xs
xsm
sm
md
lg

“ร้อยตรีมาร์ค”สู้ไหม! “อาโอ๋”เปิดทางแจง 10 วัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (19 พ.ย.55) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหมได้ลงนามคำสั่งดำเนินการถอดยศและเรียกคืนเบี้ยหวัดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุว่าที่ผ่านมาให้เวลานายอภิสิทธิ์ชี้แจงข้อมูล แต่นายอภิสิทธิ์ไม่ได้ดำเนินการชี้แจง ทั้งนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานายอภิสิทธิ์ได้ทำหนังสือส่งถึงพล.อ.อ.สุกำพล เพื่อขอความเป็นธรรม หลังจากนั้นพล.อ.อ.สุกำพล จึงได้ลงนาม ในหนังสือที่ กห. 0201 /1994 ลงวันที่ 16 พ.ย. 2555 เรื่องการดำเนินการกรณีการบรรจุเข้ารับราชการ การขึ้นทะเบียนกองประจำการและการแต่งตั้งยศทหารของร.ต.อภิสิทธิ์ และการให้ความเป็นธรรม
โดยมีเนื้อหาว่า ตามที่นายอภิสิทธิ์ขอให้พิจารณาทบทวนและขอให้คณะกรรมการพิจารณาดำเนินการกรณีการบรรจุเข้ารับราชการ การขึ้นทะเบียนกองประจำการและการแต่งตั้งยศของร.ต.อภิสิทธิ์ รอฟังคำให้การหรือแสดงพยานหลักฐานของนายอภิสิทธิ์ก่อนดำเนินการต่อไป โดยรายละเอียดอ้างถึงนั้น พล.อ.อ.สุกำพล ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า คณะกรรมการได้ให้เวลานายอภิสิทธิ์พอสมควรแก่เหตุแล้ว เนื่องจากคณะกรรมการได้มีหนังสือเมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2555 เชิญนายอภิสิทธิ์มาให้การหรือส่งเอกสารหลักฐานในวันที่ 30 ต.ค. 2555 และหากไม่สะดวกให้นัดเวลามาให้การหรือส่งเอกสารหลักฐานภายในวันที่ 6 พ.ย. โดยไม่ได้กำหนดวัน เวลา แต่อย่างใด แต่นายอภิสิทธิ์ได้อ้างเหตุขอเลื่อนการให้การถึง 2 ครั้ง โดยอ้างว่าไม่ทราบประเด็นที่จะต้องให้การและขอเวลาแสวงหาหลักฐาน เอกสารเพื่อนำส่งต่อคณะกรรมการ รวมถึงการเดินทางไปต่างประเทศนั้น
ซึ่งที่ผ่านมานายอภิสิทธิ์เคยชี้แจงพยานหลักฐานในสภาฯและต่อสาธารณชนหลายครั้ง ว่ามีเอกสารหลักฐานพร้อมชี้แจง เพื่อพิสูจน์ความถูกต้องของตนอยู่แล้ว ดังนั้นการที่คณะกรรมการมิได้เลื่อนกำหนดเวลาออกไป และเห็นว่ามีเอกสารหลักฐาน รวมทั้งพยานบุคคลพร้อมมูลเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ว่านายอภิสิทธิ์ขาดการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้าประจำการโดยมิได้รับการผ่อนผันตามกฎหมาย การบรรจุเข้ารับราชการมิชอบด้วยกฎหมาย การแต่งตั้งเป็นนายทหารสัญญาบัตรที่มียศว่าที่ร.ต.มิชอบด้วยกฎหมายและใช้เอกสารเท็จในการขึ้นทะเบียนกองประจำการนั้นและมีรายงานถึงพล.อ.อ.สุกำพล แล้ว จึงเป็นการดำเนินการที่ชอบด้วยกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่งและแบบทำเนียมทหารของกระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.สุกำพล จึงได้อนุมัติสั่งการให้ดำเนินการตามข้อเสนอของคณะกรรมการและออกคำสั่งปลดนายทหารสัญญาบัตรออกจากราชการ ซึ่งเป็นการดำเนินการอันชอบด้วยกฎหมายเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ในหนังสือคำสั่งดังกล่าวยังระบุต่ออีกว่า เพื่อให้ความเป็นธรรมอีกชั้นหนึ่ง และเป็นไปตามที่นายอภิสิทธิ์ร้องขอ พล.อ.อ.สุกำพลจึงให้โอกาสนายอภิสิทธิ์มาให้ถ้อยคำหรือส่งเอกสารหลักฐานต่อคณะกรรมการ โดยให้เวลานัดหมายวันเวลาที่นายอภิสิทธิ์สะดวกภายใน 10 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือนี้ หากนายอภิสิทธิ์มีเอกสารหลักฐานที่แสดงถึงความถูกต้อง กรณีการเกณฑ์ทหารหรือการผ่อนผัน การบรรจุเข้ารับราชการ การได้รับแต่งตั้งเป็นนายทหารสัญญาบัตร การขึ้นทะเบียนกองประจำการ และหากคณะกรรมการของกระทรวงกลาโหมพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นเอกสารหลักฐานที่ถูกต้องและชอบด้วยกฎหมาย พล.อ.อ.สุกำพลยินดีที่จะพิจารณายกเลิกเพิกถอนคำสั่งปลดนายอภิสิทธิ์ออกจากราชการโดยเร็ว
พล.อ.มล.ประสบชัย เกษมสันต์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงเอกสารร้องขอความเป็นธรรมของ ร.ต.อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในการชี้แจงหลักฐานการเข้ารับราชการทหาร ว่า พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่ากรกระทรวงกลาโหมได้ทำหนังสือตอบรับคำร้องขอความเป็นธรรมของ ร.ต.อภิสิทธิ์ ครั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าผลสอบสวนของคณะกรรมการฯ ที่ออกมาไม่ชอบธรรมหรือไม่เป็นธรรม โดยทุกอย่างต้องดำเนินการไปตามข้อกฎหมายและหลักฐาน แต่เมื่อทาง ร.ต.อภิสิทธิ์ ได้ร้องขอมาก็ต้องให้ความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม ไม่มั่นใจว่า ร.ต.อภิสิทธิ์ จะมาชี้แจงคณะกรรมการฯด้วยตนเองหรือจะส่งเอกสารมาชี้แจง ซึ่งคณะกรรมการฯพร้อมจะพิจารณาเอกสรหลักฐานที่ ร.ต.อภิสิทธิ์ ส่งมาและจะทำการตรวจสอบด้วยว่าเอกสารนั้นเป็นเอกสารอะไร ถูกต้องหรือไม่ เพราะที่ผ่านเห็นแต่เอกสารของ ร.ต.อภิสิทธิ์ ตามสื่อเท่านั้น ไม่มีการส่งเอกสารมาให้ทางกระทรวงกลาโหมเลย
อีกด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา กล่าวภายหลังเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กรณีได้ยื่นคำร้องขอให้กกต.ตรวจสอบคุณสมบัติการเป็นส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หลังกลาโหมมีคำสั่งปลดนายอภิสิทธิ์ ออกจากราชการฐานใช้เอกสารปลอมเข้ารับราชการทหารที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยนายเรืองไกร กล่าวว่า ตนเห็นว่า ข้อเท็จจริงดังกล่าวได้ปรากฏขึ้นแล้ว โดยกระทรวงกลาโหมมีคำสั่งปลดนายอภิสิทธิ์ ดังนั้นเพียงแค่ กกต.ขอเอกสารคำสั่งกระทรวงกลาโหมที่ 1163/2555 ลงวันที่ 8 พ.ย. 2555 ให้ปลดว่าที่ร.ต.อภิสิทธิ์ออกจากราชการมาประกอบการพิจารณา ซึ่งเชื่อว่ากรณีดังกล่าวไม่น่าจะใช้ระยะเวลานานในการสอบสวน เนื่องจากข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติแล้ว จึงต้องการให้ดำเนินการตามมาตรา 91 ของรัฐธรรมนูญโดยเร็ว
ทั้งนี้ หากคิดว่าเอกสารใดยังไม่ชัดเจน ก็ให้กกต.สามารถขอรายงานผลการดำเนินการกรณีการบรรจุเข้ารับราชการการขึ้นทะเบียนกองประจำการและการแต่งตั้งยศทหารของ ร.ต.อภิสิทธิ์ ได้ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งทางกระทรวงกลาโหมได้รายงานชี้แจงตั้งแต่แรกเริ่มจนเรื่องยุติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าการดำเนินการของกกต.ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการที่นายอภิสิทธิ์ไปร้องต่อศาลปกครอง เพราะมองว่าเป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งการยื่นคำร้องต่อศาลปกครองของนายอภิสิทธิ์นั้น ถือว่าเป็นการยื้อเวลา เห็นได้จาก ไม่ได้มีการขอให้ศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉินหรือขอคุ้มครองชั่วคราว เพื่อออกมาตรการบรรเทาทุกข์คุ้มครองชั่วคราว
กำลังโหลดความคิดเห็น