นายกฯ ยิ่งลักษณ์เก็บตัวเงียบอยู่ในบ้าน ส่ง “สุรพงษ์” นำ ครม.ถวายบังคม ร.7 เนื่องในวันรัฐธรรมนูญแทน ด้านประธานสภาฯ เผยยังไม่สรุปโหวตชำเรารัฐธรรมนูญวาระ 3 บอกต้องรอคณะทำงานพรรคร่วมสรุปเสนอมาก่อน ส่วน “เจริญ” ชี้ถ้าคนในสังคมเห็นตรงข้ามคงสำเร็จยาก ต้องเริ่มแก้ที่ตัวบุคคลก่อน
วันนี้ (10 ธ.ค.) มีรายงานความเคลื่อนไหวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบว่าในวันนี้ได้ใช้เวลาพักผ่อนกับครอบครัวอยู่ภายในบ้านพักในซอยโยธินพัฒนา 3 ถนนประดิษฐ์มนูธรรม โดยได้มอบหมายให้นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ เดินทางมายังอาคารรัฐสภา เพื่อนำคณะรัฐมนตรีวางพานพุ่มดอกไม้ถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เนื่องในวันพระราชพิธีฉลองวันพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เมื่อเวลา 13.15 น. แทน ขณะที่บรรยากาศที่บ้านพักเป็นไปด้วยความเงียบเหงา อย่างไรก็ตามยังคงมีสื่อมวลชนบางสำนักที่เฝ้าติดตามภารกิจนายกรัฐมนตรีตามปกติ
อีกด้านหนึ่งที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการให้ความสำคัญกับรัฐธรรมนูญเนื่องในวันรัฐธรรมนูญว่า วันรัฐธรรมนูญเป็นวันที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นประชาธิปไตย ซึ่งหมายถึงว่าประเทศไทยจะเป็นประชาธิปไตยได้ต้องมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยด้วย เพราะรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายแม่บทในการปกครองประเทศ
คลิกที่นี่สัมภาษณ์ "นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์"
ส่วนที่มีความพยายามให้เดินหน้าโหวตแก้รัฐธรรมนูญวาระ 3 นั้น นายสมศักดิ์กล่าวว่า โดยความเห็นส่วนตัวมองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องทำอยู่แล้ว แต่จะแก้อย่างไรเท่านั้นเอง ซึ่งรายละเอียดของหลักการยังไม่ได้ข้อสรุป เมื่อถามว่าการเดินหน้าโหวตวาระ 3 เพื่อให้มีการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. ถือเป็นแนวทางที่เหมาะสมหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องของคณะทำงานที่พรรคร่วมตั้งขึ้นมาพิจารณาร่วมกัน ซึ่งต้องสรุปมาและเสนอให้แต่ละพรรคการเมืองที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลได้พิจารณาร่วมกัน เพื่อให้ได้ข้อสรุป
เมื่อถามว่าส่วนตัวคิดว่าแนวทางให้ตั้ง ส.ส.ร.ถือเป็นแนวทางที่ดีที่สุดหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ตนยังไม่อยากก้าวล่วงตรงนั้น ขอให้คณะทำงานได้พิจารณาก่อนดีกว่าเพื่อให้ได้ข้อสรุป “แต่ถ้าให้ผมแสดงความเห็นส่วนตัวก็ขออนุญาตให้เพียงสั้นๆ ว่ามีถนนคอนกรีตให้เดิน ทำไมต้องไปเลือกถนนลูกรัง”
ด้านนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาลว่า ตราบใดที่ทัศนคติของคนในสังคมยังมีความเห็นไปในทิศทางตรงกันข้าม การเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญคงสำเร็จได้ยาก ดังนั้นต้องเริ่มแก้ที่ตัวบุคคลก่อน
