xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

พิศวาสฆาตกรรม(เกย์) รักร่วมเพศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -นับเป็นเหตุโศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญในรอบสัปดาห์ก็ว่าได้ เมื่อในช่วงบ่ายวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา นายพงศ์ภวัต หรือ อาร์ม ชัยชีพ อายุ 21 ปี นักศึกษาม.รามคำแหง บุกไปยังอาคารเรียนม.ราชภัฏสวนดุสิต เพื่อเคลียร์ปัญหาความรักที่ไม่ลงตัวกับ นายไพศาล หรือเบนซ์ ศรีคชา อายุ 20 ปี นักศึกษา ม.ราชภัฏสวนดุสิต ที่อาคารเรียนภายในมหาวิทยาลัยดังกล่าว

แม้จะเริ่มจากการพูดคุยเพื่อหวังปรับความเข้าใจ จูนความสัมพันธ์ที่ระหองระแหงให้กลับมาตรงกันอีกครั้ง แต่สุดท้ายเรื่องกลับต้องจบลงด้วยความเศร้า เมื่อนายพงศ์ภวัต ตัดสินใจจบปัญหาความรักรัก ด้วยการใช้อาวุธปืนขนาด.357 ที่พกมา จ่อยิงศีรษะนายไพศาล 2 นัด จนล้มฟุบลงนอนจมกองเลือด และขาดใจตายในทันที

ขณะที่เจ้าตัวหลังจากได้กลายเป็นมือปืน สังหารชายคนรักด้วยน้ำมือตัวเองแล้ว เพียงไม่กี่ชั่วอึดใจได้ใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันจ่อที่ขมับตัวเอง ก่อนลั่นไกปลิดชีวิตตัวเองตายตามไปในที่สุด ปิดฉากความรักอย่างโหดเหี้ยม เหลือไว้เพียงความประหวั่นพรั่นพรึง และความโศกเศร้าของคนที่อยู่ข้างหลัง

จากการสอบสวนพยานซึ่งเป็นเพื่อนนายไพศาล ผู้ตาย ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุ หลังหมดชั่วโมงเรียนออกมาเพื่อลงลิฟต์ ระหว่างนั้นพบนายพงศ์ภวัต มายืนรออยู่และเรียกนายไพศาลไปยืนคุยกัน ส่วนเพื่อนๆ ลงลิฟต์มาก่อน จากนั้นไม่ได้นานได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด ทุกคนจึงรีบขึ้นมาดูพบนายไพศาลและนายพงศ์ภวัต กลายเป็นศพแล้ว ทั้งนี้ นายไพศาล ได้รู้จักกับนายพงศ์ภวัต มาประมาณ 1 ปี โดยนายพงศ์ภวัต มีรสนิยมชอบไม้ป่าเดียวกัน จนในระยะหลังนายไพศาล มาเล่าว่าพยายามตีตัวออกห่างจากนายพงศ์ภวัต เนื่องจากมีนิสัยบางอย่างไม่ดี และมีพฤติกรรมรุนแรง แสดงออกก้าวร้าวหลายครั้ง

ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ที่เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ได้สอบปากคำว่าที่ร.ต.ไพบูลย์ ศรีคชา บิดาของนายไพศาล ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยพ่อเหยื่อกระสุนเล่าว่า นายพงศ์ภวัต หรืออาร์ม สนิทสนมกับลูกชายประมาณ 1 ปี เคยมาที่บ้าน 2-3 ครั้ง และทราบว่าเคยทะเลาะกันด้วย และสงสัยว่านายพงศ์ภวัต จะคิดกับลูกชายมากกว่าเพื่อน จนเมื่อประมาณ 1 เดือนที่แล้ว ลูกชายบอกว่าอยากจะเลิกคบกับอาร์มแล้วเพราะนิสัยไม่ดี แต่อีกฝ่ายไม่ยอมและเคยบุกมาที่บ้าน และล่าสุดเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้วโทรศัพท์มาข่มขู่ลูกชายและตนด้วย จนต้องไปแจ้งความไว้ที่สน.หลักสอง ทั้งนี้ยืนยันว่าลูกชายไม่ได้เป็นเกย์ และไม่มีพฤติการณ์ รักร่วมเพศ

“จากการสอบปากคำพ่อแม่และเพื่อนๆ พบว่านายพงศ์ภวัต มาติดพันนายไพศาล ต่อมาบิดาของนายไพศาล เห็นว่าไม่เหมาะสมจึงขอให้เลิกคบ ทำให้นายอาร์มไม่พอใจและตามราวีเรื่อยมา สำหรับสาเหตุน่าจะมีแรงจูงใจเนื่องจาก นายอาร์ม คบหากับนายเบนซ์ในลักษณะชู้สาว เแต่นายเบนซ์ไม่เล่นด้วยและพยายามตีตัวออกห่าง นายอาร์มจึงได้ตามมาง้อขอคืนดี แต่ไม่สำเร็จจึงใช้อาวุธปืนของพ่อมาก่อเหตุ” ผบช.น. ระบุ

ขณะที่ นายณรงค์ชัย ธนาคำ น้าชายนายพงศ์ภวัต ระบุว่า ปกติหลานชายมีนิสัยร่าเริง ขี้ใจน้อยและเอาแต่ใจตัวเอง เวลาไม่ได้อะไรดั่งใจจะโวยวาย ไม่ยอมคุยกับใครเป็นวันๆ เพราะเป็นลูกชายคนเดียว ส่วนอาวุธปืนเป็นของ ร.ต.อ.เทพรัตน์ ชัยชีพ รอง สว.ฝ่ายอำนวยการ สภ.เมืองเชียงราย บิดาที่กินยาฆ่าหญ้าเสียชีวิตเมื่อปี 2541 จึงอาศัยและเรียนอยู่ที่ อ.เมืองชียงราย กับมารดาที่ขายอาหารจนเรียนจบ ม.6 โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม อ.เมือง จ.เชียงราย และเข้ามาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง กทม. จนมาทราบว่าได้ก่อเหตุสลดดังกล่าว

อีกรายเมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 พ.ย.นายเอกพล อุดมมาลา อายุ 19 ปี ชาวจ.ร้อยเอ็ด พนักงานจัดสินค้า บริษัทซีพี ออลล์ จำกัด(มหาชน) ก่อเหตุใช้น้ำมันราดจุดไฟเผาทั้งเป็น น.ส.ธัญญารัตน์ ภูธร อายุ 20 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี แฟนสาว เหตุเกิดภายในห้องพักเลขที่ 1321/34 บ้านเอื้ออาทรโครงการลาดกระบัง 2 ย่านลาดกระบัง เป็นเหตุให้น.ส.ธัญญารัตน์ ได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู รพ.จุฬารัตน์ 9 และอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

ส่วนสาเหตุเนื่องจากนายเอกพลโกรธแค้นที่แฟนสาวตีจากไปรักกับชายคนใหม่ หลังก่อเหตุเจ้าตัวได้หลบหนีไป ก่อนที่จะตัดสินใจเดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ สน.จระเข้น้อย ในวันรุ่งขึ้น หลังถูกเจ้าหน้าที่ออกหมายจับ ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

ด้านนายเอกพล อ้างว่า ที่ก่อเหตุนั้นไม่ได้ตั้งใจ แต่ทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ โกรธแค้น เนื่องจากรักน.ส.ธัญญารัตน์ มาก ผู้ใหญ่ก็รับรู้ทั้งสองฝ่าย จนมีความคิดให้ญาติไปสู่ขอหมั้นหมายและแต่งงาน แต่น.ส.ธัญญารัตน์ กลับปันใจไปให้ชายคนอื่น และตนพยายามเคลียร์รักสามเศร้า แต่แฟนสาวยืนยันจะเลิกกับตนไปคบกับนายแอม แฟนใหม่ ยิ่งทำให้เครียดและโกรธมาก จึงไปดักรอที่ห้องแต่ก็ไม่พบ จึงออกตระเวนหากระทั่งไปพบนอนกอดกับผู้ชายคนใหม่ ยิ่งทำให้แค้นหนักไปกว่าเดิมจึงได้ตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว

พ.ต.ท.พญ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล จิตแพทย์กลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติด รพ.ตำรวจ กล่าวถึงมุมมองความรักในวัยรุ่น ว่า เมื่อมีความรักแล้วมีความคิดที่ต้องการเป็นเจ้าของ และเมื่อเกิดความผิดหวังแล้ว แต่ด้วยวุฒิภาวะที่น้อยก็จะมีความโกรธแค้น บางครั้งอาจกลายเป็นเหตุรุนแรงจนถึงการฆาตกรรมกันได้ ซึ่งผู้ปกครองควรเข้าใจในอารมณ์ช่วงวัยของบุตรหลาน และต้องพูดคุยอย่างใกล้ชิดในทุกๆด้าน รวมถึงรับฟังเหตุและผล แม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อย เพื่อให้บุตรหลานรับรู้และเข้าใจว่า เมื่อเกิดปัญหายังมีผู้ปกครองอยู่เคียงข้างเสมอ

“สื่อมีผลต่อพฤติกรรมในการลอกเลียนแบบ ไม่ว่าจะเป็นละครโทรทัศน์ ภาพยนตร์ หรือ จากเวบไซต์ ซึ่งหากกลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้เกิดอารมณ์โกรธชั่ววูบ อาจจะคิดถึงฉากความรุนแรงที่เกิดขึ้น และทำตามได้ ซึ่งทางออกของปัญหานี้ ผู้ปกครองจะต้องแนะนำพูดคุยกับบุตรหลาน เมื่อพบเหตุการณ์ความรุนแรงที่เป็นข่าว หรือจากละครที่ชมด้วยกัน เพื่ออธิบายให้เห็นถึงผลเสียจากการใช้ความรุนแรงนั้นๆ”พ.ต.ท.พญ.อัญชุลี ระบุ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียนให้กับผู้ที่กำลังมีความรัก ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่ในช่วงวัยรุ่น ที่มักจะหุนหันพลันแล่น ตัดสินใจทำอะไรโดยขาดสติยับยั้งชั่งใจ ต้องตระหนักว่าการแก้ไขปัญหาความสัมพันธ์รักที่ไม่ลงตัว หากเลือกที่จะใช้วิธีการที่รุนแรง นอกจากจะไม่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ได้ ซ้ำร้ายยังทำให้คนที่รักเราอย่างพ่อแม่ รวมถึงญาติมิตรต้องมาทนทุกข์เสียใจกับการกระทำที่ขาดความยั้งคิดดังกล่าว

รวมถึงยังเป็นบทเรียนให้กับพ่อแม่ผู้ปกครอง ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ใกล้ชิดวัยรุ่นมากที่สุด ต้องหมั่นสังเกตพฤติกรรมของบุตรหลาน ที่อยู่ในช่วงวัยนี้ ว่า มีปัญหาพฤติกรรมที่ส่อไปในทางที่จะก่อให้เกิดความรุนแรงหรือไม่ และต้องพร้อมที่ให้คำปรึกษาที่ถูกต้อง เพื่อให้ปัญหาความรุนแรงเหล่านี้ไม่เกิดขึ้น

“ความรักเป็นสิ่งสวยงาม...แต่หากรักอย่างไม่มีสติยั้งคิด “ความรัก” จะกลายเป็นหนามพิษทิ่มแทงทั้งคนรักและคนที่ถูกรักเช่นนี้”

เซ่นสังเวย!

“กุหลาบสีรุ้ง”



กำลังโหลดความคิดเห็น