ASTVผู้จัดการรายวัน - "ลอดช่อง" สิงคโปร์ เปิดบ้านย้ำแค้นไทย 3-1 ในศึกฟุตบอล "เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ" ประจำปี 2012 รอบชิงชนะเลิศนัดแรก เมื่อคืนวันพุธที่ 19 ธันวาคม 2555 อย่างไรก็ตาม "ช้างศึก" จะได้กลับมาชี้ชะตาแชมป์ในรัง นัดสอง วันเสาร์ที่ 22 ธันวาคมนี้
ศึกลูกหนังเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศ เป็นการพบกันระหว่าง สิงคโปร์ กับ ไทย แชมป์ชาติละ 3 สมัย โดยนัดแรกมีขึ้นที่ จาลัน เบซาร์ สนามหญ้าเทียม ซึ่งย้อนกลับไปเมื่อปี 2007 ในรอบชิงเจ้าอาเซียน "ช้างศึก" เคยบุกมาเสียท่าให้ สิงคโปร์ 1-2 ชวดแชมป์ไปด้วยสกอร์รวมสองนัด 2-3 มาครั้งนี้ วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือชาวเยอรมันวางทัพใหญ่ลงสนาม ได้มิดฟิลด์ตัวรุกอย่าง ดัสกร ทองเหลา ฟิตปั้นเกมให้ "เจ้ามุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ ณ ปัจจุบันลุ้นสกอร์ที่ 6 ขณะที่เจ้าถิ่น ราด็อจโก อัฟราโมวิช กุนซือชาวเซิร์บฝากความหวังไว้ที่ ชาห์รีล อิชัค กัปตันทีมที่กดไปแล้ว 4 ประตู รวมถึง อเล็กซานดาร์ ดูริค และ คาห์อิรูล อัมริ
เริ่มเกม สิงคโปร์ เป็นฝ่ายลุยใส่ในฐานะเจ้าถิ่น ผ่านไปเพียง 9 นาที แฟนบอลชาวไทยพบฝันร้ายเหมือนครั้งเมื่อปี 2007 เมื่อพลาดเสียจุดโทษอีกแล้ว คราวนี้ ปิยพล บรรเทา ไปเบียด อเล็กซานเดอร์ ดูริค ล้มลง โทมะ มาซาอากิ ผู้ตัดสินชาวญี่ปุ่นไม่ลังเลใจเป่านกหวีดยาวพร้อมชี้ไปที่จุดโทษทันที มุสตาฟิค ฟาห์รูดิน รับหน้าที่สังหารหลอกจน กวิน ธรรมสัจจานันท์ นายทวารจอมหนึบของไทยหลงทาง อย่างไรก็ตาม เชิ้ตดำจากแดนอาทิตย์อุทัยเป่าให้เตะใหม่ เหตุจาก ดูริค ปรี่เข้าไปในเขตโทษก่อน อย่างไรก็ตาม ฟาห์รูดิน ก็ยังส่งบอลตุงตาข่ายโดยเลือกเปลี่ยนมุม ช่วยให้ สิงคโปร์ นำเร็ว 1-0
พอเสียประตูไป ไทยยังตั้งเกมไม่ติด นาทีที่ 26 ยังมาโชคร้ายเสีย ภานุพงศ์ วงศ์ษา เซ็นเตอร์ฮาล์ฟกัปตันทีมที่บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่ง ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ ลงมาช่วยในแนวรับแทน ถึงครึ่งชั่วโมง "ช้างศึก" มีลุ้นบ้าง พิชิตพงษ์ เฉยฉิว แทงทะลุช่องจากกลางสนามให้ อนุชา กิจพงษ์ศรี หลุดเข้าไปล่อเป้า อิซวาน มาห์บุด แต่ดันยิงเฉียดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย ถัดมาโอกาสเป็นของเจ้าบ้านบ้าง ดูริค ได้ดีดด้วยซ้ายติดเซฟ กวิน จบครึ่งเวลาแรก สิงคโปร์ รักษาสกอร์นำเอาไว้ได้
ลงมาลุยต่อครึ่ง ถึงนาทีที่ 58 ไทยตีเสมอ 1-1 สำเร็จจากความขยันของ อดุล หละโสะ ที่วิ่งไล่บอลที่กำลังจะออกข้าง แล้วลากขึ้นมาส่งให้ ธีรศิลป์ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวา "เจ้ามุ้ย" โชว์ทักษะยกบอลหนีกองหลังก่อนปาดเข้ากลางประตูให้ อดุล วิ่งเข้ามายิงเน้นๆ บอลชนเสาเข้าประตูให้ แต่ดีใจได้ไม่ถึงสองนาที "ลอดช่อง" ก็มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 ดูริค เปิดบอลจากฝั่งซ้ายให้ คาห์อิรูล อัมริ ที่เคยยิงประตูดับฝันไทยเมื่อนัดชิงปี 2007 พลิกหลบ ณัฐพร กับ ชลทิตย์ จันทคาม ก่อนยิงด้วยขวาเสียบเสาแรกอย่างเด็ดขาด
เกมเริ่มสนุกทั้งสองทีมเปิดหน้าแลกใส่กัน ไทยได้ฟรีคิกในนาทีที่ 63 จักรพันธ์ พรใส รับอาสายิงบอลพุ่งข้ามกำแพง แต่ มาห์บุด นายด่านเจ้าถิ่นปัดชนคานออกมา นาที 80 สิงคโปร์ เกือบได้เฮ ไชฟูล อีซาห์ ซัดฟรีคิกไกล 30 หลาด้วยซ้าย ร้อนถึง กวิน ต้องปัดทิ้งออกไป แต่ช่วงทดเจ็บ "ลอดช่อง" มาได้ประตูสำคัญชนะไป 3-1 จากลูกยิงจ่อๆ ของ ไบฮัคกี ไคย์ซาน ทำให้ "ช้างศึก" ต้องลุ้นหนักสำหรับการพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นแชมป์ ในแมตช์แก้ตัวนัดที่สอง ซึ่งจะเล่นที่สนามศุภชลาศัย เสาร์ที่ 22 ธ.ค.55 เวลา 19.00 น.
ศึกลูกหนังเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศ เป็นการพบกันระหว่าง สิงคโปร์ กับ ไทย แชมป์ชาติละ 3 สมัย โดยนัดแรกมีขึ้นที่ จาลัน เบซาร์ สนามหญ้าเทียม ซึ่งย้อนกลับไปเมื่อปี 2007 ในรอบชิงเจ้าอาเซียน "ช้างศึก" เคยบุกมาเสียท่าให้ สิงคโปร์ 1-2 ชวดแชมป์ไปด้วยสกอร์รวมสองนัด 2-3 มาครั้งนี้ วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือชาวเยอรมันวางทัพใหญ่ลงสนาม ได้มิดฟิลด์ตัวรุกอย่าง ดัสกร ทองเหลา ฟิตปั้นเกมให้ "เจ้ามุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ ณ ปัจจุบันลุ้นสกอร์ที่ 6 ขณะที่เจ้าถิ่น ราด็อจโก อัฟราโมวิช กุนซือชาวเซิร์บฝากความหวังไว้ที่ ชาห์รีล อิชัค กัปตันทีมที่กดไปแล้ว 4 ประตู รวมถึง อเล็กซานดาร์ ดูริค และ คาห์อิรูล อัมริ
เริ่มเกม สิงคโปร์ เป็นฝ่ายลุยใส่ในฐานะเจ้าถิ่น ผ่านไปเพียง 9 นาที แฟนบอลชาวไทยพบฝันร้ายเหมือนครั้งเมื่อปี 2007 เมื่อพลาดเสียจุดโทษอีกแล้ว คราวนี้ ปิยพล บรรเทา ไปเบียด อเล็กซานเดอร์ ดูริค ล้มลง โทมะ มาซาอากิ ผู้ตัดสินชาวญี่ปุ่นไม่ลังเลใจเป่านกหวีดยาวพร้อมชี้ไปที่จุดโทษทันที มุสตาฟิค ฟาห์รูดิน รับหน้าที่สังหารหลอกจน กวิน ธรรมสัจจานันท์ นายทวารจอมหนึบของไทยหลงทาง อย่างไรก็ตาม เชิ้ตดำจากแดนอาทิตย์อุทัยเป่าให้เตะใหม่ เหตุจาก ดูริค ปรี่เข้าไปในเขตโทษก่อน อย่างไรก็ตาม ฟาห์รูดิน ก็ยังส่งบอลตุงตาข่ายโดยเลือกเปลี่ยนมุม ช่วยให้ สิงคโปร์ นำเร็ว 1-0
พอเสียประตูไป ไทยยังตั้งเกมไม่ติด นาทีที่ 26 ยังมาโชคร้ายเสีย ภานุพงศ์ วงศ์ษา เซ็นเตอร์ฮาล์ฟกัปตันทีมที่บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่ง ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ ลงมาช่วยในแนวรับแทน ถึงครึ่งชั่วโมง "ช้างศึก" มีลุ้นบ้าง พิชิตพงษ์ เฉยฉิว แทงทะลุช่องจากกลางสนามให้ อนุชา กิจพงษ์ศรี หลุดเข้าไปล่อเป้า อิซวาน มาห์บุด แต่ดันยิงเฉียดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย ถัดมาโอกาสเป็นของเจ้าบ้านบ้าง ดูริค ได้ดีดด้วยซ้ายติดเซฟ กวิน จบครึ่งเวลาแรก สิงคโปร์ รักษาสกอร์นำเอาไว้ได้
ลงมาลุยต่อครึ่ง ถึงนาทีที่ 58 ไทยตีเสมอ 1-1 สำเร็จจากความขยันของ อดุล หละโสะ ที่วิ่งไล่บอลที่กำลังจะออกข้าง แล้วลากขึ้นมาส่งให้ ธีรศิลป์ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวา "เจ้ามุ้ย" โชว์ทักษะยกบอลหนีกองหลังก่อนปาดเข้ากลางประตูให้ อดุล วิ่งเข้ามายิงเน้นๆ บอลชนเสาเข้าประตูให้ แต่ดีใจได้ไม่ถึงสองนาที "ลอดช่อง" ก็มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 ดูริค เปิดบอลจากฝั่งซ้ายให้ คาห์อิรูล อัมริ ที่เคยยิงประตูดับฝันไทยเมื่อนัดชิงปี 2007 พลิกหลบ ณัฐพร กับ ชลทิตย์ จันทคาม ก่อนยิงด้วยขวาเสียบเสาแรกอย่างเด็ดขาด
เกมเริ่มสนุกทั้งสองทีมเปิดหน้าแลกใส่กัน ไทยได้ฟรีคิกในนาทีที่ 63 จักรพันธ์ พรใส รับอาสายิงบอลพุ่งข้ามกำแพง แต่ มาห์บุด นายด่านเจ้าถิ่นปัดชนคานออกมา นาที 80 สิงคโปร์ เกือบได้เฮ ไชฟูล อีซาห์ ซัดฟรีคิกไกล 30 หลาด้วยซ้าย ร้อนถึง กวิน ต้องปัดทิ้งออกไป แต่ช่วงทดเจ็บ "ลอดช่อง" มาได้ประตูสำคัญชนะไป 3-1 จากลูกยิงจ่อๆ ของ ไบฮัคกี ไคย์ซาน ทำให้ "ช้างศึก" ต้องลุ้นหนักสำหรับการพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นแชมป์ ในแมตช์แก้ตัวนัดที่สอง ซึ่งจะเล่นที่สนามศุภชลาศัย เสาร์ที่ 22 ธ.ค.55 เวลา 19.00 น.