โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
หลังจากพยายามรักษาฟอร์ม ควบคุมอาการใกล้สติแตก ปล่อยข่าวลือ ข่มขู่คุกคาม เขย่าขวัญ “เสธ.อ้าย” และเครือข่ายมวลชนนาน กว่า 2 สัปดาห์ โชว์ความปากกล้า ขาแอบสั่นในกลุ่มชี้ข้าบักเหลี่ยมเร่ร่อน ในที่สุด ก็เอาไม่อยู่จนได้
คณะรัฐมนตรีชุดเฉพาะกิจจึงประกาศ พรบ. ความมั่นคง บังคับใช้ 3 เขต ช่วง วันที่ 22-30 เมื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสภาความมั่นคง ลงความเห็นว่าสถานการณ์ม็อบ “เสธ.อ้าย” น่าจะเกินกว่าจะใช้กฎหมายปกติจัดการได้
แม่นางโพยปูโพรกเน่าในออกชี้แจงผ่านทีวีพูล คืนวันพฤหัส อ้างถึงเหตุผลและความจำเป็น หลังจากแม่เจ้าประคุณวีนแตกในกลุ่มคนแวดล้อมใกล้ชิด เมื่อภาพคลิปฉาวยังคงแพร่กระจายในเว็บต่างๆ ทำให้คนไทยต้องเอาปี๊บคลุมประเทศ
เป็นประวัติศาสตร์การเมืองโลก เมื่อผู้นำ 2 ชาติเล่นหูเล่นตาส่อแววหื่นกระหายอย่างน่าเกลียด! “แม่ยั่วเมือง” ไม่รู้จะโทษใคร ลูกน้องเข้าหน้าแทบไม่ติด! แต่ทำอย่างไรได้ เมื่อตัวเองทำเอง ตัวตนแท้จริงแสดงออก ไม่มีใครบังคับให้ทำ
สายตาส่อความปรารถนาอย่างแรงกล้า ไม่ใช่เฉพาะคนไทยรู้สึกอัปยศอดสูเท่านั้น สื่อต่างประเทศเล่นหนักข้อ แพร่กระจายทั้งในสหรัฐฯ ยุโรป และเอเซีย! ป่านนี้บารัค โอบามา จะอธิบายให้ยายมิเชลเข้าใจได้หรือไม่ เมื่อภาพถ่ายมันฟ้อง
ด้วยเหตุนี้ พ.ร.บ. ความมั่นคง จึงเป็นลูกเล่นภาคบังคับให้นำมาใช้ เพื่อหักเหความสนใจของชาวบ้านจากเรื่องฉาวออกแนวคาวโลกีย์ มาเข้าเรื่องการวางแผนควบคุมม็อบ เสธ. อ้าย ด้วยการระดมกำลังพล ทรัพยากรทุกหน่วยงานเต็มบ้อง
เป็นการระดมกำลังตำรวจมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของหน่วยงานนี้ เห็นภาพตำรวจเดินแถว เข้ารับน้ำมนต์จากพระสงฆ์อวยชัยให้พร ทำให้คนสงสัยว่า ตำรวจไทยใจกล้าหน้าสู้ทุกอย่าง จะไปรบทัพจับศึกกับอริราชศัตรูที่ไหนไม่ทราบ
อ๋อ! พวกตำรวจท่านยกทัพโยธา เหมารถบัส รถตู้ ไปควบคุมมวลชนคนเสียภาษีจ่ายเงินเดือนให้ตำรวจ ซื้อมอเตอร์ไซด์ เบี้ยเลี้ยง บำนาญ สร้างสำนักงานให้อยู่ ติดแอร์ให้เสร็จเรียบร้อย! ตั้งด่านตรวจถี่ยิบทั่วประเทศ สกัดกั้นการใช้สิทธิทางการเมืองของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย ภายไต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ
ก็สมัยเสื้อแดงเผาบ้าน เผาเมือง เผาห้างเซ็นทรัล โรงภาพยนต์สยาม อยู่ติดกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติแท้ๆ ยังไม่มีตำรวจหน้าไหนโผล่หัวไปรักษากฎหมาย แถมยังปล่อยให้คนเสื้อแดงชุดดำมีอาวุธสงครามเดินกร่างเต็มวัดปทุมฯ ฆ่าคน!
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นองค์กรไม่ได้รับความน่าเชื่อถือของวิญญูชนอีกต่อไปแล้ว ภาพลักษณ์ตกต่ำ ได้ฉายาว่าเป็นตำรวจมะเขือเทศ แตงโม เป็นพวกเดียวกับเสื้อแดง เผาบ้านเผา เมือง ขบวนการขี้ข้าบักเหลี่ยมอดีตตำรวจคนหนีคุก
ตั้งแต่อยู่ภายได้การสั่งงานของ “บักเหลิม” ซึ่งสารภาพอย่างหน้าชื่นตาบานว่าเป็นขี้ข้าบักเหลี่ยมเร่ร่อนมานานแล้ว สำนักงานตำรวจถูกมองว่ารับใช้การเมืองเต็มที่ ตามคำสั่งบักเหลิม “ตำรวจต้องวางตัวเป็นกลาง แต่เข้าข้างพรรคเพื่อไทย”
น่าจะกินเงินเดือนจากพรรคเพื่อไทย ไม่ต้องเป็นภาระเงินภาษีชาวบ้าน!
เมื่อประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ตั้งด่านสกัด ส่งทีมไปสอบถามคุกคามผู้นำมวลชนในต่างจังหวัด ทำทุกอย่างหมิ่นเหม่ต่อการละเมิดกฎหมาย ละเมิดสิทธิประชาชน คงนึกว่าจะสกัดไม่ให้มวลชนต่อต้านรัฐบาลเข้ามากรุงเทพฯ ได้สำเร็จ
ระวังเถอะ! ถ้าชาวบ้านเดินทางไม่ได้ ก็จอดรถ นั่งขวางถนน ส่งผลให้การจราจรชะงักทั่วประเทศ การขนส่งสินค้าต้องหยุดนิ่ง เป็นอัมพาต!
มาตรการต่างๆ จึงเป็นการสร้างความคับแค้นใจให้ชาวบ้าน ช่วยกระตุ้นเรียกแขกให้เข้าร่วมกับม็อบ “เสธ.อ้าย” เพราะการใช้ พ.ร.บ. ความมั่นคงฟ้องให้เห็นความไม่มั่นคงของรัฐบาลปูโพรกเน่าใน หวาดผวา กินไม่ได้นอนไม่หลับ
เครือข่าย 3 ตระกูลโกงทั้งโคตร พวกมีชะนักปักหลัง พฤติกรรมกังฉินกินเมือง รีบเร่งอพยพจากที่บ้าน สถานที่อยู่อาศัยตามปกติ ไปหลบในที่ปลอดภัย ถ้าเห็นท่าไม่ดี เกิดวิกฤตลุกลามใหญ่โต จะได้รีบหนีตายไปลี้ภัยต่างประเทศ
การชุมนุมของม็อบ เสธ.อ้าย ได้เห็นพฤติกรรม แผนสกปรกของขบวนการเสื้อแดง และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งใช้ข่าวลือ การปล่อยข่าวใส่ร้ายป้ายสีต่างๆ กลุ่มคนเสื้อแดงเริ่มแสดงความโหดถ่อยเถื่อน ข่มขู่ใช้กำลังแดงเทียมก่อความรุนแรง
“เสธ.อ้าย” ยังคงเดินหน้าป่าวร้องเรียกมวลชนให้ออกมาขับไล่นักการเมืองทรราชกังฉินขายชาติยึดกุมอำนาจโกงบ้านกินเมืองอย่างเป็นขบวนการภายไต้การนำของบักเหลี่ยมร้าย รู้ดีว่าถ้าปล่อยไว้บ้านเมืองเสี่ยงต่อพินาศฉิบหายวายวอด
ยิ่งศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าการชุมนุมของม็อบ “เสธ.อ้าย” ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ก็เหมือนได้ลมส่งท้าย ลมไต้ปีก มวลชนได้เฮ! แต่พวกทนายหน้าหอ นักร้องเรียนอาชีพขี้ข้าบักเหลี่ยมหน้าแหก หมดโอกาสวางบิล เอาเงิน เอาหน้า!!
พวกกากเดนเสื้อแดงรู้ตัวดีว่าจะทำกร่างซ่าออกมาขัดขวาง เผชิญหน้ากับม็อบเสธ.อ้ายไม่ได้ ถ้ามีเหตุปะทะกัน จะเป็นเหตุเกิดภาวะแทรกซ้อน! พรบ. ความมั่นคงจะเอาไม่อยู่ ลามไปถึงขั้นการประกาศกฎอัยการศึกให้เป็นอำนาจของทหาร
ถึงเวลานั้น สถานการณ์จะทำให้ทหารรักชาติต้องเลือกว่าจะเอาหัวหน้าขี้ข้ากินเงินบักเหลี่ยม หรือยืนอยู่ข้างประชาชนผู้รักชาติ รักษาบ้านเมืองไม่ให้พินาศ
“เสธ.อ้าย” ต้องเร่งประกาศกระตุ้นมวลชน ถ้าไล่นักการเมืองกังฉินออกไป มีกฎหมายปิโตรเลียมฉบับใหม่ คนไทยจะได้ใช้น้ำมัน ไฟฟ้า ก๊าซ ค่าขนส่ง ถูกลง! ค่าครองชีพจะลด ปัญหาการทูจริต คอรัปชั่น จะต้องถูกจัดการอย่างเด็ดขาด
การต่อสู้ของ “เสธ.อ้าย” ครั้งนี้เป็นการเดิมพันชีวิตตัวเอง เพื่อความอยู่รอดของบ้านเมือง! รู้ดีว่าถ้าเอารัฐบาลไม่อยู่ โดนเล่นงานในข้อหาพยายามก่อกบฎแน่! อย่างที่ประกาศไว้ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องไป “มึงไปกูอยู่ มึงอยู่กูไป”
แต่ละฝ่ายจะไปไหน ยังไม่มีใครรู้ เมื่อการศึกครั้งนี้ยังไม่จบ! ดังนั้น ประชาชนผู้รักชาติไม่ควรขาดการมีส่วนร่วมสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ เป็นโอกาสสำคัญ หักเหทิศทางของบ้านเมืองจากการมุ่งหน้าสู่หุบเหวหายนะสู่โอกาสใหม่
เป็นการเปลี่ยนโครงสร้าง ทลายฐานอำนาจของเครือข่ายบักเหลี่ยม แช่เย็นนักการเมืองชั่ว ระบบเลือกตั้งซื้อเสียง ปฏิรูปประเทศเพื่ออนาคตมั่นคง! โอกาสแบบนี้มีไม่บ่อยนัก และการต่อสู้มีเป้าหมายเดียว “ต้องชนะ” ให้ได้!
ต้องรู้ด้วยว่าไม่ง่าย! ไม่อย่างนั้นคนอื่นทำไปแล้ว ต้องอาศัยมวลชนขนาดใหญ่ ตามที่ “เสธ.อ้าย” ขอให้ออกมา 1 ล้านคน! แต่ 5 แสนคน ก็น่าจะเอาอยู่นะ!