ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เปิดหลักฐานมัด “ผอ.สทท.สงขลา” ในฐานะผู้กำกับการเล่นกลให้มีการโอนเงิน 7 หมื่นบาทเข้าบัญชีคนขับรถ เผยรองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ยังไม่นำทีมกฎหมายลงลุยสอบ “ช่อง 11 หาดใหญ่” เหตุเพราะเกิดเรื่องวุ่นๆ ภายในจากพิษถ่ายทอดมวยให้ “แม้ว” แก้ตัว
กรณีมีการร้องเรียน และเสนอให้ย้าย น.ส.ภาวิณี ศศานนท์ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยจังหวัดสงขลา (ผอ.สทท.สงขลา) พ้นจากตำแหน่ง โดยอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ก็มีคำสั่งให้รองอธิบดีที่รับผิดชอบลงลุยตรวจสอบแล้วนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าในเรื่องนี้ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายอารมณ์ คงสกุล ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 (ผอ.สปข.6) ได้ทำการตรวจสอบกรณีมีการโอนเงินจากผู้รับเหมางานใน สทท.สงขลารายหนึ่งเข้าบัญชีคนขับรถยนต์ของ สทท.สงขลา และเตรียมสรุปเรื่องให้แก่คณะรองอธิบดีที่จะลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยแล้ว
เป็นที่น่าสังเกตว่า ปัญหาภายใน สทท.สงขลา หรือช่อง 11 หาดใหญ่ ต้นตอเกิดจากเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่กว่า 50 ชีวิต ในจำนวนนั้นกว่า 90% เกิดการไม่ยอมรับการบริหารงานของ น.ส.ภาวิณีที่ขาดธรรมาภิบาลเป็นหลัก ส่วนกรณีที่ส่อว่าอาจจะเกิดการทุจริตในองค์กรนั้นเป็นเรื่องรอง แต่ปรากฏว่า เมื่อเกิดการร้องเรียนขึ้น กรณีหลังกลับปรากฏหลายเรื่องราว และกลับกลายเป็นประเด็นหลักไปแล้วในเวลานี้ เรื่องจากมีความพยายามจะรักษาเก้าอี้ไว้ของผู้ที่ถูกร้องเรียนนั่นเอง
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของ ผอ.สปข.6 มีการยืนยันข้อเท็จจริงจากพนักงานขับรถยนต์ที่ถูกบังคับให้จำต้องรับโอนเงิน 7 หมื่นบาทผ่านบัญชีแล้ว ซึ่งมีการทำเป็นหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงเสนอให้แก่ ผอ.สปข.6 ไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อนด้วย โดยมีใจความสำคัญสรุปได้ว่า ตามที่ ผอ.สปข.6 ได้สั่งการให้รายงานข้อเท็จจริงกรณีที่เกี่ยวข้องการการรับโอนเงินเข้าบัญชีจำนวน 7 หมื่นบาทตามข่าวที่ “ASTVผู้จัดการ” ภาคใต้อ้างถึง เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2555 นั้น
มีข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตน ดังนี้ เมื่อประมาณต้นเดือน เม.ย.2555 ตนได้ถูก น.ส.ภาวิณี ศศานนท์ ผอ.สทท.สงขลา เรียกพบ และพูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับการที่จะจัดจ้างช่างทำรั้วบริเวณบ้านพักของ ผอ.สทท.สงขลา และซ่อมแซมประตูโรงเครื่องยนต์ และมอบหมายให้ตนไปสืบราคาจ้างงานเหล็ก ซึ่งตนได้ปฏิบัติตามการมอบหมายเป็นที่เรียบร้อย แต่ ผอ.สทท.สงขลาติงว่าราคาสูงเกินไป ขอให้ตนเป็นผู้รับจ้างแทน โดยจะจัดหาวัสดุเครื่องมือให้ รวมถึงบอกว่าจะจ่ายค่าตอบแทนให้ตน ไม่เช่นนั้นอาจจะไม่ต่อสัญญาจ้างเหมาตนได้
“กระผมจึงมีความจำเป็นต้องยินยอมทำให้ โดยไม่ได้กำหนดราคาค่าจ้างแต่อย่างใด นอกจากนั้น ยังสั่งให้กระผมนำหมายเลขบัญชีของกระผมมาให้ และอ้างกับกระผมด้วยว่าไม่มีงบประมาณในการจัดจ้าง จึงมีความจำเป็นต้องใช้เงินนอก ซึ่งไม่สามารถโอนเข้าบัญชีของ สทท.สงขลาได้” ข้อความตอนหนึ่งในหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงระบุ
เนื่องจากตนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และเพิ่งจะเข้ามาทำงานที่ สทท.สงขลา เพียงไม่นาน ประกอบกับการที่ ผอ.สทท.สงขลาข่มขู่ว่า ถ้าหากไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง จะไม่ต่อสัญญาจ้างในปีถัดไป ตนจึงมีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามคำสั่งโดยไม่มีเงื่อนไข ทั้งๆ ที่เกิดความสงสัยขึ้นในใจว่าทำไมต้องโอนเข้าบัญชีพนักงานขับรถยนต์อย่างตนด้วย
จากนั้น ผอ.สทท.สงขลาได้สั่งให้นำหมายเลขบัญชีไปมอบให้แก่เจ้าหน้าที่พัสดุ สทท.สงขลา ซึ่งเป็นผู้ได้รับมอบหมายจาก ผอ.สทท.สงขลาให้เป็นผู้จัดการเรื่องการโอนเงินเข้าบัญชี และเมื่อวันที่ 18 พ.ค.2555 เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้แจ้งว่ามีเงินโอนเข้าบัญชีของเขาแล้ว แต่ขณะนั้นตนไม่ทราบว่าเป็นเงินอะไร โอนมาจากไหน และเป็นจำนวนเท่าใด และตนได้มอบบัตร ATM ให้แก่เจ้าหน้าที่คนนั้นไป
ต่อมา เมื่อวันที่ 24 พ.ค.2555 เจ้าหน้าที่พัสดุได้จ่ายเงินให้ตนเป็นเงินจำนวน 4,500 บาท โดยอ้างว่าเป็นค่าจ้างทำรั้วบ้านพัก ผอ.สทท.สงขลา จากนั้นไม่นาน ตนเกิดความไม่สบายใจมากขึ้น จึงได้ไปขอสถานะบัญชีดังกล่าวจากธนาคารกรุงไทย ทำให้ทราบว่า มีเงินโอนเข้าบัญชีจำนวน 70,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่มากเกินกว่าความสามารถของพนักงานขับรถยนต์อย่างตนเป็นอย่างยิ่ง ส่วนจะใช้จ่ายไปอย่างไรนั้น ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่ประการใดเลย
และล่าสุด เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2555 ผอ.สทท.สงขลาได้แสดงความไม่รับผิดชอบต่อคำสั่งของตัวเอง โดยถามตนว่า “เงินเจ็ดหมื่นอะไรหรือ ใครเป็นคนจัดการให้ พี่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย” และสั่งให้ตนไปเซ็นชื่อในใบสำคัญรับเงินค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 4,500 บาท ซึ่งเพิ่งจะออกให้เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2555 นี้เอง แต่ให้ลงวันที่ย้อนหลังเป็นวันที่ 24 พ.ค.2555 ซึ่งตนคิดว่าการกระทำของ ผอ.สทท.สงขลา เป็นการปัดความรับผิดชอบโดยมีเจตนาแฝงเร้น และไม่ชอบมาพากล
“ข้อความที่กระผมชี้แจงมาทั้งหมดนี้ กระผมขอรับรองว่าเป็นความจริงทุกประการ และหากมีข้อความใดที่ผมกล่าวเท็จ หรือคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง กระผมยินดีที่จะรับผิดชอบทุกกรณี” ข้อความในท้ายหนังสือชี้แจงดังกล่าวระบุ
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า นายประวิน พัฒนะพงษ์ รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ มีกำหนดการนำเจ้าหน้าที่กองกฎหมายของกรมลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาใน สทท.สงขลาภายในสัปดาห์นี้นั้น แหล่งข่าวในกรมประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลในเรื่องนี้ว่า เวลานี้แผนการลงตรวจสอบช่อง 11 หาดใหญ่ของคณะนายประวินน่าจะถูกเลื่อนออกไปก่อน เพราะขณะนี้ เกิดเรื่องวุ่นๆ ในกรมให้ต้องช่วยกันแก้ปัญหาเฉพาะหน้า อันเป็นผลมาจากการที่ช่อง 11 มีการถ่ายทอดสดมวยจากมาเก๊า และมีภาพ และเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกอากาศด้วย
