เหตุการณ์ “เกลียดตัวแต่อยากกินไข่-สนธิ” ตอนสองจบลงตรงที่..
พันธมิตรฯ สู้กับรัฐบาลทักษิณ ทำให้ “พล.อ.บังเละ” กับพวกเป็น “ตาอยู่” ฉวยโอกาสทำรัฐประหารหยุดอำนาจทักษิณลงชั่วคราว
คณะรัฐประหารจะมีความดีอยู่บ้างตรงที่ตั้ง “คตส.” ขึ้นมาตรวจสอบการคอร์รัปชัน โกงกินชาติของทักษิณและพวก แต่ “คตส.” ก็ทำงานกันอย่างโดดเดี่ยว ไร้การสนับสนุนจากรัฐบาลยุคนั้นเท่าที่ควร
อีกทั้งใครบางคนในคณะรัฐประหารและรัฐบาล ยังอ้างความสมานฉันท์แอบเจรจากับทักษิณและพวก มีการตบทรัพย์เข้ากระเป๋าตนเองกันอย่างลับๆ เช่น นายทหารใหญ่บางคนในคณะรัฐประหาร ขอให้ คตส.บางคนช่วยยกทิ้งบางคดีความ นักการเมืองขี้โกงบางคนให้พ้นจากความผิด ฯลฯ
แถมหลังบ้านรัฐบาลตัวเป้งบางคน ก็แอบไปรับเงินทองเพชรนิลจินดา จากตระกูล “เหลี่ยม” ครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วให้สามีที่เป็นใหญ่ช่วยทักษิณและพวก จนคดีความของ คตส.ไม่คืบหน้าเท่าที่ควร
ที่ถูกอกถูกใจทักษิณเป็นที่สุด ก็คือ รัฐบาลของคณะรัฐประหารจัดให้มีการเลือกตั้งเร็วเกินเหตุ ทั้งๆ ที่ไม่มีการปฏิรูประบบการเลือกตั้ง มิให้นักการเมืองชั่วใช้เงินซื้อเสียงแต่ประการใดเลย
นั่นเท่ากับสองพลเอกผู้ทรงอำนาจยุคนั้น ได้ทำให้การต่อสู้กับทักษิณของพันธมิตรฯ รวมทั้งชาติที่ต้องลงทุนแก้ปัญหา วิกฤตการเมืองด้วยการรัฐประหาร โค่นล้มทักษิณเป็นเรื่องไม่คุ้มค่าเท่าที่ควรทันที!
ผลงานห่วยแตกและไร้ความรับผิดชอบ ที่ไม่มีการปฏิรูปใดๆ ให้กับชาติบ้านเมืองของคณะรัฐประหารและรัฐบาลของเขา ทำให้ทักษิณใช้เงินซื้อเสียงการเลือกตั้ง หวนกลับมายึดอำนาจรัฐไว้ในกำมือได้อีกครั้งหนึ่ง..ตามคาด..
หลังรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ขึ้นเถถิงอำนาจ ภายใต้การบงการของทักษิณ ชาติไทยจึงเต็มไปด้วยการโกงกิน และการทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ฯลฯ ชาวพันธมิตรฯ ที่รักชาติ รักสถาบันฯ จึงต้องออกมาสู้แบบยิบตาอีกครั้ง ตามคำประกาศของสนธิลิ้มที่ว่า..เจ๊งเป็นเจ๊ง-ตายเป็นตาย..
ข้างเวทีและหลังเวทีพันธมิตรฯ จึงคลาคล่ำไปด้วยชาว ปชป.มากหน้าหลายตา มีทั้งคุณหญิง-ท่านผู้หญิงบางคน และภรรยานายทหารใหญ่หลายคน ก็โผล่หน้ามา “ตากอากาศบนถนนราชดำเนิน” สลอน..ไปหมด..
บรรยากาศ “กฐินสามัคคี” ห้วงนั้น มักมี “พรายกระซิบ” มาหลายกระแสว่า หากรัฐบาลปราบประชาชนที่มีเพียง 2 มือเปล่า และชุมนุมกันด้วยวิธีสันติอหิงสาเมื่อไหร่ บ้านเมืองจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทันที
แต่แกนนำพันธมิตรฯ มิได้ใส่ใจใน “เสียงพรายกระซิบ” ทุกคนสู้ถวายหัวเพื่อจัดการทักษิณกับพวกและการเมืองที่ดีกว่าเท่านั้น!
ไฟธาตุแห่งความรุนแรงของรัฐบาลสมัครแตกก่อน รัฐบาลได้ออกหมายจับและตามไล่ล่าเอาชีวิตสนธิลิ้มอย่างลับๆ แถมยังใช้คนเสื้อแดงยกขบวนจากสนามหลวง โดยการนำของ “เสธ.เรด” และ “ยี้ห้อย” มุ่งหน้ามาทำร้ายหมายชีวิตพันธมิตรฯ ที่ชุมนุมกันอย่างสงบอยู่ในทำเนียบฯ แต่แผนใช้ความรุนแรงเหล่านั้นไม่สำเร็จ..
แต่แล้วจู่ๆ สมัครก็โดนศาลตัดสินให้มีความผิดในบางคดีความ จนต้องหลุดจากตำแหน่งนายกฯ โดยพลัน ทักษิณจึงดัน “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ขึ้นเป็นนายกฯ หักดิบ “ยี้ห้อย” ที่หนุนสมัครเป็นนายกฯ รอบสอง
เหตุการณ์เกิดขึ้นท่ามกลางพันธมิตรฯ ยังคงยืนหยัดสู้ไม่ถอยอยู่ในทำเนียบฯ เมื่อนายกฯ น้องเขยทักษิณต้องแถลงนโยบาย ก่อนเข้าบริหารชาติอย่างสมบูรณ์แบบ พันธมิตรฯ ที่มีเพียงสองมือเปล่าก็รายล้อมสภาไว้ หากนายกฯ สมชายย้ายที่ประชุมสภา..เหตุร้ายก็จะไม่เกิดขึ้น
แต่ “สมชาย-ทักษิณ” บ้าคลั่งในอำนาจเสียแล้ว จึงสั่งตำรวจให้กระหน่ำยิงพันธมิตรฯ ด้วยแก๊สน้ำตาหมดอายุและอาวุธสงครามอย่างป่าเถื่อน เพื่อเปิดทางให้นายสมชายกับบรรดา ส.ส.แค่ได้แถลงนโยบายกันในสภาเท่านั้น
แถมนายกฯ สมชายแถลงนโยบายรัฐบาลเสร็จสิ้นแล้ว ตำรวจก็ยังคงเข่นฆ่าพันธมิตรฯ ระลอกแล้วระลอกเล่า จากเช้าตรู่จรดพลบค่ำของวันที่ 7 ตุลาคม 2551 จนพันธมิตรฯ บาดเจ็บล้มตายระเนนระนาด โดยรัฐบาลสมชายไม่สั่งให้ยุติหรือห้ามปรามใดๆ เลย
ชีวิตแล้วชีวิตเล่าของพันธมิตรฯ ที่บาดเจ็บล้มตายอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ทำให้ผู้มีอำนาจในชาติไทยคนไหน ออกมาจัดการกับรัฐบาลชั่วช้าสามานย์ของทักษิณเลย โดยเฉพาะนายทหารใหญ่บางคน ยังไปยืนเคียงข้างรัฐบาลชั่ว ยืนดูประชาชนถูกเข่นฆ่าอย่างเลือดเย็นอีกด้วย!
ห้วงนั้นมีคำถามมากมายในใจประชาชนว่า รัฐบาลโจรทำลายชาติ ทำลายพระมหากษัตริย์ผู้เป็นจอมทัพของทหาร ทหารยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน แต่ประชาชนทนไม่ไหว จึงออกมาต่อสู้ปกป้องชาติและราชบัลลังก์ โอ..ประชาชนจะต้องตายมากมายแค่ไหน..จึงจะหนำใจทหารหาญของชาติ ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการปกป้องชาติและราชบัลลังก์ ฤาทหารวันนั้นและวันนี้เปลี่ยนไป โดยทหารบางคนถือว่า “จอมทัพ” ด้อยค่ากว่าเงิน-ตำแหน่งที่ “ทักษิณ” ปรนเปรอให้?
ที่สำคัญ..การเปลี่ยนแปลงโดยทหารที่ผ่านมา ก็เปลี่ยนแปลงแค่ยึดอำนาจรัฐ จากรัฐบาลชั่วมาไว้ในกำมือพวกตนเท่านั้น แต่ไม่เคยมีการปฏิรูปชาติบ้านเมือง ให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงเลย
ประชาธิปไตยจอมปลอมที่ซื้อเสียงได้นี่แหละ ที่ทำให้ทักษิณและนักการเมืองชั่ว ใช้เงินซื้อเสียงการเลือกตั้งเข้ามายึดอำนาจรัฐโกงกินบ้านเมืองได้อย่างต่อเนื่องยาวนานจนปัจจุบันไงล่ะครับ
นั่นคือ..โรคร้ายที่สุดที่ทำให้คนไทย-ชาติไทย-พระมหากษัตริย์ไทย..ตกอยู่ในวิกฤตไงล่ะครับ!!!
พันธมิตรฯ สู้กับรัฐบาลทักษิณ ทำให้ “พล.อ.บังเละ” กับพวกเป็น “ตาอยู่” ฉวยโอกาสทำรัฐประหารหยุดอำนาจทักษิณลงชั่วคราว
คณะรัฐประหารจะมีความดีอยู่บ้างตรงที่ตั้ง “คตส.” ขึ้นมาตรวจสอบการคอร์รัปชัน โกงกินชาติของทักษิณและพวก แต่ “คตส.” ก็ทำงานกันอย่างโดดเดี่ยว ไร้การสนับสนุนจากรัฐบาลยุคนั้นเท่าที่ควร
อีกทั้งใครบางคนในคณะรัฐประหารและรัฐบาล ยังอ้างความสมานฉันท์แอบเจรจากับทักษิณและพวก มีการตบทรัพย์เข้ากระเป๋าตนเองกันอย่างลับๆ เช่น นายทหารใหญ่บางคนในคณะรัฐประหาร ขอให้ คตส.บางคนช่วยยกทิ้งบางคดีความ นักการเมืองขี้โกงบางคนให้พ้นจากความผิด ฯลฯ
แถมหลังบ้านรัฐบาลตัวเป้งบางคน ก็แอบไปรับเงินทองเพชรนิลจินดา จากตระกูล “เหลี่ยม” ครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วให้สามีที่เป็นใหญ่ช่วยทักษิณและพวก จนคดีความของ คตส.ไม่คืบหน้าเท่าที่ควร
ที่ถูกอกถูกใจทักษิณเป็นที่สุด ก็คือ รัฐบาลของคณะรัฐประหารจัดให้มีการเลือกตั้งเร็วเกินเหตุ ทั้งๆ ที่ไม่มีการปฏิรูประบบการเลือกตั้ง มิให้นักการเมืองชั่วใช้เงินซื้อเสียงแต่ประการใดเลย
นั่นเท่ากับสองพลเอกผู้ทรงอำนาจยุคนั้น ได้ทำให้การต่อสู้กับทักษิณของพันธมิตรฯ รวมทั้งชาติที่ต้องลงทุนแก้ปัญหา วิกฤตการเมืองด้วยการรัฐประหาร โค่นล้มทักษิณเป็นเรื่องไม่คุ้มค่าเท่าที่ควรทันที!
ผลงานห่วยแตกและไร้ความรับผิดชอบ ที่ไม่มีการปฏิรูปใดๆ ให้กับชาติบ้านเมืองของคณะรัฐประหารและรัฐบาลของเขา ทำให้ทักษิณใช้เงินซื้อเสียงการเลือกตั้ง หวนกลับมายึดอำนาจรัฐไว้ในกำมือได้อีกครั้งหนึ่ง..ตามคาด..
หลังรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ขึ้นเถถิงอำนาจ ภายใต้การบงการของทักษิณ ชาติไทยจึงเต็มไปด้วยการโกงกิน และการทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ฯลฯ ชาวพันธมิตรฯ ที่รักชาติ รักสถาบันฯ จึงต้องออกมาสู้แบบยิบตาอีกครั้ง ตามคำประกาศของสนธิลิ้มที่ว่า..เจ๊งเป็นเจ๊ง-ตายเป็นตาย..
ข้างเวทีและหลังเวทีพันธมิตรฯ จึงคลาคล่ำไปด้วยชาว ปชป.มากหน้าหลายตา มีทั้งคุณหญิง-ท่านผู้หญิงบางคน และภรรยานายทหารใหญ่หลายคน ก็โผล่หน้ามา “ตากอากาศบนถนนราชดำเนิน” สลอน..ไปหมด..
บรรยากาศ “กฐินสามัคคี” ห้วงนั้น มักมี “พรายกระซิบ” มาหลายกระแสว่า หากรัฐบาลปราบประชาชนที่มีเพียง 2 มือเปล่า และชุมนุมกันด้วยวิธีสันติอหิงสาเมื่อไหร่ บ้านเมืองจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทันที
แต่แกนนำพันธมิตรฯ มิได้ใส่ใจใน “เสียงพรายกระซิบ” ทุกคนสู้ถวายหัวเพื่อจัดการทักษิณกับพวกและการเมืองที่ดีกว่าเท่านั้น!
ไฟธาตุแห่งความรุนแรงของรัฐบาลสมัครแตกก่อน รัฐบาลได้ออกหมายจับและตามไล่ล่าเอาชีวิตสนธิลิ้มอย่างลับๆ แถมยังใช้คนเสื้อแดงยกขบวนจากสนามหลวง โดยการนำของ “เสธ.เรด” และ “ยี้ห้อย” มุ่งหน้ามาทำร้ายหมายชีวิตพันธมิตรฯ ที่ชุมนุมกันอย่างสงบอยู่ในทำเนียบฯ แต่แผนใช้ความรุนแรงเหล่านั้นไม่สำเร็จ..
แต่แล้วจู่ๆ สมัครก็โดนศาลตัดสินให้มีความผิดในบางคดีความ จนต้องหลุดจากตำแหน่งนายกฯ โดยพลัน ทักษิณจึงดัน “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ขึ้นเป็นนายกฯ หักดิบ “ยี้ห้อย” ที่หนุนสมัครเป็นนายกฯ รอบสอง
เหตุการณ์เกิดขึ้นท่ามกลางพันธมิตรฯ ยังคงยืนหยัดสู้ไม่ถอยอยู่ในทำเนียบฯ เมื่อนายกฯ น้องเขยทักษิณต้องแถลงนโยบาย ก่อนเข้าบริหารชาติอย่างสมบูรณ์แบบ พันธมิตรฯ ที่มีเพียงสองมือเปล่าก็รายล้อมสภาไว้ หากนายกฯ สมชายย้ายที่ประชุมสภา..เหตุร้ายก็จะไม่เกิดขึ้น
แต่ “สมชาย-ทักษิณ” บ้าคลั่งในอำนาจเสียแล้ว จึงสั่งตำรวจให้กระหน่ำยิงพันธมิตรฯ ด้วยแก๊สน้ำตาหมดอายุและอาวุธสงครามอย่างป่าเถื่อน เพื่อเปิดทางให้นายสมชายกับบรรดา ส.ส.แค่ได้แถลงนโยบายกันในสภาเท่านั้น
แถมนายกฯ สมชายแถลงนโยบายรัฐบาลเสร็จสิ้นแล้ว ตำรวจก็ยังคงเข่นฆ่าพันธมิตรฯ ระลอกแล้วระลอกเล่า จากเช้าตรู่จรดพลบค่ำของวันที่ 7 ตุลาคม 2551 จนพันธมิตรฯ บาดเจ็บล้มตายระเนนระนาด โดยรัฐบาลสมชายไม่สั่งให้ยุติหรือห้ามปรามใดๆ เลย
ชีวิตแล้วชีวิตเล่าของพันธมิตรฯ ที่บาดเจ็บล้มตายอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ทำให้ผู้มีอำนาจในชาติไทยคนไหน ออกมาจัดการกับรัฐบาลชั่วช้าสามานย์ของทักษิณเลย โดยเฉพาะนายทหารใหญ่บางคน ยังไปยืนเคียงข้างรัฐบาลชั่ว ยืนดูประชาชนถูกเข่นฆ่าอย่างเลือดเย็นอีกด้วย!
ห้วงนั้นมีคำถามมากมายในใจประชาชนว่า รัฐบาลโจรทำลายชาติ ทำลายพระมหากษัตริย์ผู้เป็นจอมทัพของทหาร ทหารยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน แต่ประชาชนทนไม่ไหว จึงออกมาต่อสู้ปกป้องชาติและราชบัลลังก์ โอ..ประชาชนจะต้องตายมากมายแค่ไหน..จึงจะหนำใจทหารหาญของชาติ ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการปกป้องชาติและราชบัลลังก์ ฤาทหารวันนั้นและวันนี้เปลี่ยนไป โดยทหารบางคนถือว่า “จอมทัพ” ด้อยค่ากว่าเงิน-ตำแหน่งที่ “ทักษิณ” ปรนเปรอให้?
ที่สำคัญ..การเปลี่ยนแปลงโดยทหารที่ผ่านมา ก็เปลี่ยนแปลงแค่ยึดอำนาจรัฐ จากรัฐบาลชั่วมาไว้ในกำมือพวกตนเท่านั้น แต่ไม่เคยมีการปฏิรูปชาติบ้านเมือง ให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงเลย
ประชาธิปไตยจอมปลอมที่ซื้อเสียงได้นี่แหละ ที่ทำให้ทักษิณและนักการเมืองชั่ว ใช้เงินซื้อเสียงการเลือกตั้งเข้ามายึดอำนาจรัฐโกงกินบ้านเมืองได้อย่างต่อเนื่องยาวนานจนปัจจุบันไงล่ะครับ
นั่นคือ..โรคร้ายที่สุดที่ทำให้คนไทย-ชาติไทย-พระมหากษัตริย์ไทย..ตกอยู่ในวิกฤตไงล่ะครับ!!!