อัยการสั่งไม่ฟ้อง “สมชาย-ชวลิต-พัชรวาท-สุชาติ” คดีสลายการชุมนุมพันธมิตรฯ ตีกลับ “ป.ป.ช.” ระบุพยานหลักฐานไม่เพียงพอเอาผิด อยากฟ้องให้ฟ้องเอง
นายวินัย ดำรงค์มงคลกุล โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กรณีที่ทางอัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ชี้มูลความผิดคดีการสลายผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2551 ชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ต่อนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้สั่งการให้สลายการชุมนุม รวมทั้งชี้มูลความผิดทางอาญา และวินัยร้ายแรงในฐานความผิดเดียวกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาตำรวจนครบาล ว่าหลังจากที่มีการตั้งคณะกรรมการร่วมกันระหว่าง ป.ป.ช.และอัยการสูงสุดแล้วพบว่า คดีนี้ไม่มีพยานและหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดผู้ถูกฟ้อง จึงได้มีมติส่งเรื่องกลับไปยัง ป.ป.ช.ซึ่งคำสั่งดังกล่าวได้ออกมาเป็นระยะเวลานานพอสมควรแล้ว
“ทางอัยการพิจารณาว่าคดีนี้ไม่มีพยานหลักฐานจะเอาผิดได้ จึงส่งกลับไปยัง ป.ป.ช. ขั้นตอนคดีสิ้นสุดแค่ตรงนี้ ส่วนที่เหลือขึ้นอยู่กับ ป.ป.ช.ว่าจะยื่นฟ้องคดีเองหรือไม่” นายวินัยกล่าว
รายงานข่าวจาก ป.ป.ช.แจ้งว่า ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เตรียมฟ้องบุคคลที่เกี่ยวข้องในความผิดคดีการสลายผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2551 ความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ประกอบไปด้วย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้สั่งการให้สลายการชุมนุม รวมทั้งชี้มูลความผิดทางอาญา และวินัยร้ายแรงในฐานความผิดเดียวกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาตำรวจนครบาลแล้ว