นายกฯ กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกคนในสลน.ที่ช่วยกันทำงานให้กับบ้านเมืองและรัฐบาลอย่างเข้มแข็ง ทั้งที่มีปัญหา อุปสรรค และมีคนน้อย แต่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปีหน้าขอให้ทุกคนทำงานเพื่อประชาชน โดยนายกฯได้มอบเสื้อเป็นของขวัญปีใหม่และถ่ายรูปร่วม
ต่อมาพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นำกระเช้าดอกไม้เข้าขอพรนายกฯ พร้อมรองผบ.ตร. ผบช. และผบช.น
**“อดุลย์” งดรับของขวัญปีใหม่
วันนี้ (26 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีหนังสือคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจงดเดินทางและนำสิ่งของหรือของขวัญมาอวยพรปีใหม่ ทั้งที่ทำงานและที่บ้านพัก แต่ให้ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินในช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างดีที่สุด พร้อมเน้นย้ำให้ตำรวจในพื้นที่ที่มีการจัดงานนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ โดยเฉพาะตามเมืองใหญ่ต่างๆ ที่จะมีประชาชนเข้าร่วมงานจำนวนมาก ให้เตรียมมาตรการรักษาความปลอดภัย และแผนสำรองกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น กรณีไฟฟ้าดับ เพื่อควบคุมมวลชนให้ได้รับปลอดภัยสูงสุด
ส่วนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ตำรวจสันติบาลวิเคราะห์สถานการณ์และการข่าวอย่างใกล้ชิด รวมทั้งจับตากลุ่มที่เคยปฏิบัติการในพื้นที่ต่างๆ ป้องกันการก่อความไม่สงบ หรือความวุ่นวายใดๆ
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการสถานบันเทิง ห้ามจุดพลุ ดอกไม้ไฟ หรือใช้เอฟเฟกต์ ที่จะก่อให้เกิดประกายไฟ เกรงเหตุไฟไหม้ซ้ำรอยซานติก้าผับ รวมถึงการปล่อยโคมลอยต่างๆ ด้วย ซึ่งในวันที่ 27 ธ.ค. เวลา 17.00 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาประชุมระดับผู้บัญชาการขึ้นไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อกำชับการปฏิบัติหน้าที่ช่วงเทศกาลปีใหม่อีกครั้ง
***กทม.ส่งคนเมากลับบ้าน
นายบรรจง เหลืองรัตนมาศ ผู้อำนวยการกองนโยบายและแผนงาน สำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) กรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ได้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการดำเนินงานโครงการ “เมาไม่ขับ กลับแท๊กซี่” โดยมีศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กองบังคับการตำรวจนครบาล มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และสหกรณ์แท็กซี่จำนวน 8 ศูนย์ ได้แก่ สหกรณ์ปทุมวันแท๊กซี่ สหกรณ์แท๊กซี่สยาม จำกัด สหกรณ์แท็กซี่กรุงเทพ จำกัด สหกรณ์แท๊กซี่รวมมิตร จำกัด บริษัท รวมแท็กซี่ไทย จำกัด บริษัท โฮวาอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด สหกรณ์ภูมิพลังแท็กซี่ จำกัด และบริษัท นครชัยทรานสปอต์เตชั่น จำกัด ร่วมประชุมซักซ้อมความเข้าใจโดยเฉพาะการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 (7 วันระวังอันตราย) ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 2555 - 2 ม.ค. 2556 เพื่อเป็นการป้องกันและลดอุบัติเหตุจราจรจากผู้ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ที่ขับขี่ยานพาหนะ
โดยเปิดให้บริการจัดส่งผู้โดยสารพร้อมยานพาหนะ ซึ่งมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจะเป็นผู้ดำเนินการจัดส่งผู้โดยสารพร้อมยานพาหนะให้ฟรี ขณะที่การบริการจัดส่งผู้โดยสารอย่างเดียว สหกรณ์แท๊กซี่ที่เข้าร่วมโครงการทั้ง 8 ศูนย์ จะให้บริการโดยคิดค่าโดยสารตามระยะทางซึ่งผู้ที่ต้องการใช้บริการ สามารถใช้บริการผ่านสายด่วนกทม. โทร.1555 เป็นศูนย์รับเรื่อง โดยทางศูนย์จะประสานงานกับศูนย์วิทยุแท๊กซี่ หรือมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดส่งรถแท๊กซี่ หรือเจ้าหน้าที่ไปรับพร้อมยานพาหนะไปส่งที่บ้าน
“เราได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปีซึ่งเราอยากให้คนที่ดื่มเหล้าไม่ขับรถให้โทรมาที่สายด่วน 1555 ของกทม. อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้ให้บริการเฉพาะช่วงเทสกาลเท่านั้นแต่ประชาชนสามารถโทรเรียกใช้บริการได้ตลอดเวลา” นายบรรจง กล่าว
จากสถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่(7 วันอันตราย)ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ปีพ.ศ.2551-2555 ที่ผ่านมา(รายงานโดยสจส.กทม.)นั้น เบื้องต้นดังนี้ 1.ปีใหม่ 2551 เสียชีวิตรวม 24 ราย เฉลี่ย 3.4 ราย/วัน 2.ปีใหม่ 2552 เสียชีวิต 11 ราย เฉลี่ย 1.6 ราย/วัน 3.ปีใหม่2553 เสียชีวิต 9 ราย เฉลี่ย 1.3 ราย/วัน 4.ปีใหม่ 2554 เสียชีวิต 7 ราย เฉลี่ย 1 ราย/วัน และ 5.ปีใหม่ 2555 เสียชีวิต 12 ราย เฉลี่ย 1.7 ราย/วัน ซึ่งจะสังเกตได้ว่า อัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรช่วงเทศกาลปีใหม่ระหว่างปี 2554 กับปี 2555 ซึ่งเป็นปีล่าสุด มีค่าเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับอีก 2 ปีก่อนปี 54 ที่มีแนวโน้มว่าจะค่อยๆ ลดลงทุกปี
**ปภ.แนะผู้ขับขี่ระวังขับรถ
วันนี้ (26 ธ.ค.) นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า เทศกาลปีใหม่เป็นช่วงที่มีสถิติอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าปกติ เพื่อความปลอดภัย กรมฯแนะวิธีขับรถอย่างปลอดภัย ดังนี้ ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่ขับแซงรถคันอื่น ไม่เปลี่ยนช่องทางเดินรถกะทันหัน รวมถึงให้สัญญาณไฟล่วงหน้าทุกครั้งก่อนเปลี่ยนช่องทาง ไม่ขับรถชิดรถคันหน้าในระยะกระชั้นชิด หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้มีระยะหยุดรถอย่างปลอดภัย ใช้อุปกรณ์นิรภัยอย่างถูกวิธีทุกครั้งที่เดินทาง โดยสวมหมวกนิรภัยแบบเต็มใบที่ได้มาตรฐาน และมีขนาดพอดีกับศีรษะ คาดเข็มขัดนิรภัยแนบชิดลำตัว ไม่พลิก บิด งอ หรือหย่อนยาน
เด็กเล็กให้นั่งเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กบริเวณกึ่งกลางของเบาะด้านหลังรถ จะช่วยลดอัตราการบาดเจ็บรุนแรงและเสียชีวิตกรณีประสบอุบัติเหตุ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงเสียสมาธิในขณะขับรถ โดยผู้ขับขี่ไม่ควรรับประทานอาหาร แต่งหน้า ดูโทรทัศน์ ส่งข้อความสั้นทางโทรศัพท์ หรือประกอบกิจกรรมอื่นที่ต้องละสายตาจากเส้นทาง เพราะทำให้ไม่มีสมาธิในการขับรถ จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ไม่ขับรถเร็ว โดยใช้ความเร็วในอัตราที่กฎหมายกำหนด ลดความเร็วให้ต่ำกว่าปกติเมื่อขับรถในช่วงเวลากลางคืนหรือขับรถผ่านเส้นทางที่มีทัศนวิสัยไม่ดี เช่น หมอกลงจัด ฝนตกหนัก ควันไฟปกคลุม เป็นต้น เมาไม่ขับ ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด หากดื่มควรใช้บริการรถแท็กซี่ หรือให้เพื่อนที่ไม่ดื่มขับรถแทน หากไม่มีควรพักให้สร่างเมาแล้วค่อยขับรถกลับบ้าน ง่วงไม่ขับ
กรณีขับรถระยะทางไกล ควรมีเพื่อนร่วมเดินทางผลัดเปลี่ยนขับรถ หากไม่มี ควรหยุดพักรถเป็นระยะทุก 2 ชั่วโมง ถ้ามีอาการง่วงนอน ให้จอดรถพักในบริเวณที่ปลอดภัย เพื่อปรับอิริยาบถ จะช่วยคลายความอ่อนล้าและป้องกันอุบัติเหตุทางถนนจากการหลับใน โทรไม่ขับ ไม่ใช้โทรศัพท์มือถือในขณะขับรถ หากจำเป็นควรใช้แฮนด์ฟรี บลูทูธ และไม่ควรคุยโทรศัพท์เป็นเวลานาน หากไม่มีควรให้เพื่อนที่ร่วมเดินทางด้วยรับโทรศัพท์แทน หรือจอดรถคุยโทรศัพท์ริมข้างทางบริเวณที่ปลอดภัย
สุดท้ายเพื่อความปลอดภัย ผู้ขับขี่ควรเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถ ไม่ประมาท หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด “เร็ว เมา ง่วง โทรไม่ขับ”อย่างเด็ดขาด รวมถึงมีมารยาทในการขับรถและมีน้ำใจให้กับผู้ร่วมใช้เส้นทาง จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง
