xs
xsm
sm
md
lg

น้องสาว, พี่ชาย และมวลชนคนเสื้อแดง!

เผยแพร่:   โดย: คำนูณ สิทธิสมาน

เมื่อวันพุธที่แล้ว วันที่ 12 เดือน 12 ปี (20)12 เวลา 12.12 น. ผมอยู่ที่เมืองเชียงรุ้ง จังหวัด 12 ปันนา สาธารณรัฐประชาชนจีน กับพี่ๆ และเพื่อน ส.ว.รวม 12 คน

ออกเดินทางมาที่สิบสองปันนาครั้งนี้ก่อนหน้านั้น 1 วันโดยเส้นทางรถยนต์สาย R 3 A ทำให้เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว 11 ธันวาคม 2555 ได้กินข้าว 3 มื้อใน 3 ประเทศ ข้าวต้มมื้อเช้าที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ราชอาณาจักรไทย, ข้าวกลางวันที่เมืองหลวงน้ำทา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และมื้อค่ำในโรงแรมที่พักเมืองเชียงรุ้ง จังหวัดสิบสองปันนา สาธารณรัฐประชาชนจีน เห็นความเปลี่ยนแปลงบนเส้นทางสาย R 3 A ที่ผมเคยมาครั้งแรกตั้งแต่เมื่อปี 2538 แล้วก็ชวนให้คิดอะไรได้หลายอย่างหลายแง่มุม

เข้าใจยิ่งลักษณ์ ชินวัตรและรัฐบาลของเธอว่าทำไมอยากอยู่เป็นรัฐบาลต่อไปเรื่อยๆ จนครบสมัยเป็นอย่างน้อย เพื่อจะได้ชนะเลือกตั้งเข้ามาจัดตั้งรัฐบาลต่ออีกสมัย และอีกหลายสมัย

เพราะเธอเชื่อแนวคิดทางยุทธศาสตร์ในการลงทุนภาครัฐที่ยังรออยู่อีก 2 ยอดในปี 2556 และต่อไปอีก 7 ปีงบประมาณ คือยอด 350,000 ล้านบาท และ 2,270,000 ล้านบาท

เวลาอยู่นอกประเทศแล้วมองกลับเข้าไปภายในประเทศ บางทีเราจะได้มุมมองที่แตกต่างออกไป

ผมเชื่อว่าเธอไม่อยากเร่งเดินหน้ามติร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมวาระ 3 ที่ค้างอยู่หรอก

เพราะไม่ต้องการเสี่ยง!

เข้าใจได้ไม่ยากว่าทำไมเธอต้องป่วย หรือต้องพักผ่อนจนไม่สามารถไปร่วมถวายพานพุ่มอนุสาวรีย์ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 7 ที่รัฐสภาเมื่อวันรัฐธรรมนูญวันที่ 10 ธันวาคม 2555 เพราะเธอรู้ดีว่าวันนั้นเป็น day 1 ของกระบวนการเดินหน้าลงมติวาระ 3 ที่คณะกรรมการพรรคร่วมรัฐบาลนำโดยนายโภคิน พลกุล และกลุ่มอดีตบ้านเลขที่ 111 ใช้เป็นฤกษ์ “คิกออฟแคมเปญ” เดินหน้าลงมติวาระ 3

แน่นอนเธอไม่ต้องการมีส่วนร่วม แต่จะเพียงเพราะต้องการลอยตัวอยู่เหนือปัญหาเท่านั้นหรือ?

การประกาศของดภารกิจล่วงหน้าสองสามวัน แต่ยังออกจากบ้านไปปฏิบัติภารกิจอื่นให้เป็นที่นินทาได้ แสดงว่าเธอต้องการแสดงให้ใครเห็นหรือเปล่าว่าเธอไม่พอใจการข่มเขาโคขืนให้กลืนหญ้าในประเด็นผลักดันเดินหน้าลงมติวาระ 3 ใครที่ว่านี้ไม่ใช่คุณผู้อ่านที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ใครที่ว่านี้ไม่ใช่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาล และใครที่ว่านี้ก็ไม่น่าจะใช่แค่นายโภคิน พลกุล นายวราเทพ รัตนากร และกลุ่มอดีต 111 ส่วนที่เห็นด้วยกับการเดินหน้าลงมติวาระ 3 เท่านั้น

แต่ใครที่ว่านี้อาจจะรวมถึงพี่ชายของเธอด้วย!??

จากภาพที่เห็น ดูเหมือนพี่ชายของเธอจะเป็นคนแรกที่ประกาศที่ฮ่องกงในวันที่ 11 ธันวาคม 2555 ว่าเห็นควรให้มีการลงประชามติก่อนเดินหน้าลงมติวาระ 3 จากนั้นเธอจึงประกาศตามออกมาในแนวเดียวกันในเวลาหลังจากนั้นไม่นาน จากนั้นจึงเป็นนายโภคิน พลกุลที่กล้อมแกล้มประกาศหลัก 5 ประการตามออกมา ก่อนที่พรรคเพื่อไทยจะมีมติตามออกมาในวันที่ 13 ธันาคม 2555 ตามด้วยพรรคร่วมรัฐบาลประชุมมีมติตามในอีกวันหนึ่งถัดมา

จากภาพที่เห็น ดูเหมือนจะเป็น “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” อีกแล้ว!

แต่จากมุมมองของผมที่อยู่นอกประเทศ งานนี้เป็นไปได้อีกครั้งไหมว่า “ยิ่งลักษณ์คิด ทักษิณพูด เพื่อไทยทำ?”

พี่ชายแม้อยากกลับบ้าน แม้อยากเดินหน้าลุยล้างผิดล้างโทษตัวเองให้เบ็ดเสร็จ แต่เห็นน้องสาวให้คนในก๊วนอำนาจใหม่ออกมาประกาศพักผ่อนล่วงหน้าให้เห็นแล้ว ก็ต้องฉุกคิดด้วยปัญญาละน่าว่า หากยังเอาแต่ใจตัวเห็นน้องสาวเป็นเพียงหุ่น ไม่มีสมองคิดได้เองอย่างนี้ ดีไม่ดีน้องสาวประกาศพักผ่อนยาวขึ้นมา ไม่ขอเป็นหุ่นให้เชิดโดยไม่ฟังอีกต่อไป มันจะเรือหายทั้งขบวน

ใครๆ ก็รู้ว่าเดินหน้าวาระ 3 ยุ่งแน่

แต่ใครจะรู้ซึ้งเท่าน้องสาวว่ายุ่งในขณะที่เธอเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ในประเทศ มันไม่เหมือนยุ่งแบบบงการโดยไม่มีตำแหน่งเป็นทางการอยู่นอกประเทศ ไหนจะเสี่ยงต่อการเข้าสู่พื้นที่ killing zone ดังที่ผมเล่าไว้เมื่อสัปดาห์ก่อน ไหนจะเสี่ยงต่อการรับมือการชุมนุมใหญ่ เกิดมีคนเจ็บคนตายขึ้นมา ระยะยาวอาจเป็นผลดี แต่ระยะสั้นอาจไม่มีแผ่นดินอยู่เหมือนพี่ชายอีกคน

รัฐธรรมนูญ 2550 ไม่ได้แก้ไขแบบยกฉบับง่ายๆ หรอก

มวลชนเสื้อแดงจะคิดเห็นอย่างไรต่อหน้ามุมมองของพี่ชายกับน้องสาวที่เหลื่อมกันเช่นนี้ ผมไม่ทราบ ในเมื่อผลออกมากลายเป็นว่ารัฐบาลที่ชนะเลือกตั้งท่วมท้นท่ามกลางความยากลำบากของพี่น้องเสื้อแดงทั้งแผ่นดินยังคงไม่เดินหน้าอีกคำรบหนึ่งแล้ว??
กำลังโหลดความคิดเห็น