xs
xsm
sm
md
lg

“เหลี่ยม” โมฆบุรุษที่ชอบใช้ความรุนแรง!

เผยแพร่:   โดย: ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

อืม..กมลสันดานชอบใช้ความรุนแรงของ “เหลี่ยม” ไม่เคยเปลี่ยนแปลง!

2546 รัฐบาล “เหลี่ยม” อ้างนโยบายปราบยาเสพติด ใช้ความรุนแรงแบบ “ศาลเตี้ย” ตัดตอนกระบวนการยุติธรรม ทำให้ผู้เสียชีวิตไม่มีโอกาสพิสูจน์ความถูกผิดในศาล อีกทั้งยังเป็นการตัดตอนไปยังผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่อีกด้วย

ผู้บริสุทธิ์จำนวนไม่น้อยที่ไม่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด พลอยถูกฆ่าตายไปพร้อมกับผู้ค้ายาเสพติดทั่วประเทศกว่า 2,000 คน!

25 ตุลาคม 2547 รัฐบาล “เหลี่ยม” ได้ใช้ความรุนแรง เข่นฆ่าการชุมนุมอย่างสงบสันติของชาวไทยมุสลิม ที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เสียชีวิตอีก 85 คน!!

7 ตุลาคม 2551 รัฐบาลนอมินี “เหลี่ยม” สั่งการตำรวจให้ใช้อาวุธสงครามนานาชนิดฆ่าคนไทยกลางเมืองหลวง จนตาย-พิการ-บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก!!!

เหตุการณ์ครั้งนั้น นอกจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนได้ระบุว่า รัฐบาลขณะนั้นและตำรวจได้กระทำการเกินกว่าเหตุไปแล้ว ต่อมาเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2552 ป.ป.ช.ก็มีมติชี้มูลความผิดนักการเมืองและนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง ในเหตุการณ์สลายผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ตามข้อกล่าวหาดังนี้

1. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี มีความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งเรียกประชุม ครม.นัดพิเศษในคืนวันที่ 6 ตุลาคม 2551 โดยมอบหมายให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นผู้สั่งการ และเปิดทางให้ ส.ส.และ ส.ว.เข้าสู่รัฐสภา ซึ่งที่ประชุม ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด 8 ต่อ 1

2. พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี มีความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา157 ฐานเป็นผู้รับผิดชอบเหตุการณ์ และสั่งการให้ตำรวจผลักดันผู้ชุมนุม โดยใช้แก๊สน้ำตา ซึ่งที่ประชุม ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด 6 ต่อ 3

3. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ในฐานะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งรับผิดชอบตามอำนาจหน้าที่ เมื่อเกิดเหตุรุนแรงจนถึงขั้นผู้ชุมนุมบาดเจ็บสาหัส ถึงขนาดขาขาดแขนขาดก็ต้องยับยั้งมิให้เหตุการณ์ลุกลามต่อไป และมีการให้การจากพยานว่า เป็นผู้สั่งการสลายการชุมนุม จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และมีความผิดวินัยร้ายแรง ซึ่งที่ประชุม ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด 8 ต่อ 1

4. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น.ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ และเป็นเจ้าของพื้นที่ มีความผิดวินัยร้ายแรงและอาญาเช่นกัน โดยที่ประชุม ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด 8 ต่อ 1

ป.ป.ช.ยังได้ส่งรายงาน เอกสาร ความเห็นไปให้ผู้บังคับบัญชา เพื่อพิจารณาโทษทางวินัย พล.ต.อ.พัชรวาทและพล.ต.ท.สุชาติ และส่งให้อัยการสูงสุดดำเนินการฟ้องคดี นายสมชาย-พล.อ.ชวลิต-พล.ต.อ.พัชรวาทและพล.ต.ท.สุชาติ ไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ อีกด้วย

ทว่าเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2551 ได้ผ่านไปกว่า 4 ปี ทั้ง สนง.ตำรวจแห่งชาติและสนง.อัยการสูงสุด ก็มิได้ดำเนินการใดๆ อย่างจริงจังต่อคดีนี้เลย!

ขณะที่ศาลปกครองกลางได้พิพากษาคดีนายชิงชัย อุดมเจริญกิจ กับพวกรวม 250 คน ฟ้องสนง.ตำรวจแห่งชาติและสำนักนายกรัฐมนตรี ที่สลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา..สรุปว่า..

การสลายการชุมนุมฯ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 นั้น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ได้กระทำการผิดกฎหมายและละเมิดต่อผู้ชุมนุม ดังนั้น ผู้ถูกฟ้องทั้งสอง คือ สนง.ตำรวจแห่งชาติและสำนักนายกรัฐมนตรี จึงต้องร่วมกันชดใช้ค่าเสีย

หายให้กับผู้ฟ้องคดีทั้งหมด!

เรียกว่า..เมื่อ “เหลี่ยม” เป็นนายกฯ ก็ชอบใช้ความรุนแรง-ฆ่าคน ยาม “เหลี่ยม” กับพวกเป็นฝ่ายค้าน ก็ใช้ความรุนแรงเผาบ้านเผาเมือง และก่อการร้ายฆ่าทหารและประชาชนอีก

ขณะนี้... “เหลี่ยม” มีรัฐบาลนอมินีของตนอีกครั้ง แต่โมฆบุรุษอย่าง “เหลี่ยม” ก็ยังนิยมใช้ความรุนแรง ทำร้ายชาติและประชาชนเหมือนเดิม..!
กำลังโหลดความคิดเห็น