xs
xsm
sm
md
lg

“แม้ว”กล่อมส.ส.แดง-ทำประชามติ-ล่อเป้าม.309

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- “แม้ว”กล่อมส.ส.เสื้อแดง! ลดห้าว ยอมตามเกมนายใหญ่ หลังบินไปให้เคาะกระบาลถึงฮ่องกง ยอมถอยเปิดสภาโหวตวาระ 3 ทันที ด้าน“เพื่อไทย” รับลูก เล็งแก้มาตรา 165 ลดจำนวนเสียงประชามติ กรุยทางสู่การโหวต วาระ3 แย้มพรรคร่วมหนุนครม. ชงปู1-2สัปดาห์นี้ โหวตวาระ3ไม่ช้า ปูดรายงานพรรคร่วมฯ มุ่งล่อเป้า ม.309 ประกาศ คมช.

วานนี้(13 ธ.ค.55) นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวภายหลังเดินทางร่วมกับส.ส.พรรค เพื่อไทย และคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งไปเยี่ยมเยียนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ฮ่องกง เมื้อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า ได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กรณีฝ่ายค้านพยายามออกมาบอกว่าเป็นการแก้เพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ไปจนถึงเรื่องการเตรียมออกกฎหมายนิรโทษกรรม

พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่า การแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้ประเทศมีรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชน ไม่ได้แก้เพื่อรังแกใครหรือทำเพื่อตัวเอง เพื่อให้ประเทศสงบ ไม่ให้ดำรงความขัดแย้งต่อไป คดีทุกคดีหากดำเนินการไปตามหลักนิติรัฐ นิติธรรมสากล รับได้หมด แต่คดีที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นอย่างนั้น ยังคิดถึงคนไทย คิดถึงประเทศ อยากกลับบ้าน ก็เป็นเหมือนคนไทยทุกคนที่ไปต่างประเทศมานานก็คิดถึงกับข้าว ผืนแผ่นดินไทย อยากกลับบ้าน ทุกเดือนจะเดินทางมายังประเทศเพื่อนบ้านไม่ว่าจะเป็นพม่า กัมพูชา ลาว เพื่อให้พี่น้องที่คิดถึงไปเยี่ยม

“รัฐธรรมนูญยังไงต้องแก้ ไม่แก้บ้านเมืองก็มีแต่ความขัดแย้ง ประเทศสงบได้ต้องมีรัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตย เมื่อวาระ3มีปัญหา ก็ให้ทำประชามติก่อน”นายวรชัย อ้างถึงคำพูดพ.ต.ท.ทักษิณ

ส่วนที่ก่อนหน้าส.ส.และแกนนำเสื้อแดง เรียกร้องว่าเมื่อเปิดสภาฯให้โหวตวาระ3ทันที นายวรชัยกล่าวว่า เป็นความเห็นแต่แรก ถึงอย่างไรก็ต้องโหวตวาระ3 แต่เมื่อมีประเด็นที่จะขัดแย้ง ความคิดเห็นในพรรคก็คิดต่างกันไป ไม่อยากให้เรื่องขยายออกไป อีกด้านหนึ่งเราก็ทำประชาสังคมสอบถามความเห็นพี่น้องประชาชนไปด้วย เมื่อถึงทางตัน ก็ต้องไปใช้ทางอีกด้าน ความเห็นนปช.ยังต้องการให้โหวตวาระ3 แต่ในพรรคเมื่อมีความเห็นหลากหลาย ท่านทักษิณจึงให้ไปทำประชามติก่อน จากนี้คงต้องมาคุยกันว่าจะเอาอย่างไร

ดังนั้นเราต้องไปทำความเข้าใจกับประชาชน ยังบอกกับพ.ต.ท.ทักษิณ ถ้าทำอย่างนี้เราก็ต้องไปชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจด้วย ไม่อย่างนั้นก็ขัดแย้ง ขณะที่เสียงที่จะใช้โหวตคือเสียงส.ส.เพื่อไทย ร่วมกับ สว. ต้องเกิน 325 เสียง ประชาชนก็ต้องรับฟังความคิดเห็น ก็ต้องพึ่งทุกด้าน บางทีถ้าต้องถอย เพื่อเดินไปข้างหน้าหลายก้าวก็ต้องทำ

“จากการพูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ยังบอกว่า กฎหมายปรองดองให้ชะลอไปก่อน แม้พรบ.ปรองดองจะออกมา ก็มีแต่จะมีความขัดแย้งมากขึ้นเป็นเงื่อนไขทำให้ประเทศไม่สงบ แม้จะต้องยึดเสียงส่วนมาก แต่เสียงส่วนน้อยที่ไม่เห็นด้วยก็ต้องรับฟัง เรื่องความรู้สึกท่านบอกไม่ได้คิดถึงเรื่องส่วนตัว คิดถึงเรื่องประเทศชาติอย่างเดียว”

วันเดียวกันที่พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 11.00 น. มีการประชุมแกนนำ และ ส.ส. ของพรรค เพื่อกำหนดท่าทีต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ภายหลังจากที่คณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ส่งรายงานเรื่องแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ให้พรรคร่วมรัฐบาลรับทราบ

ทั้งนี้ก่อนการประชุม นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะทำงาน กล่าวว่า ในวันที่ 14 ธ.ค. พรรคร่วมรัฐบาลจะนัดหารือกันในช่วง 12.00 น.ที่โรงแรมเอสซีปาร์ค เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญร่วมกัน ซึ่งขณะนี้แต่ละพรรคนำไปศึกษาแล้ว จากการพูดคุยเบื้องต้นพบว่า แต่ละพรรคมีความเห็นสอดคล้องกับมติครม.ที่จะให้มีการทำประชามติก่อนลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 คาดว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์จะสามารถนำเรื่องเข้าครม. เพื่อขอทำประชามติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้

“การทำประชามติก่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการดำเนินการเพื่อให้เกิดความรอบคอบมากที่สุด ไม่ได้ทำให้การลงมติแก้ไขมาตรา 291 ที่ค้างอยู่ในวาระ 3 ต้องล่าช้าออกไป และไม่ขัดต่อเจตนารมณ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ที่ต้องการให้ไปรณรงค์ทำความเข้าใจเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน คาดว่า จะสามารถลงมติโหวตวาระ 3 ได้ในช่วงปลายสมัยประชุมสภานิติบัญญัติ”นายวราเทพกล่าว

ขณะที่นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ขั้นตอนการทำประชามติคือ ครม.ต้องประชุมมีมติเห็นชอบให้ทำประชามติ จากนั้นจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ดำเนินการจัดทำประชามติในทันที ขั้นตอนดังกล่าวจะใช้เวลาประมาณ 90 วัน ดังนั้นจึงน่าเสร็จทันภายในการประชุมสภาสมัยสามัญนิติบัญญัติ ที่กำลังจะเปิดประชุมในวันที่ 21 ธ.ค.

นายอุดมเดช กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุมเห็นด้วยกับรายงานที่คณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลฯเสนอ โดยเฉพาะประเด็นการจัดทำประชามติลงมติวาระ 3 แต่ต้องรอการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลอีกครั้ง ในวันที่ 14 ธ.ค.เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญร่วมกันต่อไป การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ต้องอยู่บนพื้นฐานของการลดความขัดแย้งในสังคมให้มากที่สุด และต้องชี้ให้ประชาชนเห็นความจำเป็นที่จะแก้รัฐธรรมนูญปี 50 ที่มาจากการรัฐประหาร

ด้านนายพีรพันธ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย และคณะทำงาน กล่าวว่า เชื่อว่า รัฐบาลจะเลือกแนวทางการทำประชามติก่อนโหวตวาระ 3 แน่นอน อย่างไรก็ตามเรื่องการทำประชามติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 165 ระบุว่า จะต้องได้คะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนทั่วประเทศ ขณะนี้ผู้มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนทั่วประเทศมี 46 ล้านคน ดังนั้นจะต้องได้คะแนนเสียงมากกว่า 23 ล้านเสียงขึ้นไป ถือว่าต้องใช้คะแนนเสียงสูงมาก จึงอาจจะเสนอแก้ไขมาตรา 165 เพื่อแก้ไขจำนวนเสียงที่ใช้ในการทำประชามติ หรืออาจจะเสนอออกเป็นพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฉบับใหม่คือกฎหมายว่าด้วยการออกเสียงประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยกำหนดให้ใช้เสียงข้างมากของผู้ออกมาใช้สิทธิเป็นเกณฑ์ตัดสินตามหลักการทั่วไป แต่จะเลือกแนวทางใด ต้องหารืออีกครั้งในพรรคร่วมรัฐบาล

ขณะที่นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นตรงกันว่า ควรทำประชามติก่อนโหวตวาระ 3 เพื่อตัดปัญหาเรื่องการเสี่ยงผิดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะศาลรัฐธรรมนูญเสนอให้ทำประชามติก่อนแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนจะมีการโหวตวาระ 3 ได้ช่วงใดที่ประชุมยังไม่มีการหารือกัน.

ที่พรรคชาติพัฒนา นายประเสริฐ บุญชัยสุข ว่าที่เลขาธิการพรรคชาติพัฒนา กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของคณะทำงานร่วมรัฐบาลที่เสนอให้มีการออกเสียงประชามติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 165 ก่อนที่รัฐสภาจะมีการลงมติวาระที่สาม ซึ่งจะสอดคล้องกับคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญ อันเป็นการป้องกันมิให้เกิดข้อโต้แย้งคัดค้านและเพื่อให้เกิดการยอมรับจากรปะชาชนทุกภาคส่วน"นายประเสริฐ และว่าเชื่อว่าสามารถทำได้ตาม พ.ร.บ.ประรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2552 โดยไม่จำเป็นต้องมีการยกร่างกฎหมายหรือแก้ไขตัวรัฐธรรมนูญจากนั้นก็จะใช้การรณรงค์ให้ทั่วทุกภูมิภาคมากที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงเนื้อหาของรายงานที่คณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อพิจารณาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ซึ่งได้จัดทำรูปเล่มและส่งให้แก่พรรคร่วมรัฐบาลแล้ว โดยมีการแบ่งประเด็นพิจารณา ใน 3 ประเด็น ได้แก่ 1.ปัญหาสำคัญโดยรวมของรัฐธรรมนูญ 2550 2.สาระสำคัญและความเห็นคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาล ต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และ 3.การดำเนินการลงมติของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ในวาระที่สาม โดยส่วนใหญ่ระบุว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเป็นต้นเหตุของการเกิดความขัดแย้ง เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันไม่ได้ยึดมั่นในวิถีรัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตย เนื่องจากมีที่จากการรัฐประหาร โดยเฉพาะการบัญญัติให้มีรัฐธรรมนูญ มาตรา 309 เพื่อนิรโทษกรรมให้กับคณะรัฐประหารไว้ในรัฐธรรมนูญ
กำลังโหลดความคิดเห็น