ASTVผู้จัดการรายวัน - กบร.เห็นชอบค่าบริการคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า ไม่เกินหัวละ 50 บาท สั่งบพ.หารือสายการบินไม่คัดค้านเดินหน้าประมูล คาดเริ่มใช้กลางปี 56 ตีกลับ บวท.ขอเก็บค่านำร่องเครื่องบิน
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) วานนี้(19 พ.ย.) ว่า ที่ประชุมอนุมัติกรอบอัตราค่าธรรมเนียมข้อมูลตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) ที่เพดานสูงสุด 50 บาทต่อคนต่อเที่ยว ตามที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท.เสนอโดยปรับลดลงจากข้อเสนอเดิม 90 บาทต่อคนต่อเที่ยว โดยได้มอบหมายให้กรมการบินพลเรือน (บพ.) ประชุมเพื่อสอบถามความเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stake holder) คือ สายการบินต่างๆ ภายใน 2 สัปดาห์ หากไม่มีข้อค้านค้านก็จะดำเนินการประกวดราคาโดยเปิดให้มีการแข่งขันอย่างเต็มที่ ให้แล้วเสร็จใน 6 เดือนซึ่งพบว่าขณะนี้ทั่วโลกมี 2 ราย คาดว่าจะเริ่มใช้ได้ประมาณกลางปี 2556
“ระบบ APPS จำเป็นต้องเร่งติดตั้ง เพราะนอกจากจะเพิ่มเรื่องความมั่นคงและความปลอดภัยจากการส่งข้อมูลผู้โดยสารให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบล่วงหน้าก่อนแล้ว ยังทำให้การเข้าออกสนามบินรวดเร็วขึ้นด้วย แต่ประเด็นคือไม่มีใครรู้ต้นทุนจริง ถ้ามีสายการบินคัดค้านต้องหยุดและเสนอ กบร.ใหม่”
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เร่งการออกใบอนุญาตให้ผู้จัดการ(ผู้อำนวยการ) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้เรียบร้อยภายใน 3 เดือน เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ยังไม่ครบ ทำให้บพ.ยังไม่ออกใบอนุญาตให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
โดยผู้จัดการสนามบินจะต้องมีความรู้เช่น การบริหารจัดการ ความปลอดภัย และมีประสบการณ์ในการบริหารสนามบินไม่น้อยกว่า 5 ปี และผ่านการสอบด้วย ส่วนข้อเสนอของ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) จำกัด ที่ขอเป็บค่าบริการอากาศยาน (นำร่อง) เครื่องบินเล็ก และเครื่องฝึกบิน ที่ประชุมยังไม่เห็นด้วย เนื่องจากมีรายได้เพียง 8 ล้านบาทต่อปี ถือว่าไม่มากแต่การเก็บค่าบริการจะเป็นอุปสรรคในการเป็นศูนย์กลางการบินของไทย
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) วานนี้(19 พ.ย.) ว่า ที่ประชุมอนุมัติกรอบอัตราค่าธรรมเนียมข้อมูลตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) ที่เพดานสูงสุด 50 บาทต่อคนต่อเที่ยว ตามที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท.เสนอโดยปรับลดลงจากข้อเสนอเดิม 90 บาทต่อคนต่อเที่ยว โดยได้มอบหมายให้กรมการบินพลเรือน (บพ.) ประชุมเพื่อสอบถามความเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stake holder) คือ สายการบินต่างๆ ภายใน 2 สัปดาห์ หากไม่มีข้อค้านค้านก็จะดำเนินการประกวดราคาโดยเปิดให้มีการแข่งขันอย่างเต็มที่ ให้แล้วเสร็จใน 6 เดือนซึ่งพบว่าขณะนี้ทั่วโลกมี 2 ราย คาดว่าจะเริ่มใช้ได้ประมาณกลางปี 2556
“ระบบ APPS จำเป็นต้องเร่งติดตั้ง เพราะนอกจากจะเพิ่มเรื่องความมั่นคงและความปลอดภัยจากการส่งข้อมูลผู้โดยสารให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบล่วงหน้าก่อนแล้ว ยังทำให้การเข้าออกสนามบินรวดเร็วขึ้นด้วย แต่ประเด็นคือไม่มีใครรู้ต้นทุนจริง ถ้ามีสายการบินคัดค้านต้องหยุดและเสนอ กบร.ใหม่”
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เร่งการออกใบอนุญาตให้ผู้จัดการ(ผู้อำนวยการ) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้เรียบร้อยภายใน 3 เดือน เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ยังไม่ครบ ทำให้บพ.ยังไม่ออกใบอนุญาตให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
โดยผู้จัดการสนามบินจะต้องมีความรู้เช่น การบริหารจัดการ ความปลอดภัย และมีประสบการณ์ในการบริหารสนามบินไม่น้อยกว่า 5 ปี และผ่านการสอบด้วย ส่วนข้อเสนอของ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) จำกัด ที่ขอเป็บค่าบริการอากาศยาน (นำร่อง) เครื่องบินเล็ก และเครื่องฝึกบิน ที่ประชุมยังไม่เห็นด้วย เนื่องจากมีรายได้เพียง 8 ล้านบาทต่อปี ถือว่าไม่มากแต่การเก็บค่าบริการจะเป็นอุปสรรคในการเป็นศูนย์กลางการบินของไทย
