xs
xsm
sm
md
lg

พวกมากลากโหวต ภท.หนุนแต่ไม่เอา"ชัจจ์" พท.ยื่นถอด6ส.ส.ปชป.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-พวกมากลากไป พิธีกรรมโหวตซักฟอก ผ่านฉลุย ทำเอา "ปู"ยิ้มแก้มปริ เผย"ภูมิใจไทย-มาตุภูมิ-รักประเทศไทย"แหกโผ ลงคะแนนหนุนรัฐบาลเพียบ แต่ภูมิใจไทย ไม่เอา “ชัจจ์” ด้าน "มาร์ค"ทำใจ บอกไม่เหนือคาด แต่ดีใจที่คนไทยรู้ทันรัฐบาลมากขึ้น พร้อมส่งข้อมูลให้องค์กรอิสระฟันต่อ เพื่อไทยถอนแค้น รวม 200 ส.ส.ยื่นถอด 6 ส.ส.ปชป. "แม้ว"สไกป์อัดขุนค้อนปล่อย "ปู"โดนรุม เอแบคจัดให้ โพลคนไทยยังไว้ใจรัฐบาล

วานนี้ (27 พ.ย.) การประชุมสภาผู้แทนราษฏร เพื่อให้สมาชิกสภาได้ลงคะแนนในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลของพรรคร่วมฝ่ายค้าน เริ่มขึ้นเมื่อเวลา10.24 น. โดยมีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฏร เป็นประธานการประชุม มีสมาชิกมาลงชื่อทั้งหมด 480 คน จากสมาชิกทั้งหมด 493 คน โดยประธานได้กำชับกับบุคคลที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจลงคะแนนให้กับตนเอง เพราะมีส่วนได้ส่วนเสียกับตำแหน่ง แต่สามารถกดบัตรแสดงตนได้

จากนั้นที่ประชุมได้เริ่มดำเนินการลงมติ โดยเริ่มจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับคะแนนไม่ไว้วางใจ159 เสียง ไว้วางใจ 308 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง และไม่ลงคะแนน 9 เสียง
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้รับคะแนนไม่ไว้วางใจ157 เสียง ไว้วางใจ 287 เสียง งดออกเสียง25 เสียง ไม่ลงคะแนน 11 เสียง

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กระทรวงกลาโหม ได้รับเสียงไม่ไว้วางใจ 160 เสียง ไว้วางใจ 284 เสียง งดออกเสียง 25 เสียง และไม่ลงคะแนน 11 เสียง

ส่วนพล.ต.ท. ชัจจ์ กุลดิลก รมว.กระทรวงมหาดไทย ได้รับเสียงไม่ไว้วางใจ182 เสียง ไว้วางใจ 284 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง และไม่ลงคะแนน10 เสียง

จากนั้นที่ประชุมได้รับทราบพระบรมราชโองการพระราชกฤษฏีกาปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฏร และประธานได้ทำการสั่งปิดประชุมเมื่อเวลา 10.53 น. โดยสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลต่างแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่ได้รับเสียงไว้วางใจให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปอย่างคึกคัก ขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มตลอดเวลา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ประท้วงนายสมศักดิ์ว่า ตัวเลขบนจอคอมพิวเตอร์ของรัฐสภาระบุว่ามีส.ส.ในวันนี้ 481คน เเต่นายสมศักดิ์ให้ยึดตัวเลขที่นายสมศักดิ์อ้างไว้ว่าได้รับเเจ้งจากเจ้าหน้าที่รัฐสภาเป็นหลักในการลงมติวันนี้

**ภูมิใจไทย-มาตุภูมิ-รักประเทศไทยหนุนปู

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เสียงสนับสนุนส่วนใหญ่ยังคงเป็นของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และมีเสียงของ พรรคฝ่ายค้าน อาทิ พรรคภูมิใจไทย พรรครักประเทศไทย พรรคมาตุภูมิให้การสนับสนุนเพิ่มเติม

โดยผลการลงมติ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ได้รับเสียงไว้วางใจ จำนว 308 เสียงนั้น พบว่าได้รับเสียงสนับสนุนเพิ่มจากส.ส.พรรคฝ่ายค้าน จำนวน 34 เสียง โดยส่วนใหญ่เป็นของพรรคภูมิใจไทย จำนวน 30 เสียง อาทิ นายชัย ชิดชอบ, นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล, นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นางพรทิวา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท,พรรครักประเทศไทย จำนวน 2 เสียง ได้แก่ นายโปรดปราน โต๊ะราหนี และนายชัยวัฒน์ ไกรฤกษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และพรรคมาตุภูมิ จำนวน 2 เสียง ได้แก่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตนกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ นายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี พรรคมาตุภูมิ

ด้านผลการลงมติของ ร.ต.อ.เฉลิม ที่ได้รับคะแนนเสียงไว้วางใจ จำนวน 287 เสียง พบว่า ได้เสียงสนับสนุน เพิ่ม 22 เสียง โดยมีพรรคฝ่ายค้านร่วมสนับสนุนด้วย ได้แก่ พรรคภูมิใจไทย ในกลุ่มมัชฌิมา อาทิ นางพรทิวา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท, นางนันทนา สงฆ์ประชา ส.ส.ชัยนาท, นายมานิต นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี, นายมนู พุกประเสิรฐ ส.ส.สุโขทัย, นายเรืองศักดิ์ งามสมภาค ส.ส.สุโขทัย และกลุ่มของนายเนวิน ร่วมลงคะแนนไว้วางใจ ร.ต.อ.เฉลิม อีก 1 คน ได้แก่ นายรุ่งโรจน์ ทองศรี ส.ส.บุรีรัมย์ ทั้งนี้ พบด้วยว่า นายชัยวัฒน์ ไกรฤกษ์, นายโปรดปราน โต๊ะราหนี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย, พล.อ.สนธิ บุญยรัตนกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ, นายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี พรรคมาตุภูมิ ร่วมให้การสนับสนุน

ขณะที่การลงมติของ พล.ต.ท.ชัจจ์ ที่ได้รับคะแนนไว้วางใจ จำนวน 284 เสียง ถือว่าได้เสียงสนับสนุนเพิ่มจากซีกฝ่ายค้าน กว่า 10 เสียง โดยมาจากพรรคภูมิใจไทย ในฟากกลุ่มมัชฌิมา จำนวน 8 คน ได้ลงคะแนนสนับสนุน อาทิ นายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล ส.ส.สุโขทัย, นางนันทนา สงฆ์ประชา ส.ส.ชัยนาท, นายบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี นางพรทิวา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท และมีส.ส.ในกลุ่มเพื่อนเนวิน จำนวน 1 คน ร่วมสนับสนุน คือน.ส.ชะวรลัทธิ์ ชินธรรมมิตร ส.ส.ราชบุรี นอกจากนั้นเป็นส.ส.พรรครักประเทศไทยจำนวน 2 เสียง คือ นายชัยวัฒน์ และนายโปรดปราน ด้านพรรคมาตุภูมิ พบว่าลงเสียงสนับสนุนทั้ง 2 คน

ทั้งนี้ พล.ต.ท.ชัจจ์ ที่ถือว่าเป็นรัฐมนตรีที่ถูกยกมือไม่ไว้วางใจสูงสุด คือ 182 เสียงนั้น พบว่า ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย จำนวน 22 คน ร่วมลงคะแนนสนับสนุนญัตติไม่ไว้วางใจของพรรคประชาธิปัตย์
ทางด้านการลงมติ ของ พล.อ.อ.สุกำพล ที่ได้คะแนนไว้วางใจ 284 เสียง ได้เสียงสนับสนุนจากพรรคฝ่ายค้าน 15 เสียงโดยพรรคฝ่ายค้านโหวตสนับสนุน ส่วนใหญ่มาจากพรรคภูมิใจไทย พรรครักประเทศไทย และพรรคมาตุภูมิ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เสียงของพรรคร่วมรัฐบาลขณะนี้ ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย 264 เสียง พรรคไทยชาติพัฒนา 19 เสียง ประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียง พรรคมหาชน 1 เสียง พลังชล 7 เสียง (อยู่ระหว่างเลือกตั้งใหม่ 1 เสียง) และพรรคชาติพัฒนา 7 เสียง

ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้านประกอบด้วย พรรคประชาธิปัตย์ 160 เสียง พรรคภูมิใจไทย 34 เสียง (มัชฌิมา 8 เสียง) พรรคมาตุภูมิ 2 เสียง พรรครักประเทศไทย 4 เสียง และพรรครักษ์สันติ 1 เสียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการลงคะแนนของส.ส.พรรคภูมิใจไทย จากเดิมที่ระบุว่าจะไม่มีการฟรีโหวตนั้น ตรวจสอบแล้วพบว่าการลงคะแนนได้แยกเป็น 2 กลุ่ม ระหว่างกลุ่มมัชฌิมา ได้ลงเสียงไว้วางใจให้กับรัฐมนตรีที่ถูกยื่นอภิปรายและกลุ่มเพื่อนเนวิน ที่งดออกเสียง และลงคะแนนไม่ไว้วางใจ พล.ต.อ.ชัจจ์

ส่วนพรรคมาตุภูมิ ทั้งสองคนลงคะแนนตามฝ่ายรัฐบาล ขณะที่พรรครักประเทศไทย ได้แบ่งเป็นสองกลุ่มเช่นกัน คือ นายโปรดปราณ และนายชัยวัฒน์ โหวตให้รัฐบาล ขณะที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ และนายสมเพชร แต่งงาม โหวตไม่ไว้วางใจ ส่วนพรรครักษ์ประเทศไทยที่มี ส.ส. เพียงคนเดียว คือ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ งดออกเสียง

**"ภูมิใจไทย"อวยสุดๆ ไม่พบทุจริต

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวภายหลังว่า มีมติให้ไว้วางใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะเชื่อว่าไม่พบการทุจริตในเรื่องนโยบาย แต่อาจมีปัญหาในเรื่องของฝ่ายปฏิบัติ แต่เห็นแก่บ้านเมืองจึงให้โอกาสเดินหน้าแก้ปัญหาและทำงานต่อไป ส่วนร.ต.อ.เฉลิม และพล.อ.อ.สุกำพล จากการอภิปรายตลอด 3 วันที่ผ่านมา ไม่พบการทุจริต จึงงดออกเสียง ขณะที่พล.ต.ท.ชัจจ์ ชี้แจงได้ไม่ชัดเจน จึงมีมติไม่ไว้วางใจ ส่วนส.ส.ในกลุ่มมัชฌิมา ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับการโหวตไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแสดงท่าทีที่จะไปร่วมรัฐบาล การจะเป็นรัฐบาลหรือไม่ เราตั้งเป้าไว้ที่การเลือกตั้งในครั้งหน้า

**"ปู"ปัด “ภูมิใจไทย” โหวตแลกเก้าอี้

ที่รัฐสภา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องถือโอกาสนี้ขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และพี่น้องประชาชนที่ได้ติดตามการอภิปราย ส่วนสิ่งต่างๆ ที่ต้องการให้รัฐบาลตรวจสอบ ยืนยันว่าพร้อมในการตรวจสอบเรื่องของการทุจริตคอรัปชั่น แต่บางอย่างที่ได้รับมา อาจจะมีข้อมูลที่คาดเคลื่อน คงจะให้เจ้าหน้าที่ขอรายละเอียดทั้งหมด เพื่อให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องเข้าไปทำงานและชี้แจงให้ทราบอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า 308 คะแนนที่ได้มา โดยมีพรรคภูมิใจไทยร่วมด้วย ถือว่ามีนัยยะอะไรหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยิ้ม พร้อมกับกล่าวว่า คงจะอยู่ในดุลยพินิจของผู้ที่ให้ ท่านคงฟังจากการอภิปราย โดยพิจารณาภาพรวม และเห็นว่าเป็นอย่างไร ต้องขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงและขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้ นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ดิฉันเองมีกำลังใจในการทำงานต่อไป

เมื่อถามย้ำว่า คะแนนเสียงที่ได้มาครั้งนี้ เป็นสัญญาณอะไรเกี่ยวกับเก้าอี้ให้กับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยิ้ม พร้อมกล่าวว่า เพิ่งจะปรับครม.เองค่ะ อย่าเพิ่งพูดเลยค่ะ เราเพิ่งจบการอภิปรายไปเอง

** "อภิสิทธิ์" บอกไม่เหนือความคาดหมาย

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ทุกคนนำเสนอได้ชัดเจน ส่วนผลการลงมติที่ออกมา ไม่ได้เกินความคาดหมาย แต่มั่นใจว่าสังคมจะได้ประโยชน์จากข้อมูลของฝ่ายค้าน โดยสิ่งที่จะทำต่อไป คือ ประมวลประเด็นที่ยังตกค้างอยู่ ชี้ให้สังคมเห็นว่ารัฐบาลคงมีหน้าที่ในการที่จะตอบกับประชาชน

ประเด็นการอภิปรายมีหลายเรื่องที่นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีไม่สามารถตอบได้ โดยฝ่ายค้านเตรียมเสนอเรื่องให้ประธานวุฒิสภา เพื่อยื่นให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบกรณีรัฐมนตรีกระทำผิดกฎหมายเข้าข่ายทุจริต รวมถึงกรณีอื่นๆ ให้องค์กรที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเรื่องการรับจำนำข้าว การทุจริตเงินน้ำท่วม การถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี, การแต่งตั้งผู้บริหารรัฐวิสาหกิจไม่เป็นตามหลักเกณฑ์

**เตรียมข้อมูลส่งองค์กรอิสระ

น.พ.วรงค์ เดชวิกรม ส.ส.พิษณุโลก กล่าวว่า ภายหลังจากการลงมติในญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เรียกทีมงานที่อภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคมาสรุปผลการอภิปราย โดยนายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวขอบคุณทุกคนที่ทำหน้าที่ได้ดี เพราะรัฐบาล สื่อมวลชนและฝ่ายต่างๆ ได้สบประมาทฝ่ายค้านว่า ไม่มีข้อมูล ซึ่งที่ผ่านมา ก็เป็นบทพิสูจน์ได้แล้วว่า ฝ่ายค้านทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ซึ่งที่ประชุมเชื่อว่า รัฐบาลจะใช้สื่อของรัฐมาชี้แจงข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านเพื่อมาต่อสู้อย่างเต็มที่ รวมทั้งจะดำเนินการกับฝ่ายค้านในเรื่องที่เห็นอภิปรายไม่ตรงกับญัตติการอภิปราย
ดังนั้น นายอภิสิทธิ์ จึงได้มีการวางแนวทางการทำงานต่อ โดยได้มีการแบ่งทีมงานติดตามงานที่ได้อภิปรายรัฐมนตรีแต่ละคนว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยเฉพาะการทุจริตคอร์รัปชั่นให้เก็บรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อขยายผลต่อไป ไม่ว่าจะส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ผู้ตรวจการแผ่นดินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ต่อไป ทั้งนี้ ได้มีการมอบหมายให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นหัวหน้าทีมงานในการดำเนินการเรื่องนี้

** 200พท.ยื่นถอด6ส.ส.ปชป.

อีกด้านส.ส.พรรคเพื่อไทย นำโดยนายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร ได้นำรายชื่อ ส.ส.พรรคเพื่อไทย 200 คน ยื่นต่อ นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 271 ให้วุฒิสภามีมติถอดถอน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 6 คน ประกอบด้วย นายนคร มาฉิม นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง น.ส.รัชดา ธนาดิเรก นายวิลาส จันทรพิทักษ์ ส.ส.กรุงเทพฯ และนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง เนื่องจากได้กระทำการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 158 วรรคสองระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ด้วยการกล่าวหาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า ร่ำรวยผิดปกติ ส่อว่ามีการทุจริต และกระทำผิดกฎหมาย โดยเป็นการอภิปรายที่ไม่ได้ยื่นในคำร้องถอดถอนต่อวุฒิสภาก่อน ทั้งที่ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลได้เตือนบุคคลดังกล่าวหลายครั้งแล้ว แต่ยังกระทำการฝ่าฝืน จึงขอให้ประธานวุฒิสภาได้ดำเนินการตามที่ยื่นร้อง

ด้านนายนิคม กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยดำเนินการตามขั้นตอนในการเข้าชื่อ 1 ใน 4 ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 271 ซึ่งจะแจ้งเป็นเรื่องด่วนให้ที่ประชุมวุฒิสภารับทราบ จากนั้นจะทำการตรวจสอบรายชื่อ และยื่นให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภายใน 15 วันหรือภายในวันที่ 12 ธ.ค.นี้

**ปชป.ยันญัตติครอบคลุมไม่ผิด158

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย กล่าวว่า เป็นเรื่องไร้สาระ เพราะคำร้องขอถอดถอนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีรายบุคคล ของฝ่ายค้านเขียนครอบคลุมและกว้างขวาง เช่นกรณีที่ชัดเจน คือ นายกรัฐมนตรีทำผิดพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โดยเอื้อประโยชน์หรือเอื้อให้เกิดการทุจริต มีกรณีของนายนคร มาฉิม ส.ส.พิษณุโลกเท่านั้นที่ระบุ แต่ก็ได้มีการถอนคำพูดและถอนคำอภิปรายทั้งหมดแล้ว

"เข้าใจว่าผู้ที่ริเริ่มหากทางยื่นถอดถอน 6 ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ทำเพื่อเก็บสะสมแต้มให้ตัวเอง เพื่อโชว์ต่อนายใหญ่ พร้อมทั้งดิสเครดิตทำลายความน่าเชื่อถือของข้อมูลในการอภิปราย ซึ่งเรื่องนี้ที่สุดแล้วประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน เพราะมือในสภาฯ เราแพ้อยู่แล้ว ส่วนการดำเนินการตามขั้นตอนนั้น จากนี้ประธานวุฒิสภา เมื่อพิจารณาแล้วว่ามีเหตุหรือมูลก็ยื่นเรื่องต่อให้ป.ป.ช. แต่หากไม่มีเหตุเรื่องก็ตกไป ส่วนทางป.ป.ช.เมื่อรับเรื่องมาแล้วก็ต้องมาดูคำร้องกับข้อมูลการอภิปรายว่าสมเหตุหรือไม่ ซึ่งส่วนตัวในฐานะที่เป็นที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของพรรค ได้หารือคณะทำงานกฎหายของพรรคแล้วเห็นว่าเป็นเป็นเรื่องไรสาระที่ต้องดิสเครดิตเท่านั้น"

ขณะที่ นายสาธิต ปุติเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าเป็นการยื่นถอดถอนเพื่อแก้เกี้ยวเพื่อต้องการทำงานน้ำหนักในการอภิปราย และตามนิสัยของส.ส.พรรคเพื่อไทย เมื่อถูกบอกว่าทำผิด ก็มักแก้ตัวว่าไม่ผิด ซ้ำยังแย้งโต้กลับอีกว่าอีกฝ่ายก็เคยทำผิดมาเหมือนกัน แต่กลับไม่แก้ไข

** "ชัชชาติ" แก้เกี้ยวสั่งญาติห้ามยุ่ง

ที่รัฐสภา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม กล่าวว่า เรื่องที่นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายเรื่องงบฟื้นฟูน้ำท่วม 1.2 แสนล้านบาท โดยระบุว่ามีญาติของตนเข้าไปเกี่ยวข้องกับการประมูลโครงการถึง 43 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาทนั้น ตนได้ชี้แจงให้นายกรัฐมนตรีรับทราบแล้ว ซึ่งท่านก็เข้าใจ ยืนยันว่าตนไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย บุคคลที่ถูกหยิบยกมาในการอภิปราย เป็นภรรยาของลูกที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของตน เดิมอยู่ปากน้ำ แต่ย้ายไปอยู่ จ.มุกดาหาร ซึ่งถือว่าเป็นญาติที่ห่างมาก แทบจะไม่เคยได้เจอหรือรู้จักกันเลย อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ (28 พ.ย.) ตนได้โทรศัพท์ไปหาญาติของตน ซึ่งเขาก็ติดต่อผู้หญิงคนนี้ให้ โดยตนได้สั่งและย้ำไปแล้วว่าจะทำธุรกิจอะไร ตนไม่เกี่ยวด้วย และขอให้ระวังด้วย อย่าทำอะไรที่ทำให้เสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล และห้ามมายุ่งกับงานของกระทรวงคมนาคมโดยเด็ดขาด

“แค่นี้ผมก็จะตายแล้ว แค่นามสกุลเดียวกัน แม้จะเป็นแค่ญาติห่างๆ ต่อไปหากมีการประมูลโครงการอะไรของกระทรวงคมนาคม ผมต้องเข้มงวด จะไม่มีชื่อของบริษัทของญาติผมเข้ามาเกี่ยวข้องเด็ดขาด”รมว.คมนาคมกล่าว

**แม้วสไกป์ซัดปล่อย"ปู"โดนยำ

เวลา13.30น. พรรคเพื่อไทยได้เรียกประชุม ส.ส.นัดพิเศษ เพื่อประเมินผลงานหลังจากเสร็จสิ้นศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยการประชุมครั้งนี้มีส.ส.เข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยมีพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่ประธานในการประชุม

รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า การประชุมช่วงหนึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้สไกป์เข้ามาร่วมแสดงความเห็นด้วย โดยช่วงแรกตำหนิถึงการทำหน้าที่ผู้ทำหน้าที่ประธานสภาฯ ช่วงที่นายจุรินทร์ กล่าวสรุปปิดอภิปรายฯว่า เอ้อ ประธานสภาฯ ของเรา บางครั้งก็อ่อนแอไปหน่อย ฝั่งโน้นเขาฝันหากมีใครมานอนกับนายกรัฐมนตรี จะเป็นอย่างไร แต่ส.ส.หญิงฝั่งเราไม่เห็นมีใครโต้ตอบไปเลย ประชาธิปัตย์เขาเล่นเราแรง แต่เราไม่ต้องไปแรงตามเขา ขอให้เราแข็งแรงกันไว้ก่อน ภาพรวมการทำหน้าที่ในสภาฯ ของพวกเราถือว่าทำได้ดีแล้ว ขอให้อดทน ขอให้สู้กันต่อไป การเมืองวันนี้เล่นกันไม่มีกติกา ต้องการเอาชนะกันให้ได้ เพราะฉะนั้นเราต้องเข้มแข็ง สู้ในแนวทางที่ถูกต้อง ส.ส.คนไหนมีปัญหาก็ขอให้บอกผม หรือบอกรัฐมนตรีก็ได้ แม้ปิดประชุมสภาฯแล้วก็ขอให้ลงพื้นที่ไปทำงานพบปะกับประชาชน

หลังพ.ต.ท.ทักษิณ พูดจบ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาฯ กล่าวว่า ยอมรับอาจทำหน้าที่ผิดพลาดไปบ้าง แต่เนื่องจากกรอบระยะเวลาที่บีบเข้ามา ต้องเร่งดำเนินการปิดประชุมไม่ให้เกินกรอบเวลาที่กำหนด แต่ก็ยอมรับว่าฝ่ายประชาธิปัตย์เล่นนอกกติกา

จากนั้น นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และส.ส.เพื่อไทย หลายคน ที่ยังติดใจต่อการทำหน้าที่ของนายวิสุทธิ์และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ได้ผลัดกันลุกขึ้นโจมตีอย่างต่อเนื่อง และพูดไปในทำนองเดียวกันว่า การอภิปรายสรุปของฝ่ายค้าน ไม่ได้นำเรื่องที่อภิปราย3วันมาสรุป แต่กลับเปิดประเด็นใหม่ขึ้นมา โดยเฉพาะเรื่องพ.ต.ท.ทักษิณ และกล่าวพาดพิงไปถึงนส.ยิ่งลักษณ์ หลายครั้ง แต่ประธานทำหน้าที่ตอนนั้นก็ปล่อยให้ นายจุรินทร์พูดต่อไป โดยไม่เปิดให้ฝ่ายเราได้ลุกขึ้นชี้แจง
ประธานฯอาจกลัวฝ่ายค้านมอง ทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง ท่านประธานสภาฯ ไม่จำเป็นต้องเข้าข้างเรา แต่ก็ไม่ควรต้องเกรงใจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากเกินไป อย่าคิดว่ายังไงเป็นคนในพรรคเดียวกันคงไม่เป็นอะไร การประท้วงเป็นสิทธิของส.ส. เมื่อเขาประท้วงได้ เราก็ต้องประท้วงได้เหมือนกัน

ขณะที่ส.ส.หญิงเพื่อไทยบางคน ก็ได้ลุกขึ้นแสดงความเห็นที่พ.ต.ท.ทักษิณ มองว่าไม่ค่อยช่วยกันปกป้องนายกรัฐมนตรีว่า เนื่องจากส.ส.หญิงพวกเรา ไม่ค่อยได้พูดคุยกันในกลุ่ม และนายกฯ ก็มีงานมาก ก็อยากให้ท่านมาพูดคุยกับส.ส.หญิงพรรคเราบ้าง เพื่อจะได้ทำงาน วางแนวทางการทำงานต่อไป ถ้าเป็นไปได้อยากให้เข้ามาร่วมกลุ่มหรือมาเสวนากันบ้าง

**เอแบคจัดให้คน ยังไว้วางใจ 'ยิ่งลักษณ์'

นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กล่าวถึงผลสำรวจ “เอแบคเรียลไทม์โพล (ABAC Real-Time POLL)" เรื่อง : เสียงสะท้อนของผู้ติดตามชมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลภายใต้การนำของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า ประชาชนที่ติดตามการอภิปรายครั้งนี้ต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 68.6 ยังคงไว้วางใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่ร้อยละ 31.4 ไม่ไว้วางใจ ส่วนร.ต.อ.เฉลิม ไว้วางใจ ร้อยละ 56.1 ในขณะที่ไม่ไว้วางใจร้อยละ 43.9, พล.ต.ท.ชัจจ์ ไว้วางใจร้อยละ 53.2 ไม่ไว้วางใจร้อยละ 46.8, พล.อ.อ.สุกำพล ไว้วางใจร้อยละ 50.6 ไม่ไว้วางใจ 49.4 ทั้งนี้ ยังพบว่า คะแนนออกมาค่อนข้างดีทั้งสองฝ่ายและสูสีกัน คือ ฝ่ายค้าน ได้ 6.42 ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาลได้ 6.34 คะแนน.
กำลังโหลดความคิดเห็น