xs
xsm
sm
md
lg

เปิดบ้านครอบครัวดุรงค์เดช พร้อมหน้าพ่อ-แม่ และลูก 5 บัณฑิตเกียรตินิยม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


>>บางคนอาจจะพบเห็นเธอตามหน้าสังคมในนิตยสารในฐานะเซเลบริตี้สาวที่มาแรงที่สุดคนหนึ่งของยุคนี้ บางคนอาจจะรู้จักเธอในฐานะพี่สาวคนสวยของ“ไข่มุก-ชุติมา” มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2552 แต่วันนี้คุณจะได้รู้จักกับ “เฟย์-อรชุมา ดุรงค์เดช” มากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะเวิร์กกิ้งวูแมนสาวสวยคนนี้จะพา Celeb Online ไปเปิดบ้านและแนะนำให้รู้จักสมาชิกในครอบครัวดุรงค์เดช พร้อมเผยให้เห็นหลากแง่มุมในชีวิตที่เชื่อได้ว่าคุณยังไม่เคยรู้ที่ไหนมาก่อน

สาวเก่งคนนี้มีคิวรัดตัว เพราะเธอทำงาน 7 วันเต็ม ดูแลทั้งกิจการครอบครัวโดยดำรงตำแหน่งเป็น รองกรรมการ บริษัท มาซูม่า ซึ่งเป็นผู้นำด้านธุรกิจน้ำในเมืองไทยมาเกือบ 20 ปี พร้อมเริ่มสร้างธุรกิจของตัวเอง ด้วยการก่อตั้ง บริษัท เอช ทู โอ ไฮโดร จำกัด บริษัทผู้นำเข้าน้ำแร่ธรรมชาติระดับพรีเมียม ไอซ์แลนด์สปริง จากไอซ์แลนด์ อีกทั้งยังช่วยดูแลกิจการดั้งเดิมของครอบครัวอย่างโรงรับจำนำที่ดำเนินการมากว่า 40 ปี และในระหว่างนี้ยังแบ่งเวลาไปร่วมงานสังคมต่างๆ ของบรรดาญาติมิตรอีกต่างหาก ซึ่งถ้าดูจากบัตรเชิญที่เธอได้รับในแต่ละวัน จะบอกว่า เฟย์-อรชุมา คือเซเลบริตี้สาวคิวทองที่สุดคนหนึ่งก็คงจะไม่ผิดนัก

:: ร่วมแรงแข็งขันสานต่อธุรกิจพันล้าน

ช่วงกลางระหว่างตารางอันแน่นขนัดของการประชุมในช่วงเช้าและนัดหมายสำคัญในช่วงเย็นของเฟย์ในศุกร์วันหนึ่ง จึงถือเป็นโชคดีที่ Celeb Online จะได้มีเวลานั่งพูดคุยกับเธอ ซึ่งที่พิเศษไปกว่านั้นคือไม่เพียงแต่สาวเฟย์จะเคลียร์คิวว่างได้ แต่สมาชิกของครอบครัวดุรงค์เดชยังสามารถจัดเวลามาให้เราสัมภาษณ์ได้อย่างพร้อมหน้าพร้อมตากัน ยกเว้นแต่เพียงพี่ชายคนโตที่ติดภารกิจสำคัญ

ในศาลากลางสวนสวยอันเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของบ้านดุรงค์เดชในวันนี้ จึงดูคึกคักกว่าบ่ายอื่นๆ ที่สมาชิกทั้งหลายต่างต้องวุ่นวายอยู่ในออฟฟิศของตนเอง โดยในกรณีของคุณพ่อและพี่ๆ ทั้ง 3 ออฟฟิศนั้น บริษัท มาซูม่า (ประเทศไทย) จำกัด ดูแลเรื่องระบบน้ำอย่างครบวงจร ตั้งแต่ผลิตสินค้าอย่างผลิตภัณฑ์เครื่องกรองน้ำ ปั๊มน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่น ตู้กดน้ำดื่ม ไปจนถึงการออกแบบระบบบำบัดน้ำเสียให้กับโครงการใหญ่ๆ อย่างโรงงานอุตสาหกรรมและโรงแรม ขณะที่ลูก 2 คนสุดท้องยังเป็นช่วงเวลาเก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงานนอกบ้านก่อนเข้ามาช่วยงานธุรกิจของครอบครัวในอนาคต

สาวเฟย์กล่าวว่า “ก่อนจะเข้ามาช่วยงานธุรกิจของครอบครัว คุณพ่อจะให้เราเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำงานกับบริษัทอื่นๆ ก่อน อย่างพี่ชายคนรองก็ร่วมงานกับ P&G อยู่หลายปี อย่างเฟย์ก็ทำด้านการเงินที่ธนาคารในต่างประเทศ ตอนนี้น้อง 2 คนยังอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวความรู้ก่อนเข้ามาช่วยงาน”

“ลูกแต่ละคนของบ้านนี้จะถนัดกันไปคนละทาง แบ่งงานกันดูแลได้อย่างครอบคลุม โดยลูกชายคนโตจะคุมออฟฟิศ ดูเรื่องบริหาร คนรองเขาจบทางวิศวะ ก็ดูโรงงานการผลิต พัฒนาระบบต่างๆ เฟย์เขาเรียนมาทางไฟแนนซ์ ก็จะดูด้านการเงินและการบัญชี ส่วน 2 คนเล็กนี่ ดูว่าไข่มุกเขาสนใจเรื่องการตลาด และมิค ลูกชายคนเล็ก ถนัดพวกคอมพิวเตอร์” คุณแม่เพชรา กล่าวเสริม

พอได้ยินคุณแม่พูดถึงตัวเอง หนุ่มมิคเลยช่วยขยายความต่อว่า “ผมจบทาง Computer Science และทำงานอยู่บริษัทให้คำปรึกษาด้านไอที ช่วยพัฒนาระบบให้กับองค์กรต่างๆ ก็คงเข้ามาช่วยเรื่องระบบโปรแกรม ตอนนี้ก็มองๆ ไว้ว่า ทางธุรกิจเรายังต้องพัฒนาพวกระบบโลจิสติกส์ หรือพวก Supply Chain ซึ่งเป็นหัวข้อที่ผมก็ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์ ก็เลยตั้งใจว่าจะหางานทำในด้านนี้ให้มากขึ้นเพื่อเรียนรู้สิ่งที่จำเป็นจะนำมาปรับใช้ในธุรกิจเราได้ โดยตั้งเป้าไว้ว่าในอีก 2-3 ปีก็จะเข้ามาช่วยงานที่บ้านเต็มตัว”

เห็นเส้นทางการทำงานแต่ละคนล้วนแต่จะมาบรรจบกันที่ธุรกิจของครอบครัว โดยแต่ละคนก็เก่งกาจกันไปคนละทาง ทำให้เราแอบอดสงสัยไม่ได้ว่าเป็นการวางแผนระยะยาวของคุณพ่อ คุณแม่หรือเปล่าที่ส่งให้ทุกคนไปเรียนรู้แตกต่างสาขาเพื่อมารับช่วงต่อกิจการ

วฤธ ดุรงค์เดช หรือ วิน ลูกชายคนรอง รีบไขข้อข้องใจให้ฟังว่า “ที่บ้านไม่เคยบังคับว่าต้องเรียนอะไร แต่ลูกๆ ทุกคนเลือกชอบในสายอาชีพที่ต่างกันเอง และการเข้ามาทำธุรกิจของครอบครัว เขาก็ให้อิสระเราเลือก แต่ลูกๆ ทุกคนก็โตมากับกิจการนี้ เห็นคุณพ่อลงมือสร้างมันขึ้นมา เราต่างก็อยากสานต่อให้เจริญขึ้นไปเรื่อยๆ”

ธุรกิจหลักแต่ดั้งเดิมของครอบครัวนี้คือ กิจการโรงรับจำนำ ซึ่งทำมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ ก่อนจะตกทอดมาถึงรุ่นหลานในปัจจุบัน โดยในรุ่นคุณพ่อฤทธิชัย ก็ได้ขยับขยายมาทำธุรกิจเพิ่มเติมเกี่ยวกับน้ำ โดยเริ่มจากเมื่อก่อตั้งบริษัท มาซูม่า ตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน นับเป็นบริษัทสัญชาติไทยบริษัทแรกๆ ที่เข้ามาทำในธุรกิจนี้

“สมัยก่อนนั้น เรื่องน้ำเป็นเรื่องที่ไม่มีใครสนใจ แต่ผมมองว่ามันสำคัญ ในช่วงแรกก็ลำบากเหมือนกัน ต้องให้ความรู้กันเยอะ ว่าทำไมต้องมีเครื่องกรองน้ำ อย่างเครื่องทำน้ำอุ่นคนก็รู้สึกว่าไม่จำเป็น ต้องอาศัยทีมขายดีๆ ค่อยให้ข้อมูล แต่แม้จะเริ่มต้นได้อย่างยากลำบาก เพราะเราหันมาจับก่อนคนอื่นเขาเยอะ แต่พอมาในภายหลังผลตอบแทนก็คุ้มค่าเพราะมาถึงในยุคที่คนหันมาสนใจในเรื่องนี้ เราก็ได้เปรียบคนอื่นแล้ว เพราะเราวางรากฐานมานานแล้ว” คุณฤทธิชัยผู้เป็นพ่อเล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นของธุรกิจระดับพันล้าน


:: คำสอนของพ่อสร้าง 5 บัณฑิตเกียรตินิยม

นอกจากทุกคนจะเก่งกันไปคนละสาขาแล้ว ลูกทุกคนของบ้านนี้ต่างเรียนจบระดับปริญญาโทจากสถาบันการศึกษาชั้นนำในต่างแดนทั้งสิ้น แถมลูกสาวคนเล็ก “ไข่มุก” ก็กำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยิ่งไปกว่านั้นคือพี่น้องทั้ง 5 ของบ้านดุรงค์เดช ต่างสำเร็จการศึกษาด้วยผลการเรียนระดับเกียรตินิยมกันมาทั่วหน้า โดยที่พี่น้องทุกคนพร้อมใจกันบอกว่าที่บ้านไม่เคยบังคับว่าต้องเรียนถึงระดับไหน หรือต้องสอบได้เกรดเท่าไร

แม่ : ลูกๆ ทุกคนเป็นเด็กน่ารัก เขาขยัน ตั้งใจเรียน และไม่เคยทำอะไรให้เราต้องเป็นห่วง อย่างวินนี่เขาก็ได้เป็นนักเรียนทุนของ MIT ส่วนเฟย์นี่ก็เรียนดีได้เกรด 4 ทุกวิชาตั้งแต่เล็กจนโต ถึงตอนจบไฮสคูลได้ที่ 1 ของโรงเรียน จนมีป้ายติดประกาศเกียรติคุณ ทั้งที่แม่ไม่เคยดุ หรือเคี่ยวเข็ญให้เรียนแต่อย่างใด แต่เหมือนน้องๆ เขาเห็นพี่ทำไว้ดี เห็นพี่ขยัน เขาก็ทำตามกัน

วิน : คุณพ่อคุณแม่จะปลูกฝังให้มีระเบียบวินัย รู้จักรับผิดชอบในหน้าที่ตั้งแต่เล็กๆ ทำให้ลูกทุกคนทำหน้าที่นักเรียนได้ดี ตั้งใจเรียนเต็มที่ ผลการเรียนจึงออกมาได้ดี โดยที่ท่านไม่ได้บังคับว่าต้องเรียนได้เท่าไร ท่านขอให้แค่เป็นคนดี อย่าทำผิดกฏหมาย ไม่ข้องเกี่ยวอบายมุข และขอให้ทำทุกอย่างเต็มที่

ไข่มุก : มุกจำได้เลยว่า คุณพ่อจะสอนให้เราวางแผนในชีวิตว่าในแต่ละวันจะต้องทำอะไรบ้าง ตั้งแต่มุกอายุแค่ 5 ขวบ ทุกเช้าท่านจะให้เขียนเลยว่าวันนี้เวลาไหนจะทำอะไร ไม่ใช่ว่าบังคับให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้นะ เราสามารถทำอะไรก็ได้แต่ต้องเขียนลงไป ถ้าอยากดูโทรทัศน์ก็เขียนเลยจะดูกี่โมงถึงกี่โมง หลังจากนั้นจะทำอะไร ซึ่งตอนยังเด็กเราก็ไม่เข้าใจว่าจะทำไปทำไม อย่างดูเซเลอร์มูนต้องเขียนด้วยเหรอ  แต่พอโตถึงจะเข้าใจว่า การสอนแบบนั้นมันสำคัญมาก เพราะเป็นการฝึกให้เราได้คิดว่าวันนี้จะทำอะไรบ้าง รู้ว่าควรทำอะไร ไม่ใช่อยู่เฉยไปวันๆ ซึ่งตอนเด็กเราเขียนไปแล้วทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ท่านไม่เคยว่า ท่านแค่อยากให้เรามีแผนที่ชีวิต

พ่อ : เขียนแล้วทำไม่ได้ พ่อไม่ดุนะ แต่จะบอกเขาว่าวันนี้ทำไม่ได้ พรุ่งนี้เอาใหม่ ทำให้ได้อย่างที่เขียน เพราะพ่อมองว่ามันก็เหมือนเวลาไปเรียนเรามีตารางสอน นี่มันก็คือตารางชีวิตที่ทำให้เรามีจุดหมาย


เฟย์ : ไม่ใช่แค่เราเขียนนะคะ คุณพ่อท่านก็เขียนตารางชีวิตเหมือนกันทุกวัน และที่สำคัญคือท่านทำได้อย่างที่เขียนตามตารางเป๊ะ กิจวัตรของท่านคือตื่นตั้งแต่ตีสี่ ไปวิ่งออกกำลังกาย กลับมากินข้าวที่บ้าน และเข้าออฟฟิศตอน 8 โมง ทำงาน กลับบ้าน เข้านอนตอน 1 ทุ่มตรง ท่านทำอย่างนี้ทุกวัน

ไข่มุก : การสอนของพ่อจะเป็นการคุยกันอย่างมีเหตุผล และทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง ไม่มีการดุว่า ตี หรือ บังคับ ท่านจะให้คำแนะนำ คำปรึกษาและให้อิสระในการตัดสินใจเราอย่างเต็มที่

เฟย์ : เฟย์ว่าที่เราพี่น้องทุกคนตั้งใจเรียน เป็นลูกที่ดี นั่นเพราะเราเห็นคุณพ่อคุณแม่เป็นตัวอย่าง ท่านทำงานหนักมาก คุณพ่อเป็นคนตั้งใจทำงานมาก แต่ถึงเขาเหนื่อยขนาดไหนเขาไม่เคยอยากได้อะไรให้ตัวเองนะ มีอะไรให้ภรรยาและลูกหมด อย่างคุณแม่เองก็ดูแลลูกทุกคนอย่างดีมาก เลี้ยงเราอย่างทุ่มเทสุดๆ ทำให้เราเห็นว่าเขาทำให้เราขนาดนี้แล้ว แค่การเป็นลูกที่ดี รับผิดชอบเรื่องการเรียนให้ดี หน้าที่ของเรานั้นมันไม่ได้หนักหนาอะไรเลย ทำไมแค่นี้จะทำตัวเป็นลูกที่เขาภูมิใจไม่ได้ นั่นคือแรงผลักดันที่สำคัญที่สุดของเรา

:: เหตุผลของการเป็น Hermes Addict

ในยามที่ลูกยังเล็ก เรียนในประเทศคุณแม่เพชราก็จะให้การดูแลไปรับไปส่งทุกวัน ดูแลทุ่มเทให้ลูกแบบ 24 ชั่วโมง มีพี่เลี้ยงดูแลแต่ละคนและให้ความสะดวกสบายทุกอย่าง แต่ก็ไม่ได้เลี้ยงในแบบคุณหนูที่ทำอะไรไม่เป็น

“แม่จะเลี้ยงเขาแบบดูแลอย่างดี อย่างตอนเขาเด็กๆ คุณพ่อจะไม่ให้ขึ้นรถโดยสารสาธารณะลย ให้รถไปรับส่งตลอด เพราะเขาเกรงจะอันตราย แต่แม่ก็จะแอบพาไปขึ้นรถเมล์ รถไฟบ้าง ไปลองนั่งให้เขารู้จัก เราให้สิ่งที่ดีที่สุดกับเขา พร้อมสอนให้เขาได้เรียนรู้ชีวิตไปด้วย ไม่ใช่ประคบประหงมซะจนทำอะไรไม่เป็น สอนให้เขารู้จักดูแลตัวเอง รับผิดชอบตัวเอง และลูกทุกคนก็โตมาแบบติดดิน ไม่ได้เป็นเด็กสปอยล์แต่อย่างใด”

พอถึงคราวไปเรียนต่อต่างประเทศ ทุกคนนอกจากจะได้เรียนรู้ชีวิตในการดูแลทุกอย่างด้วยตนเองแล้ว ทางบ้านยังสอนให้รู้จักการใช้เงิน โดยสาวเฟย์เล่าให้ฟังว่า

“แต่ละเทอมคุณพ่อจะให้เป็นงบ 1 ก้อน ให้เราจัดสรรเอง โดยเขาจะดูตามความเหมาะสมของเมืองที่เราอยู่ อย่างค่าครองชีพควรจะเท่าไร ค่าที่พัก ค่าเดินทาง แล้วก็ให้มาแบบไม่ได้เยอะเว่อร์ หรือน้อยจนเราลำบากต้องไปหางานพาร์ตไทม์ เพราะท่านอยากให้เราโฟกัสไปที่เรื่องเรียนเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนก็จะจัดการเอง”

แม่เสริมว่า “พี่ชาย 2 คนกับไข่มุกจะไม่ค่อยใช้ เขาเป็นเด็กประหยัดมาก จนบางครั้งก็มากเกินไป แต่เฟย์กับน้องชายคนเล็กจะอีกสไตล์หนึ่ง เพราะ 2คนนี้ชอบใช้ของคุณภาพดีๆ จะมีพวกแบรนด์เนมหน่อย เขารู้จักใช้ชีวิตมากกว่า(หัวเราะ)”

สาวเฟย์แอบแก้ตัวเบาๆ ว่า “เฟย์ก็เหมือนผู้หญิงทั่วไปแหละ ชอบพวกแฟชั่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า จะหมดไปกับพวกนี้มากหน่อย ส่วนของน้องชายเขาชอบเรื่อง IT ก็จะเสียเงินกับพวก Gadget เยอะกว่าใครเพื่อน”

โดยช่วงหลังนี้ สาวเฟย์กลายเป็น Hermes Addict โดยหลงเสน่ห์ของแบรนด์นี้เข้าอย่างจัง หลังจากลองใช้มาหลากหลายแบรนด์ ตอนนี้เธอยกให้ Kelly และ Berkins เป็นที่ 1 ในใจ การเลือกใช้กระเป๋าแบรนด์หรูที่หลายคนอาจจะมองว่าแพงไร้สาระนี้ สาวเฟย์ให้เหตุผลว่า “เฟย์ไม่ได้มองว่ามันเป็นแค่กระเป๋า ในฐานะนักการเงิน เฟย์มองว่ามันเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง เพราะแต่ก่อนเฟย์ใช้ของหลากหลายแบรนด์มาก แต่ละใบก็ราคาไม่ได้ถูก พอเวลาผ่านไปเราก็รู้สึกเสียดาย จนอยากได้ลิ้นชักโดเรมอน ที่ใส่ของเข้าไปแล้วกลายเป็นเงินออกมาในราคาเดิมที่เราจ่ายไป ซึ่งในชีวิตจริงมันไม่ใช่

เพราะสินค้าแฟชั่นส่วนใหญ่มันจะเสื่อมราคาไปตามกาลเวลา แต่แอร์เมสเป็นข้อยกเว้น เพราะเวลายิ่งผ่านไป ราคาของสินค้าก็ยิ่งสูงขึ้น เฟย์ว่ามันเป็นอะไรที่ลงตัวสำหรับเฟย์มาก เพราะเวลาเราเอาเงินไปลงทุน ซื้อทรัพย์สินอะไร ถ้าอยากให้เพิ่มค่าเราก็ต้องพัฒนามัน อย่างที่ดิน หรือคอนโด มันต้องมีค่าใช้จ่ายในการดูแลทั้งสิ้น และแถมบางอย่างได้แต่ซื้อเก็บไม่ได้ใช้ประโยชน์ รอการขายทำกำไรเฉยๆ แต่กระเป๋าพวกนี้เราได้ซื้อ ได้ใช้ได้มีความสุขกับมัน และแถมเวลาขายยังได้กำไร สำหรับเฟย์มันคุ้มยิ่งกว่าคุ้มอีก”

:: จับมือคนรัก สร้างธุรกิจใหม่

เรียกได้ว่าเธอเป็นนักการเงินแบบเต็มตัว ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดในเรื่องการใช้ชีวิตหรือเรื่องงาน โดยปัจจุบันงานของเธอคือการดูการเงินและบัญชีของธุรกิจทั้งหมดของครอบครัว ทั้งในส่วนของบริษัทมาซูม่า กิจการโรงรับจำนำ รวมไปถึงกิจการส่วนตัวอย่างการนำเข้าน้ำแร่ไอซ์แลนด์ สปริง ที่เธอร่วมหุ้นทำกับหนุ่มคนสนิท อาร์ต-วิทูวัฒน์ อังสนานนท์

“เป็นการแตกไลน์กิจการของเรา จากแต่ก่อนที่ครอบครัวทำแต่เครื่องมือ และระบบเกี่ยวกับน้ำ ตอนนี้เราเพิ่มส่วนของค้าปลีก ขายน้ำดื่มเข้ามาด้วยซึ่งน้ำแร่ที่เฟย์เลือกเข้ามาเพราะเราได้สัมผัสเองโดยตรงว่า มันดีต่อสุขภาพ จากที่พี่ชายคนโตซึ่งมีปัญหาเกี่ยวกับภูมิแพ้ พอได้รับการแนะนำให้ดื่มอย่างต่อเนื่องมันเห็นผลที่ดีขึ้นจริงๆ

ธุรกิจมันเลยเริ่มขึ้นจากที่เราสั่งมาดื่มกันเองในครอบครัว เริ่มขยับขยายให้คนรอบข้าง จนสุดท้ายเราเห็นว่ามันเป็นช่องทางการทำธุรกิจที่ดีมาก เพราะมันช่วยส่งต่อสิ่งดีๆ ให้คนอื่นได้รู้จักด้วย ซึ่งทำมาเกือบ 2 ปี ได้รับการตอบรับที่ดีมาก มีหลายคนที่เข้ามาบอกขอบคุณเราที่นำเข้าน้ำนี้มา เพราะดื่มแล้วสุขภาพเขาดีขึ้นจริง มันทำให้เรายิ่งรู้สึกดี เพราะนั่นคือจุดประสงค์แรกในการทำธุรกิจเราอยู่แล้ว ว่าไม่ใช่แค่มองตัวเลข จ้องแต่รายได้ แต่มันหมือนได้ทำบุญ ได้ช่วยเหลือผู้อื่น มีคนรู้สึกดีขึ้นจากสิ่งที่เราทำ มันมากกว่าเงินกำไร แต่มันคือความสุขในชีวิตด้วย”

ด้านหนุ่มอาร์ต ผู้ดูแลด้านการขายและกลยุทธ์ด้านการตลาดกล่าวเพิ่มเติมว่า “ปัจจุบันนี้เราวางขายในโรงแรม ร้านอาหารและโมเดิร์นเทรดชั้นนำ พร้อมส่งตามบ้าน และที่สำคัญที่นับเป็นความสำเร็จอย่างมากคือการได้วางจำหน่ายใน Mc Cafe ในประเทศไทยซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะได้ร่วมงานกับแบรนด์ระดับโลก โชคดีที่แมคโดนัลด์ เขาหันมาเน้นทางด้านสุขภาพเหมือนกัน เราเลยตอบโจทย์เขาได้พอดี ซึ่งหลังจากนี้เร่งจะขยายไปตลาดต่างประเทศ เพราะเราได้สิทธิ์ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายไอซ์แลนด์ สปริง ทั้งภูมิภาคเอเชีย ยกเว้นที่ญี่ปุ่นกับจีน ผมกำลังจะนำเข้าไปที่สิงคโปร์ก่อนเพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง วางแผนจะลุยตลาดนั้นปีหน้า ตอนนี้ก็เลยต้องทำงานกันหนักหน่อย”

เห็นคู่รักทำธุรกิจร่วมกันแบบนี้ หลายคนอาจจะนึกถึงคำกล่าวที่ว่า อย่านำ Business กับ Relation มาไว้ด้วยกัน แต่สำหรับหนุ่มคนนี้เขาบอกเลยว่า “ผมว่ามันแล้วแต่ Relation นะ อย่างในส่วนของคู่เรา ผมกับเฟย์ช่วยส่งเสริมกันนะ อะไรที่ผมถนัดเขาทำไม่เป็น เขาเก่งในสิ่งที่ผมไม่เก่ง มันเลยสนับสนุนกันทั้งในเรื่องการใช้ชีวิต ความสัมพันธ์ รวมไปถึงเรื่องงาน อย่างผมเข้ามาช่วยลงทุนในธุรกิจของครอบครัวเฟย์ ผมก็เสริมในสิ่งที่เขาขาด ซึ่งเป็นด้านที่ผมเชี่ยวชาญพอดี คือ เรื่องการตลาด การขาย โฆษณา หรือสื่อสารการตลาด”

การก้าวเข้าสู่ธุรกิจเกี่ยวกับน้ำของหนุ่มอาร์ต มีเรื่องน่าแปลกใจอยู่อย่างหนึ่ง คือ มันไปตรงกับคำทักทายของหลวงพ่อที่วัดไทยในอเมริกาที่กล่าวกับคุณอาร์ตเมื่อเขาอายุเพียง 12 ปี “ท่านพูดกับผมว่า คุณต้องใช้ชีวิตอยู่กับน้ำ ผูกพันอยู่กับน้ำ ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่ามันจะไปเกี่ยวได้ยังไง บ้านผมคุณพ่อเป็นตำรวจ และทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร แต่มันจำประโยคนี้ได้ติดหัว พอมาถึงวันนี้ก็เลยต้องบอกว่ามันแม่นอย่างเหลือเชื่อ ผมต้องมาเกี่ยวข้องกับน้ำจริงๆ ด้วย (หัวเราะ)”

เมื่อถามถึงความรักที่ยืนยาวมากว่า 11 ปีนี้ ว่าเมื่อไรคู่แสนน่ารักคู่นี้จะมีข่าวดี ทั้งคู่ตอบพร้อมกันว่า “เราคุยกันตลอดแหละเรื่องนี้ แต่คงต้องรอไปก่อน เพราะยังสนุกกับการทำงาน และเราทำงานกัน 7 วันเต็มแน่นเลย ตอนนี้เราถือเป็นช่วงตั้งต้นธุรกิจ คงต้องรอให้มันอยู่ตัวกว่านี้หน่อย เพราะถ้าแต่งแล้วเราก็อยากให้เวลาชีวิตครอบครัวเต็มที่ แต่ก็คงอีกไม่นานนักหรอก”

เชื่อว่าด้วยความสามารถของทั้งคู่ เป้าหมายธุรกิจที่ตั้งไว้ คงประสบความสำเร็จได้อย่างไม่ยากเย็น และวันนั้นเสียงระฆังวิวาห์ของเจ้าบ่าวสุดหล่อและเจ้าสาวสุดสวยคู่นี้ ก็จะดังกังวาลให้เราได้ร่วมยินดีกัน :: Text by FLASH

>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net
กำลังโหลดความคิดเห็น