ASTVผู้จัดการรายวัน - คลังเร่งเดินหน้าจี้หน่วยงานเก็บรายได้ เล็งปัดฝุ่นภาษีเครื่องดื่ม สั่ง "สรรพสามิต" วิเคราะห์ตู้แช่ในร้านสะดวกซื้อ เพื่อจัดเก็บภาษีให้ถูกต้อง ชี้เป้า ชาเขียว เครื่องดื่มบำรุงสมอง และรังนก อาจมีส่วนผสมที่ไม่เป็นประโยชน์ ถือเป็นการปกป้องผู้บริโภคไม่ให้ผู้ประกอบการเอาเปรียบนำน้ำผสมน้ำตาลมาขาย "ตัน" เชื่อเก็บภาษีชาเขียวไม่เกิด ชี้เก็บภาษีชาเขียว-กาแฟไม่กระทบผู้ประกอบการแต่กระทบเกษตรกรผู้เพาะปลูก
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายได้ เดินทางตรวจเยี่ยมกรมสรรพสามิต พร้อมมอบนโยบายการปฏิบัติงานและการจัดเก็บภาษีของกระทรวงการคลังให้แก่คณะผู้บริหารของกรมสรรพสามิต โดยมี นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ นายรังสรรค์ ได้มอบนโยบายกรมสรรพสามิตวิเคราะห์การเก็บภาษีเครื่องดื่มชาเขียว และเครื่องดื่มอีกหลายชนิดที่อยู่ในตู้แช่ของร้านสะดวกซื้อ โดยตรวจสอบว่า มีส่วนผสมเข้าข่ายที่ต้องเสียภาษีกรมสรรพสามิตหรือไม่
"น้ำชาต่างๆ ไม่ได้ใช้ใบชาอย่างเดียวมีส่วนผสมอื่นด้วย ที่ต้องไปวิเคราะห์ดูว่าต้องเสียภาษีสรรพสามิตหรือไม่ รวมถึงเครื่องดื่มบำรุงสมอง และเครื่องดื่มรังนกต่างๆ ด้วย"
นายสมชายยกตัวอย่างว่า เกณฑ์การเก็บภาษีเครื่องดื่มจะกำหนดว่าต้องมีส่วนผสมพืชผลทางการเกษตรจำนวนเท่าไรถึงได้รับการยกเว้นภาษี เช่น น้ำผลไม้ส่วนใหญ่ได้รับการยกเว้นภาษี เพราะมีส่วนผสมพืชผลทางการเกษตรได้ตามเกณฑ์ เป็นการปกป้องผู้บริโภคไม่ให้ผู้ประกอบการเอาเปรียบนำน้ำผสมน้ำตาลมาขาย สำหรับปัจจุบันเครื่องดื่มที่เสียภาษีสรรพาสามิต ได้แก่ น้ำอัดลม น้ำโซดา และเครื่องดื่มชูกำลัง
นายรังสรรค์ กล่าวว่า กรมสรรพสามิตว่าเป็นหน่วยงานที่มีศักยภาพด้านการจัดเก็บภาษีและมีการบูรณาการความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ด้านการป้องกัน และปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตได้อย่างเป็นรูปธรรม ดังจะเห็นได้จากแผนเฉพาะกิจปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต ที่ได้บูรณาการความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจจากสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม เจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่ทั่วประเทศ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมศุลกากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองทัพเรือ เพื่อตรวจสอบและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตามพื้นที่ที่คาดว่าอาจมีการกระทำผิด เช่น บริเวณตะเข็บชายแดน แหล่งชุมชน และสถานบริการ
นอกจากจะมาตรวจเยี่ยมกรมสรรพสามิตแล้วยังได้มอบนโยบายการปฏิบัติงานและการจัดเก็บภาษีของกระทรวงการคลังให้แก่คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพสามิต ดังนี้ 1. มุ่งเน้นการบริหารการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตให้เป็นไปตามเป้าหมาย ควบคู่กับการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษี รวมทั้งการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้แก่ ผู้ที่เสียภาษีโดยสุจริต โดยในปีงบประมาณ 2556 กระทรวงการคลังมอบหมายให้กรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้ภาษีจำนวน 412,000 ล้านบาท
2. ให้บริการประชาชนและผู้ขอใช้สิทธิ์ตามโครงการรถคันแรก ซึ่งตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2554 จนถึงขณะนี้มีผู้มาลงทะเบียนยื่นขอใช้สิทธิ์รถคันแรก จำนวน 579,987 ราย คิดเป็นเงินจำนวน 42,847 ล้านบาท 3. ปรับปรุงระบบการจัดเก็บภาษี ระบบการตรวจสอบ และระบบการควบคุมสินค้าที่อยู่ในความรับผิดชอบให้รัดกุมและมีมาตรฐาน โดยนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษี
นายสมชายกล่าวว่าในปีงบประมาณ 2555 กรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บภาษีได้รวม 3.79 แสนล้านบาท โดยสินค้าที่จัดเก็บได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ภาษีรถยนต์ จัดเก็บได้สูงสุด จำนวน 1.17 แสนล้านบาท 2.ภาษีเบียร์ จัดเก็บได้จำนวน 6.48 หมื่นล้านบาท 3.ภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จำนวน 6.1 หมื่นล้านบาท 4.ภาษียาสูบ จัดเก็บได้จำนวน 5.99 หมื่นล้านบาท และ 5.ภาษีสุรา จัดเก็บได้จำนวน 5.34 หมื่นล้านบาท.
"ตัน"ชี้เก็บภาษีชาเขียวราคาขึ้น
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด กล่าวให้ความเห็นว่า ปัจจุบัน ชาเขียวและ กาแฟ เป็นพืชเศรษฐกิจที่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรเพาะปลูก หากรัฐบาลมีนโยบายให้จัดเก็บภาษีเครื่องดื่มชาเขียว และกาแฟ ซึ่งเป็นสินค้าในกลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ จะส่งผลต่อการแข่งขันของเกษตรกรผู้เพาะปลูก และผู้ประกอบการเครื่องดื่มชาเขียวและกาแฟ ภายหลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
"การจัดเก็บภาษีดังกล่าวเรียกได้ว่าเป็นภาษีบาป เนื่องจากเดิมทีกรมสรรพสามิตรเองก็ได้จัดเก็บภาษีธุรกิจตั้งแต่ต้นนำจนถึงปลายน้ำอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลมีการจัดเก็บภาษีจริงก็พร้อมดำเนินการตามนโยบายรัฐ"
สำหรับผลกระทบที่จะเกิดต่อธุรกิจชาเชียวและกาแฟนั้น ส่วนตัวเห็นว่าหากรัฐบาลมีการจัดเก็บภาษีจริง ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการมากนัก แต่จะกระทบต่อเกษตรกรผู้เพาะปลูกชา กาแฟมากกว่า ส่วนในด้านราคาขายเครื่องดื่มชาเขียวนั้น ยังไม่ทราบว่าจะได้รับผลกระทบมากน้อยเท่าไหร่ แต่เชื่อว่าในด้านของยอดขายนั้นในระยะสั้นอาจจะได้รับผลกระทบบ้าง
"อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัวแล้ว เห็นว่าการจัดเก็บภาษีดังกล่าวนั้นไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลเคยมีนโยบายในการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มชาเขียวและกาแฟมาแล้วแต่ที่ผ่านมาเรื่องก็เงียบหายไป"
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายได้ เดินทางตรวจเยี่ยมกรมสรรพสามิต พร้อมมอบนโยบายการปฏิบัติงานและการจัดเก็บภาษีของกระทรวงการคลังให้แก่คณะผู้บริหารของกรมสรรพสามิต โดยมี นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ นายรังสรรค์ ได้มอบนโยบายกรมสรรพสามิตวิเคราะห์การเก็บภาษีเครื่องดื่มชาเขียว และเครื่องดื่มอีกหลายชนิดที่อยู่ในตู้แช่ของร้านสะดวกซื้อ โดยตรวจสอบว่า มีส่วนผสมเข้าข่ายที่ต้องเสียภาษีกรมสรรพสามิตหรือไม่
"น้ำชาต่างๆ ไม่ได้ใช้ใบชาอย่างเดียวมีส่วนผสมอื่นด้วย ที่ต้องไปวิเคราะห์ดูว่าต้องเสียภาษีสรรพสามิตหรือไม่ รวมถึงเครื่องดื่มบำรุงสมอง และเครื่องดื่มรังนกต่างๆ ด้วย"
นายสมชายยกตัวอย่างว่า เกณฑ์การเก็บภาษีเครื่องดื่มจะกำหนดว่าต้องมีส่วนผสมพืชผลทางการเกษตรจำนวนเท่าไรถึงได้รับการยกเว้นภาษี เช่น น้ำผลไม้ส่วนใหญ่ได้รับการยกเว้นภาษี เพราะมีส่วนผสมพืชผลทางการเกษตรได้ตามเกณฑ์ เป็นการปกป้องผู้บริโภคไม่ให้ผู้ประกอบการเอาเปรียบนำน้ำผสมน้ำตาลมาขาย สำหรับปัจจุบันเครื่องดื่มที่เสียภาษีสรรพาสามิต ได้แก่ น้ำอัดลม น้ำโซดา และเครื่องดื่มชูกำลัง
นายรังสรรค์ กล่าวว่า กรมสรรพสามิตว่าเป็นหน่วยงานที่มีศักยภาพด้านการจัดเก็บภาษีและมีการบูรณาการความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ด้านการป้องกัน และปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตได้อย่างเป็นรูปธรรม ดังจะเห็นได้จากแผนเฉพาะกิจปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต ที่ได้บูรณาการความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจจากสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม เจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่ทั่วประเทศ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมศุลกากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองทัพเรือ เพื่อตรวจสอบและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตามพื้นที่ที่คาดว่าอาจมีการกระทำผิด เช่น บริเวณตะเข็บชายแดน แหล่งชุมชน และสถานบริการ
นอกจากจะมาตรวจเยี่ยมกรมสรรพสามิตแล้วยังได้มอบนโยบายการปฏิบัติงานและการจัดเก็บภาษีของกระทรวงการคลังให้แก่คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพสามิต ดังนี้ 1. มุ่งเน้นการบริหารการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตให้เป็นไปตามเป้าหมาย ควบคู่กับการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษี รวมทั้งการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้แก่ ผู้ที่เสียภาษีโดยสุจริต โดยในปีงบประมาณ 2556 กระทรวงการคลังมอบหมายให้กรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้ภาษีจำนวน 412,000 ล้านบาท
2. ให้บริการประชาชนและผู้ขอใช้สิทธิ์ตามโครงการรถคันแรก ซึ่งตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2554 จนถึงขณะนี้มีผู้มาลงทะเบียนยื่นขอใช้สิทธิ์รถคันแรก จำนวน 579,987 ราย คิดเป็นเงินจำนวน 42,847 ล้านบาท 3. ปรับปรุงระบบการจัดเก็บภาษี ระบบการตรวจสอบ และระบบการควบคุมสินค้าที่อยู่ในความรับผิดชอบให้รัดกุมและมีมาตรฐาน โดยนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษี
นายสมชายกล่าวว่าในปีงบประมาณ 2555 กรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บภาษีได้รวม 3.79 แสนล้านบาท โดยสินค้าที่จัดเก็บได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ภาษีรถยนต์ จัดเก็บได้สูงสุด จำนวน 1.17 แสนล้านบาท 2.ภาษีเบียร์ จัดเก็บได้จำนวน 6.48 หมื่นล้านบาท 3.ภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จำนวน 6.1 หมื่นล้านบาท 4.ภาษียาสูบ จัดเก็บได้จำนวน 5.99 หมื่นล้านบาท และ 5.ภาษีสุรา จัดเก็บได้จำนวน 5.34 หมื่นล้านบาท.
"ตัน"ชี้เก็บภาษีชาเขียวราคาขึ้น
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด กล่าวให้ความเห็นว่า ปัจจุบัน ชาเขียวและ กาแฟ เป็นพืชเศรษฐกิจที่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรเพาะปลูก หากรัฐบาลมีนโยบายให้จัดเก็บภาษีเครื่องดื่มชาเขียว และกาแฟ ซึ่งเป็นสินค้าในกลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ จะส่งผลต่อการแข่งขันของเกษตรกรผู้เพาะปลูก และผู้ประกอบการเครื่องดื่มชาเขียวและกาแฟ ภายหลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
"การจัดเก็บภาษีดังกล่าวเรียกได้ว่าเป็นภาษีบาป เนื่องจากเดิมทีกรมสรรพสามิตรเองก็ได้จัดเก็บภาษีธุรกิจตั้งแต่ต้นนำจนถึงปลายน้ำอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลมีการจัดเก็บภาษีจริงก็พร้อมดำเนินการตามนโยบายรัฐ"
สำหรับผลกระทบที่จะเกิดต่อธุรกิจชาเชียวและกาแฟนั้น ส่วนตัวเห็นว่าหากรัฐบาลมีการจัดเก็บภาษีจริง ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการมากนัก แต่จะกระทบต่อเกษตรกรผู้เพาะปลูกชา กาแฟมากกว่า ส่วนในด้านราคาขายเครื่องดื่มชาเขียวนั้น ยังไม่ทราบว่าจะได้รับผลกระทบมากน้อยเท่าไหร่ แต่เชื่อว่าในด้านของยอดขายนั้นในระยะสั้นอาจจะได้รับผลกระทบบ้าง
"อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัวแล้ว เห็นว่าการจัดเก็บภาษีดังกล่าวนั้นไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลเคยมีนโยบายในการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มชาเขียวและกาแฟมาแล้วแต่ที่ผ่านมาเรื่องก็เงียบหายไป"