ASTVผู้จัดการรายวัน-“จุรินทร์”ยันโหวตวาระ 3 ขัดรัฐธรรมนูญ อัดนายกฯ ลอยตัว โกหกประชาชน ชี้ “แก้รัฐธรรมนูญ-กฎหมายล้างผิด” เรื่องเดียวกัน หากไม่โหวต ไม่เข้าข่ายละเว้น “วิรัตน์” ขู่รัฐบาลดันทุรังโหวตวาระ 3 เจอยื่นศาลรัฐธรรมนูญ บวกยื่นถอดถอนแน่ ด้าน “แดงเพื่อไทย” ลั่นศึกษาพอแล้ว จี้ลุยวาระ3ทันที สวน “เหลิม” อย่าป๊อด ขู่ระวังม็อบคนเองบ้าง ส่วนส.ว.เลือกตั้ง เผยต้องแก้ประเด็นปลดล็อกห้าม ส.ว.ลงเลือกตั้งสมัยที่ 2 ปัดไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยถึงการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญของฝ่ายรัฐบาลในช่วงสมัยนิติบัญญัติว่า ขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนว่าจะติดสินใจกล้าเดินหน้าลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 หรือไม่ เพราะสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำขัดรัฐธรรมนูญ เพราะศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยแล้วว่าถ้าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับจะเป็นการฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งและเขียนขึ้นใหม่ทั้งหมดจะต้องขอประชามติจากประชาชนก่อน เพราะรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 เคยผ่านการลงมติจากประชาชน
“ถ้ารัฐบาลคิดจะเดินหน้าลงมติในวาระ 3 จะเสี่ยงต่อการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าส.ส.ฝ่ายรัฐบาล จะกล้าลงมติ ตามที่คณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อศึกษาการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 291 ที่มีนายโภคิน พลกุล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้แนะนำหรือไม่ และการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของรัฐธรรมสภานั้น เห็นว่านายกฯ ยังไม่เปลี่ยนพฤติกรรมบริหารราชการแผ่นดิน ยังลอยตัวตัดความรับผิดชอบ และเป็นการพูดโกหกกับประชาชน ทั้งที่ข้อเท็จจริงคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงเป็นเรื่องของรัฐบาล และรัฐบาลจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อผลที่จะตามมา”
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้รัฐบาลพยายามเร่งรัดผลักดันให้มีการเดินหน้าจัดเวทีประชาเสวนา เพื่อหาเสียงสนับสนุนให้กับการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการออกกฎหมายล้างผิด เพื่อเดินไปสู่เป้าหมายเดียว คือ การคืนทรัพย์สิน และสิ่งเลวร้ายที่สุด คือการนำเงินภาษีกว่า 100 ล้านบาทไปจัดเวทีประชาเสวนาเพื่อสนับสนุนการคืนทรัพย์สินให้กับตัวบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้องและไม่สมควร ขณะที่รัฐบาลจะปฏิเสธว่าไม่รู้เห็นไม่ได้ เพราะเป็นมติครม.
***”แก้รธน.-กม.ล้างผิด”เรื่องเดียวกัน
เมื่อถามว่าร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ยังมีท่าทีคัดค้านการเดินหน้าลงมติวาระ 3 เพราะห่วงว่าจะมีการชุมนุมคัดค้าน นายจุรินทร์ กล่าวว่า คิดว่าจนถึงวันนี้ประชาชนรู้เท่าทันมากขึ้นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญกับการออกกฎหมายล้างผิดเป็นเรื่องเดียวกัน ที่ทำเพื่อวัตถุประสงค์ของคนคนเดียวกัน จึงคิดว่าจะมีกระแสออกมาต่อต้าน นำไปสู่ความแตกแยกในประเทศอีกครั้งหนึ่ง ส่วนสถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไรนั้น เป็นสิ่งที่พวกเราเป็นห่วงและเคยเตือนรัฐอยู่แล้วว่าไม่ควรเอาผลประโยชน์ส่วนตัวไปแลกกับความสงบสุขของบ้านเมือง ยกเว้นคนเห็นแก่ตัวเท่านั้นที่จะทำแบบนี้ได้
เมื่อถามว่านายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ระบุว่าหากไม่ลงมติวาระ 3 ก็อาจจะเข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าได้ นายจุรินทร์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวไม่เข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่ แต่ที่ไม่เดินหน้าลงมติ เพราะเกิดจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ต้องผูกพันทุกองค์กร ซึ่งอาจจะอ้างว่าเข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เพื่อหาเหตุผลในการเดินหน้าต่อไปเท่านั้น
***ทุรังโหวตเจอยื่นถอดถอนแน่
นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ตามมาตรา 291 เพราะศาลได้วินิจฉัยแล้วว่าการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับถือเป็นการล้มล้างให้ได้มาซึ่งอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ หากรัฐบาลเดินหน้าโหวตรัฐธรรมนูญวาระ 3 พรรคประชาธิปัตย์ ก็พร้อมเดินหน้ายื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอีกครั้งว่า การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ซึ่งจะดำเนินการตามกรอบกฎหมายที่มีอยู่ รวมทั้งจะยื่นถอดถอนผู้ที่ลงรายชื่อสนับสนุนด้วย
“ทราบมาว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังฮั้วกับส.ว. ประมาณ 60 คน เพื่อต่อวาระของสมาชิกวุฒิสภาสายเลือกตั้ง ให้เพิ่มขึ้นอีก 3ปี จึงขอเตือนว่า การเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ จะทำให้รัฐบาลอายุสั้น เพราะจะมีมวลชนจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยออกมาต่อต้าน ฉะนั้นรัฐบาลควรเอาเวลานี้ไปแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนจะดีกว่า”นายวิรัตน์ กล่าว
***แกนนำนปช.ลั่นลงมติวาระ3
ด้านคนของพรรคเพื่อไทย นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย แกนนำนปช. กล่าวว่า กรณีที่พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลบอกว่าจะศึกษา จะจัดเสวนานั้น ความจริงไม่ต้องศึกษาอะไรให้เสียเวลากันแล้ว เพราะกระบวนการแก้ไขได้ความเห็นชอบจากคณะกรรมาธิการในสภาที่มีส.ส.ทุกพรรคการเมือง รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์มาแล้ว ผ่านวาระที่ 1 วาระ 2 มาแล้ว พูดกัน 15 วัน 15 คืน ฉะนั้นการจะลงมติวาระ 3 คงไม่ต้องศึกษาอะไรกันอีก เมื่อเปิดสภาสมัยนิติบัญญัติต้องเอาเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของสภาเป็นเรื่องแรกทันที ไม่ต้องกล้าๆ กลัวๆ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ใครจะมาต่อต้านก็อย่าไปสนใจ เพราะรู้อยู่แล้วว่าเป็นพวกหน้าเดิมๆ
***ถามไม่กลัวม็อบคนกันเองหรือไง
นายวรชัยกล่าวว่า กรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ บอกว่าเรื่องนี้ไม่ควรรีบร้อน เพราะจะเป็นการเรียกม็อบมาอีกนั้น ก็เข้าใจว่าท่านต้องการให้ประเทศสงบ รัฐบาลสงบ เห็นใจท่านที่มีหน้าที่บริหารจัดการความมั่นคง ดูแลการชุมนุมต่างๆ เมื่อม็อบมาท่านก็อาจจะเหนื่อย อาจจะล้าไปบ้าง แต่เมื่อมาทำหน้าที่ตรงนี้แล้วต้องยอมเหนื่อย เราต้องแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปได้เสียที ยากลำบากแค่ไหนก็ต้องร่วมกันอดทนฟันฝ่าไป วันนี้ชาวบ้านที่เลือกพรรคเพื่อไทยมา เขาทวงถามแล้วว่าเมื่อไรจะแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นของประชาชนจริงๆ ฉะนั้นรัฐบาลต้องรีบตอบสนอง ต้องให้คำตอบเขา อย่าไปกลัวพวกต่อต้าน เพราะหากพวกเดียวกันออกมาเดินขบวนบ้างจะว่าอย่างไร แบบนั้นแก้ปัญหาลำบากกว่าแน่
"ผมขอถามรัฐบาล ถามคนในพรรคเพื่อไทยเราจะทู่ซี้ใช้รัฐธรรมนูญที่เป็นของโจรกบฏ เป็นของเผด็จการอยู่อย่างนี้หรือ ไม่รู้สึกกล้ำกลืนกันบ้างหรือ ถ้ายังยื้อใช้ไปเรื่อยๆ กลัวนั่นกลั่วนี่ เท่ากับเห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการใช่หรือไม่ ผมไม่อยากเห็นรัฐบาล หรือนายกฯ จะโดนเช็คบิลไปแบบไม่คาดฝัน เหมือนสมัยนายกฯ สมัคร นายกฯ สมชาย ถ้ายังใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้รัฐบาลอาจถูกล้มไปได้ตลอดเวลา เข้าเงื่อนไขเขานิดเดียวก็จบเลย ดังนั้นต้องรีบแก้ เปิดสภาลงมติวาระ 3 ทันที"นายวรชัยกล่าว
***ต้องออกกฎหมายนิรโทษกรรมด้วย
นายวรชัยกล่าวด้วยว่า ต้องยอมรับว่าใครเขียนกฎหมายก็ต้องรับใช้ชนชั้นนั้น ต้องเตือนรัฐบาลอย่านิ่งนอนใจ วันนี้ถ้าไม่แร่งแก้ไข ปล่อยให้ทุกอย่างสายเกินแก้ แล้ววันหน้าเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้รัฐบาลหรือนายกฯ มีอันเป็นไป แล้วจะหวนกลับมาคิดเสียดาย อย่าคิดแค่เฉพาะหน้าว่าไม่แก้รัฐธรรมนูญแล้วคลื่นลมจะสงบ รัฐบาลอยู่สบาย มันไม่มีทางแน่นอน ฝ่ายตรงข้ามจะใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นเครื่องมือจ้องล้มล้างรัฐบาลตลอด ความจริงอำนาจบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ ต้องเชื่อมโยงประชาชน แต่วันนี้อำนาจตุลาการลอยโดดเด่นเหนืออำนาจประชาชน คดีหลายคดียังค้างคา คนแก่กินหมากยังต้องหลบหนีคดีอย่างอเน็จอนาถ เพราะโดนข้อหาก่อการร้ายไปแบบเหลือเชื่อ วันนี้ไม่ใช่แค่แก้รัฐธรรมนูญเท่านั้น หากจะต้องออกกฎหมายนิรโทษกรรมก็จำเป็นต้องทำ แต่ต้องทำเพื่อคนทุกสี ไม่ใช่เฉพาะสีใดสีหนึ่ง
***ส.ว.หนุนปลดล๊อคลงสมัย2
นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี กล่าวว่า ได้หารือกับ ส.ว.ทั้งสายเลือกตั้ง และสายสรรหาบางส่วน ซึ่งได้สนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะประเด็นการปลดล็อกห้าม ส.ว.เลือกตั้ง ลงสมัครรับเลือกตั้งสมัยที่ 2 ติดกัน ซึ่งไม่ได้ตอบโจทย์การไม่ให้สืบทอดอำนาจ ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่าแก้เพื่อตัวเอง ถามว่าหากลงสมัครใหม่ยังไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่ได้ ซึ่งขึ้นอยู่ที่ประชาชนเลือก ไม่ควรตัดสิทธิกัน อย่างไรก็ตาม ได้มีจุดยืนว่าในส่วนขององค์กรอิสระไม่ควรไปแตะต้อง รวมไปถึงประเด็นยุบพรรค ที่ทุกฝ่ายเห็นตรงกันแล้วว่าต้องแก้ ดังนั้นเบื้องต้นจึงไม่น่าจะแก้อะไรมาก
ส่วนการที่รัฐบาลจะผลักดันให้ลงมติในวาระ 3 นั้น ในส่วนส.ว.คงต้องหารือกันอีกครั้ง รวมถึงต้องหารือกับฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เพื่อให้การแก้ไขเป็นไปแบบที่ทุกฝ่ายน่าจะยอมรับได้ เอาเฉพาะประเด็นที่เห็นร่วมกัน ทั้งนี้ ขอปฏิเสธไม่มีการซูเอี๋ยหรือแลกผลประโยชน์กับทางรัฐบาล เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เพราะมีการหารือกับฝ่ายค้านด้วย โดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เราคำนึงถึงความปรองดองอย่างแท้จริง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยถึงการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญของฝ่ายรัฐบาลในช่วงสมัยนิติบัญญัติว่า ขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนว่าจะติดสินใจกล้าเดินหน้าลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 หรือไม่ เพราะสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำขัดรัฐธรรมนูญ เพราะศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยแล้วว่าถ้าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับจะเป็นการฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งและเขียนขึ้นใหม่ทั้งหมดจะต้องขอประชามติจากประชาชนก่อน เพราะรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 เคยผ่านการลงมติจากประชาชน
“ถ้ารัฐบาลคิดจะเดินหน้าลงมติในวาระ 3 จะเสี่ยงต่อการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าส.ส.ฝ่ายรัฐบาล จะกล้าลงมติ ตามที่คณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อศึกษาการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 291 ที่มีนายโภคิน พลกุล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้แนะนำหรือไม่ และการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของรัฐธรรมสภานั้น เห็นว่านายกฯ ยังไม่เปลี่ยนพฤติกรรมบริหารราชการแผ่นดิน ยังลอยตัวตัดความรับผิดชอบ และเป็นการพูดโกหกกับประชาชน ทั้งที่ข้อเท็จจริงคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงเป็นเรื่องของรัฐบาล และรัฐบาลจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อผลที่จะตามมา”
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้รัฐบาลพยายามเร่งรัดผลักดันให้มีการเดินหน้าจัดเวทีประชาเสวนา เพื่อหาเสียงสนับสนุนให้กับการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการออกกฎหมายล้างผิด เพื่อเดินไปสู่เป้าหมายเดียว คือ การคืนทรัพย์สิน และสิ่งเลวร้ายที่สุด คือการนำเงินภาษีกว่า 100 ล้านบาทไปจัดเวทีประชาเสวนาเพื่อสนับสนุนการคืนทรัพย์สินให้กับตัวบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้องและไม่สมควร ขณะที่รัฐบาลจะปฏิเสธว่าไม่รู้เห็นไม่ได้ เพราะเป็นมติครม.
***”แก้รธน.-กม.ล้างผิด”เรื่องเดียวกัน
เมื่อถามว่าร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ยังมีท่าทีคัดค้านการเดินหน้าลงมติวาระ 3 เพราะห่วงว่าจะมีการชุมนุมคัดค้าน นายจุรินทร์ กล่าวว่า คิดว่าจนถึงวันนี้ประชาชนรู้เท่าทันมากขึ้นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญกับการออกกฎหมายล้างผิดเป็นเรื่องเดียวกัน ที่ทำเพื่อวัตถุประสงค์ของคนคนเดียวกัน จึงคิดว่าจะมีกระแสออกมาต่อต้าน นำไปสู่ความแตกแยกในประเทศอีกครั้งหนึ่ง ส่วนสถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไรนั้น เป็นสิ่งที่พวกเราเป็นห่วงและเคยเตือนรัฐอยู่แล้วว่าไม่ควรเอาผลประโยชน์ส่วนตัวไปแลกกับความสงบสุขของบ้านเมือง ยกเว้นคนเห็นแก่ตัวเท่านั้นที่จะทำแบบนี้ได้
เมื่อถามว่านายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ระบุว่าหากไม่ลงมติวาระ 3 ก็อาจจะเข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าได้ นายจุรินทร์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวไม่เข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่ แต่ที่ไม่เดินหน้าลงมติ เพราะเกิดจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ต้องผูกพันทุกองค์กร ซึ่งอาจจะอ้างว่าเข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เพื่อหาเหตุผลในการเดินหน้าต่อไปเท่านั้น
***ทุรังโหวตเจอยื่นถอดถอนแน่
นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ตามมาตรา 291 เพราะศาลได้วินิจฉัยแล้วว่าการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับถือเป็นการล้มล้างให้ได้มาซึ่งอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ หากรัฐบาลเดินหน้าโหวตรัฐธรรมนูญวาระ 3 พรรคประชาธิปัตย์ ก็พร้อมเดินหน้ายื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอีกครั้งว่า การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ซึ่งจะดำเนินการตามกรอบกฎหมายที่มีอยู่ รวมทั้งจะยื่นถอดถอนผู้ที่ลงรายชื่อสนับสนุนด้วย
“ทราบมาว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังฮั้วกับส.ว. ประมาณ 60 คน เพื่อต่อวาระของสมาชิกวุฒิสภาสายเลือกตั้ง ให้เพิ่มขึ้นอีก 3ปี จึงขอเตือนว่า การเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ จะทำให้รัฐบาลอายุสั้น เพราะจะมีมวลชนจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยออกมาต่อต้าน ฉะนั้นรัฐบาลควรเอาเวลานี้ไปแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนจะดีกว่า”นายวิรัตน์ กล่าว
***แกนนำนปช.ลั่นลงมติวาระ3
ด้านคนของพรรคเพื่อไทย นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย แกนนำนปช. กล่าวว่า กรณีที่พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลบอกว่าจะศึกษา จะจัดเสวนานั้น ความจริงไม่ต้องศึกษาอะไรให้เสียเวลากันแล้ว เพราะกระบวนการแก้ไขได้ความเห็นชอบจากคณะกรรมาธิการในสภาที่มีส.ส.ทุกพรรคการเมือง รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์มาแล้ว ผ่านวาระที่ 1 วาระ 2 มาแล้ว พูดกัน 15 วัน 15 คืน ฉะนั้นการจะลงมติวาระ 3 คงไม่ต้องศึกษาอะไรกันอีก เมื่อเปิดสภาสมัยนิติบัญญัติต้องเอาเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของสภาเป็นเรื่องแรกทันที ไม่ต้องกล้าๆ กลัวๆ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ใครจะมาต่อต้านก็อย่าไปสนใจ เพราะรู้อยู่แล้วว่าเป็นพวกหน้าเดิมๆ
***ถามไม่กลัวม็อบคนกันเองหรือไง
นายวรชัยกล่าวว่า กรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ บอกว่าเรื่องนี้ไม่ควรรีบร้อน เพราะจะเป็นการเรียกม็อบมาอีกนั้น ก็เข้าใจว่าท่านต้องการให้ประเทศสงบ รัฐบาลสงบ เห็นใจท่านที่มีหน้าที่บริหารจัดการความมั่นคง ดูแลการชุมนุมต่างๆ เมื่อม็อบมาท่านก็อาจจะเหนื่อย อาจจะล้าไปบ้าง แต่เมื่อมาทำหน้าที่ตรงนี้แล้วต้องยอมเหนื่อย เราต้องแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปได้เสียที ยากลำบากแค่ไหนก็ต้องร่วมกันอดทนฟันฝ่าไป วันนี้ชาวบ้านที่เลือกพรรคเพื่อไทยมา เขาทวงถามแล้วว่าเมื่อไรจะแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นของประชาชนจริงๆ ฉะนั้นรัฐบาลต้องรีบตอบสนอง ต้องให้คำตอบเขา อย่าไปกลัวพวกต่อต้าน เพราะหากพวกเดียวกันออกมาเดินขบวนบ้างจะว่าอย่างไร แบบนั้นแก้ปัญหาลำบากกว่าแน่
"ผมขอถามรัฐบาล ถามคนในพรรคเพื่อไทยเราจะทู่ซี้ใช้รัฐธรรมนูญที่เป็นของโจรกบฏ เป็นของเผด็จการอยู่อย่างนี้หรือ ไม่รู้สึกกล้ำกลืนกันบ้างหรือ ถ้ายังยื้อใช้ไปเรื่อยๆ กลัวนั่นกลั่วนี่ เท่ากับเห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการใช่หรือไม่ ผมไม่อยากเห็นรัฐบาล หรือนายกฯ จะโดนเช็คบิลไปแบบไม่คาดฝัน เหมือนสมัยนายกฯ สมัคร นายกฯ สมชาย ถ้ายังใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้รัฐบาลอาจถูกล้มไปได้ตลอดเวลา เข้าเงื่อนไขเขานิดเดียวก็จบเลย ดังนั้นต้องรีบแก้ เปิดสภาลงมติวาระ 3 ทันที"นายวรชัยกล่าว
***ต้องออกกฎหมายนิรโทษกรรมด้วย
นายวรชัยกล่าวด้วยว่า ต้องยอมรับว่าใครเขียนกฎหมายก็ต้องรับใช้ชนชั้นนั้น ต้องเตือนรัฐบาลอย่านิ่งนอนใจ วันนี้ถ้าไม่แร่งแก้ไข ปล่อยให้ทุกอย่างสายเกินแก้ แล้ววันหน้าเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้รัฐบาลหรือนายกฯ มีอันเป็นไป แล้วจะหวนกลับมาคิดเสียดาย อย่าคิดแค่เฉพาะหน้าว่าไม่แก้รัฐธรรมนูญแล้วคลื่นลมจะสงบ รัฐบาลอยู่สบาย มันไม่มีทางแน่นอน ฝ่ายตรงข้ามจะใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นเครื่องมือจ้องล้มล้างรัฐบาลตลอด ความจริงอำนาจบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ ต้องเชื่อมโยงประชาชน แต่วันนี้อำนาจตุลาการลอยโดดเด่นเหนืออำนาจประชาชน คดีหลายคดียังค้างคา คนแก่กินหมากยังต้องหลบหนีคดีอย่างอเน็จอนาถ เพราะโดนข้อหาก่อการร้ายไปแบบเหลือเชื่อ วันนี้ไม่ใช่แค่แก้รัฐธรรมนูญเท่านั้น หากจะต้องออกกฎหมายนิรโทษกรรมก็จำเป็นต้องทำ แต่ต้องทำเพื่อคนทุกสี ไม่ใช่เฉพาะสีใดสีหนึ่ง
***ส.ว.หนุนปลดล๊อคลงสมัย2
นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี กล่าวว่า ได้หารือกับ ส.ว.ทั้งสายเลือกตั้ง และสายสรรหาบางส่วน ซึ่งได้สนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะประเด็นการปลดล็อกห้าม ส.ว.เลือกตั้ง ลงสมัครรับเลือกตั้งสมัยที่ 2 ติดกัน ซึ่งไม่ได้ตอบโจทย์การไม่ให้สืบทอดอำนาจ ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่าแก้เพื่อตัวเอง ถามว่าหากลงสมัครใหม่ยังไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่ได้ ซึ่งขึ้นอยู่ที่ประชาชนเลือก ไม่ควรตัดสิทธิกัน อย่างไรก็ตาม ได้มีจุดยืนว่าในส่วนขององค์กรอิสระไม่ควรไปแตะต้อง รวมไปถึงประเด็นยุบพรรค ที่ทุกฝ่ายเห็นตรงกันแล้วว่าต้องแก้ ดังนั้นเบื้องต้นจึงไม่น่าจะแก้อะไรมาก
ส่วนการที่รัฐบาลจะผลักดันให้ลงมติในวาระ 3 นั้น ในส่วนส.ว.คงต้องหารือกันอีกครั้ง รวมถึงต้องหารือกับฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เพื่อให้การแก้ไขเป็นไปแบบที่ทุกฝ่ายน่าจะยอมรับได้ เอาเฉพาะประเด็นที่เห็นร่วมกัน ทั้งนี้ ขอปฏิเสธไม่มีการซูเอี๋ยหรือแลกผลประโยชน์กับทางรัฐบาล เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เพราะมีการหารือกับฝ่ายค้านด้วย โดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เราคำนึงถึงความปรองดองอย่างแท้จริง