xs
xsm
sm
md
lg

รัฐธรรมนูญผิดหรือคนผิด? นองเลือดแน่ถ้าแก้เพื่อทักษิณ

เผยแพร่:   โดย: วิทยา วชิระอังกูร


วาทกรรมที่นักวิชาการส่วนหนึ่ง พยายามจะหยิบยกมากล่าวอ้าง หมายให้ฟังดูดีว่า “เราควรจะก้าวข้ามให้พ้นทักษิณ ชินวัตร” ได้แล้ว หรือประเทศไทยหยุดอยู่ที่สถานีทักษิณ ชินวัตร นานเกินไปแล้ว” ผมได้ยินได้ฟังทีไร ก็ให้เกิดอารมณ์บ่จอยและถึงขั้นคลื่นเหียนแทบอาเจียนทุกทีไป เพราะที่เห็นที่เป็นอยู่ มันปรากฏชัดแจ้งต่อท่านผู้ชมมิใช่หรือว่า ประเทศนี้ยังตกอยู่ภายใต้อิทธิพลการครอบงำของทักษิณ ชินวัตร อย่างดิ้นไม่หลุดมาโดยตลอด โดยเฉพาะในยุคที่มีน้องเลิฟโคลนนิ่งอย่าง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ในขณะนี้ ประเทศไทยได้ตกอยู่ในอุ้งมืออุ้งตีนของทักษิณ ชินวัตร อย่างเต็มมือเต็มตีนโดยดุษณีภาพแล้ว หรือมิใช่ ?

และยิ่งวาทกรรมของฝ่ายทหารของชาติที่ว่า “การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง อย่าให้ทหารไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง” “ทุกอย่างมีกฎมีเกณฑ์ ทหารต้องทำตามกฎหมาย” หรือ “ทหารต้องทำตามรัฐบาลสั่งเท่านั้น” ซึ่งฟังแล้วก็แปลความได้ว่า ร่มเงาของทักษิณ ชินวัตร ได้แผ่สยายปกคลุมกองทัพไปแล้วกว่าครึ่งจริงๆ หลังจากครอบครองกองกำลังตำรวจและข้าราชการพลเรือนฝ่ายปกครองได้อย่างหมดสิ้นแล้ว ม็อบเสธ.อ้ายที่ทำท่าดูดีมีราคาจึงตกม้าตายตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าซองสตาร์ท เพราะกองกำลังตำรวจที่แข็งกร้าว การกีดกันขวางกั้นของฝ่ายปกครองอย่างแข็งขัน และการเมินเฉยของฝ่ายทหารอย่างไม่ไยดี

การได้ครอบครองอำนาจรัฐโดยนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดของทักษิณเป็นคำรบที่สามในครั้งนี้ บทเรียนข้อผิดพลาดจากรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช และสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้ถูกนำมากำจัดจุดอ่อนและเพิ่มจุดแข็งให้แก่ขบวนการระบอบทักษิณมากยิ่งขึ้น จนทำอะไรได้ตามอำเภอใจสะดวกสบายมือขึ้น ดังล่าสุดเมื่อไม่กี่วันมานี้ ถึงกับเหิมเกริมให้สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ถ่ายทอดสดภาพและเสียงทักษิณ ชินวัตร จากมาเก๊าออกอากาศทั่วประเทศไทย กล่าวแก้ตัวในการกระทำผิดของตน ซึ่งก็เท่ากับด่ากระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ว่าไม่ยุติธรรมนั่นเองนักโทษหนีคดีสามารถปราศรัยออกอากาศผ่านสถานีโทรทัศน์ของกรมประชาสัมพันธ์ ที่เป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลและโจมตีกระบวนการยุติธรรมของรัฐได้ ช่างเป็นเรื่องอัศจรรย์เหลือเชื่อ และเกินกว่าคนไทยจะรับไหวจริงๆ

และที่น่าสลดหดหู่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ สื่อมวลชนในประเทศนี้ได้ถูกอำนาจเงินของทักษิณ ชินวัตรกลืนกินมากไปกว่าครึ่งแล้ว ไม่ว่าจะสื่อโทรทัศน์ หรือหนังสือพิมพ์ โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่อย่างมติชน และข่าวสด ที่เคยเป็นความหวังของมวลชน ว่าเป็นสื่อคุณภาพ บัดนี้ได้กลายเป็นหนังสือพิมพ์สีแดงที่เชียร์ทักษิณ และใส่สีตีไข่ให้ร้ายฝ่ายตรงกันข้ามกับทักษิณอย่างไม่ลืมหูลืมตา มิหนำซ้ำยังร่วมหัวจมท้ายกับคนเสื้อแดง เสียดสีสถาบันอย่างโจ่งแจ้ง ทั้งรายสัปดาห์และรายวัน ไม่เว้นแม้แต่บทอาเศียรวาท 5 ธันวาคม ที่ผ่านมา ที่เหมือนจะประกาศตัวว่าเป็นฝ่ายทักษิณและคนเสื้อแดงอย่างเต็มตัว ไม่ลับๆ ล่อๆ อีกต่อไป

อำนาจในมือที่ดูเหมือนจะเริ่มเบ็ดเสร็จเด็ดขาด คงทำให้ทักษิณ ชินวัตร และพวกเกิดอาการย่ามใจ และคิดแผนการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับอีกครั้งหนึ่ง ทั้งๆ ที่รู้ว่า จะเกิดการต่อต้านจากภาคประชาชนอย่างแน่นอน แต่ความเกรงกลัวม็อบเริ่มลดน้อยถอยลง และไม่อยู่ในสายตาแล้ว หลังจากควบคุมและกำราบม็อบเสธ.อ้ายได้อย่างง่ายดาย

โดยความเป็นจริง  ไม่มีใครปฏิเสธว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญต้องห้ามแก้ไขไม่ได้ เพียงแต่การแก้ไขนั้นต้องมีเหตุผลรองรับเพียงพอ และแก้เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง แต่เท่าที่สดับตรับฟังมา เหตุผลของฝ่ายทักษิณ ที่คิดจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีเพียงข้ออ้างว่า รัฐธรรมนูญ ปี 2550 เกิดจากการรัฐประหาร โดยเปรียบเปรยว่าเป็นผลไม้พิษเพราะเกิดจากต้นไม้ที่เป็นพิษ ซึ่งฟังไม่ขึ้น เพราะรัฐธรรมนูญหลายต่อหลายฉบับก็ล้วนร่างขึ้นภายหลังการรัฐประหารทั้งสิ้น และโดยเนื้อหาของรัฐธรรมนูญปี 2550 ก็ใช้แก่นแกนของรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่ฝ่ายทักษิณเทิดทูนบูชา อยากนำกลับมาใช้อีก ทั้งที่ข้อเท็จจริง ทักษิณต่างหากที่ใช้อำนาจทางการเมืองฉ้อฉลทำลายหลักการดีๆ ของรัฐธรรมนูญ ปี 2540 จนเสียดุลเสียศูนย์ไปหมด เพราะหลักการของรัฐธรรมนูญปี 2540 คือการทำให้อำนาจทางการเมืองเข้มแข็ง แต่ก็ให้ถ่วงดุลด้วยการตรวจสอบอย่างเข้มงวดขึ้น แต่ทักษิณได้อำนาจรัฐที่เข้มแข็งแล้วกลับไม่ยอมให้มีการตรวจสอบ โดยใช้เล่ห์เพทุบายทำลายระบบการตรวจสอบให้อ่อนเปลี้ยลงในทุกวิถีทาง  การร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550  จึงปรับปรุงอุดรอยรั่วช่องโหว่ต่างๆ ของปี 2540 และเพิ่มอำนาจภาคประชาชนให้เข้มแข็งขึ้นเท่านั้นเอง 

เหตุผลที่ฝ่ายทักษิณและพวกจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงเป็นเพียงเพราะรัฐธรรมนูญปี 2550 เข้มงวดและเป็นโทษต่อการทำผิดทุจริตของฝ่ายการเมือง หาได้คิดแก้ไขเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนแต่อย่างใดไม่ แถมความมุ่งมั่นของทักษิณ ชินวัตรและพวก ยังได้แสดงจิตเจตนาแอบแฝงที่จะแก้ไขเพื่อลดทอนอำนาจสถาบันกษัตริย์ อำนาจตุลาการ และองค์กรอิสระในการตรวจสอบอำนาจรัฐทุกองค์กร และโดยหลักๆ ก็คือ ต้องการจะแก้ไข มาตรา 237 วรรคสอง เกี่ยวกับการทำผิดต่อกฎหมายเลือกตั้งและยุบพรรคการเมืองกับการยกเลิก มาตรา 309 ซึ่งผลของการยกเลิกมาตรา 309 อาจทำให้บรรดาผู้ที่ถูกกล่าวหาหรือถูกลงโทษทางการเมืองในช่วงที่ใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว ร้องต่อศาลว่าคำสั่งของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่มีผลบังคับใช้อีกต่อไป อันอาจส่งผลให้การตรวจสอบหรือการกระทำหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ไม่ชอบด้วย ซึ่งคดีทั้งปวงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว ก็จะถูกระงับโดยไม่ต้องดำเนินการต่อไป ซึ่งเท่ากับนิรโทษกรรมทุกความผิดให้แก่ทักษิณและครอบครัวนั่นเอง อย่างนี้เป็นต้น

ซึ่งภาคประชาชนและคนไทยที่รักความเป็นธรรม คงจะทนรับไม่ไหว และจะต้องมีการออกมาต่อต้านคัดค้านแน่นอน และการชุมนุมต่อต้านของภาคประชาชนครั้งต่อไป ที่จะต้องเผชิญกับกองกำลังแข็งกร้าวของตำรวจเสื้อแดง และกองกำลังคนเสื้อแดงของฝ่ายทักษิณ ทำให้หลายฝ่ายวิตกกังวลว่า อาจก่อให้เกิดสงครามการเมือง และการนองเลือดบาดเจ็บล้มตาย อย่างคาดไม่ถึงและน่าสะพรึงกลัว

ผมไม่สามารถคาดเดาได้ว่า ทักษิณ ชินวัตร คิดอย่างไร แต่ขอเตือนด้วยความปรารถนาดีว่า ผลที่จะเกิดขึ้นกับการดึงดันที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือร่างกฎหมายปรองดองเพื่อนิรโทษกรรม โดยไม่ยอมรับผิดใดๆ เลยนั้น นอกจากจะไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติโดยส่วนรวมแล้ว ย่อมไม่เป็นคุณต่อทักษิณ ชินวัตรและพวกอย่างแน่นอน หากไม่เชื่อก็ลองดู

กำลังโหลดความคิดเห็น