ผู้จัดการรายวัน - บริษัทวิศวกรที่ปรึกษา “ไมนฮาร์ท” ขยายธุรกิจรับ AEC เปิดสาขาในพม่าชี้โอกาสเติบโตสูงหลังเปิดประเทศ ล่าสุดรับออกแบบ 3-4 โครงการ มูลค่างานกว่า 2,000 ล้านบาท พร้อมเผยอินโดนีเซียมีโอกาสเติบโตสูงที่สุดในภูมิภาค
นายจอห์น แอนเดอร์สัน กรรมการ บริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทรับออกแบบทางวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมแบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 20 ปี เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดสาขาในกรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า เพื่อรองรับงานออกแบบด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม เนื่องจากเล็งเห็นว่าเป็นประเทศที่ขยายตัวทางเศรษฐกิจสูง หากเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะการพัฒนาประเทศเพื่อรองรับการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน
“พม่าเป็นประเทศที่นักลงทุนจากทั่วโลกให้ความสนใจที่จะเข้าไปลงทุน ซึ่งเชื่อว่าจะมีการก่อสร้างอาคารต่างๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันขาดแคลนและมีความต้องการสูงมาก ทั้ง โรงแรม อาคารสำนักงาน ที่พักอาศัย โรงงาน เป็นต้น ดังนั้นจึงถือเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าไปเปิดสาขาเพื่อให้บริการด้านออกแบบ วิศวกรรมและสถาปัตยกรรม”
ปัจจุบัน บริษัทรับงานออกแบบด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมแล้ว 3-4 โครงการมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท นับจากเปิดสาขาเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา อาทิ โครงการมิกส์ยูสขนาด 2 แสนตารางเมตร ซึ่งประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้า โรงแรมและอาคารสำนักงานในกลางกรุงย่างกุ้ง, การออกแบบงานระบบให้แก่รีสอร์ทหลายแห่งริมฝั่งแม่น้ำอิระวดี การบูรณะอาคารเก่าแก่หลายแห่งในพม่า เป็นต้น ”
อย่างไรก็ตาม นอกจากประเทศพม่าแล้ว อินโดนีเซียยังเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีโอกาสในการเติบโตมาก แม้ว่าในปัจจุบันมูลค่างานของบริษัทในอินโดนีเซียจะมีเพียง 10,000 ล้านบาท หรือครึ่งหนึ่งของประเทศไทยที่เฉลี่ยต่อปีจะรับงานประมาณ 40-50 โครงการ หรือมีมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท (บริษัทจะได้รับค่าบริการประมาณ 1.5% ของมูลค่างาน) แต่การที่อินโดนีเซียมีการขยายตัวของเศรษฐกิจที่สูงกว่า รวมไปถึงขนาดประเทศที่ใหญ่กว่า จึงทำให้มีโอกาสเติบโตได้สูงกว่าประเทศอื่น
อนึ่งไมนฮาร์ท เป็นบริษัทให้คำปรึกษาด้านวิศวกรรมก่อตั้งขึ้นที่ประเทศออสเตรเลียเมื่อปี 2498 ปัจจุบันมี 31 สาขา ใน 22 ประเทศ มีพนักงานกว่า 3,500 คน โดยในเอเชียแปซิฟิกมี 14 สาขา พม่าถือเป็นสาขาที่ 15 ของภูมิภาค โดยโครงการขนาดใหญ่ที่บริษัทรับออกแบบด้านวิศวกรรม ได้แก่ โรงงาน P&G , โรงแรมสยามแคมเปนสกี้, โรงแรมเซ็นรีจีส, ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา, ศูนย์การค้าเทอมินัล 21 รวมถึงห้าค้าปลีกชื้อดังในไทยอีกจำนวนมาก
นายจอห์น แอนเดอร์สัน กรรมการ บริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทรับออกแบบทางวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมแบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 20 ปี เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดสาขาในกรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า เพื่อรองรับงานออกแบบด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม เนื่องจากเล็งเห็นว่าเป็นประเทศที่ขยายตัวทางเศรษฐกิจสูง หากเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะการพัฒนาประเทศเพื่อรองรับการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน
“พม่าเป็นประเทศที่นักลงทุนจากทั่วโลกให้ความสนใจที่จะเข้าไปลงทุน ซึ่งเชื่อว่าจะมีการก่อสร้างอาคารต่างๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันขาดแคลนและมีความต้องการสูงมาก ทั้ง โรงแรม อาคารสำนักงาน ที่พักอาศัย โรงงาน เป็นต้น ดังนั้นจึงถือเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าไปเปิดสาขาเพื่อให้บริการด้านออกแบบ วิศวกรรมและสถาปัตยกรรม”
ปัจจุบัน บริษัทรับงานออกแบบด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมแล้ว 3-4 โครงการมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท นับจากเปิดสาขาเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา อาทิ โครงการมิกส์ยูสขนาด 2 แสนตารางเมตร ซึ่งประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้า โรงแรมและอาคารสำนักงานในกลางกรุงย่างกุ้ง, การออกแบบงานระบบให้แก่รีสอร์ทหลายแห่งริมฝั่งแม่น้ำอิระวดี การบูรณะอาคารเก่าแก่หลายแห่งในพม่า เป็นต้น ”
อย่างไรก็ตาม นอกจากประเทศพม่าแล้ว อินโดนีเซียยังเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีโอกาสในการเติบโตมาก แม้ว่าในปัจจุบันมูลค่างานของบริษัทในอินโดนีเซียจะมีเพียง 10,000 ล้านบาท หรือครึ่งหนึ่งของประเทศไทยที่เฉลี่ยต่อปีจะรับงานประมาณ 40-50 โครงการ หรือมีมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท (บริษัทจะได้รับค่าบริการประมาณ 1.5% ของมูลค่างาน) แต่การที่อินโดนีเซียมีการขยายตัวของเศรษฐกิจที่สูงกว่า รวมไปถึงขนาดประเทศที่ใหญ่กว่า จึงทำให้มีโอกาสเติบโตได้สูงกว่าประเทศอื่น
อนึ่งไมนฮาร์ท เป็นบริษัทให้คำปรึกษาด้านวิศวกรรมก่อตั้งขึ้นที่ประเทศออสเตรเลียเมื่อปี 2498 ปัจจุบันมี 31 สาขา ใน 22 ประเทศ มีพนักงานกว่า 3,500 คน โดยในเอเชียแปซิฟิกมี 14 สาขา พม่าถือเป็นสาขาที่ 15 ของภูมิภาค โดยโครงการขนาดใหญ่ที่บริษัทรับออกแบบด้านวิศวกรรม ได้แก่ โรงงาน P&G , โรงแรมสยามแคมเปนสกี้, โรงแรมเซ็นรีจีส, ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา, ศูนย์การค้าเทอมินัล 21 รวมถึงห้าค้าปลีกชื้อดังในไทยอีกจำนวนมาก
