‘นักเรียกแขก’ ทำได้เกินเป้า!

โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์

“ลูกผู้ชายฆ่าได้ หยามไม่ได้” อ่า! “เสธ.อ้าย” ผู้นำองค์การพิทักษ์สยาม ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นจริง เมื่อมวชชนคนทนไม่ได้กับรัฐบาลกังฉินกินเมืองกว่า 3 หมื่นคนพร้อมใจมาร่วมชุมนุมที่สนามม้านางเลิ้ง หลังจากมีคนปรามาสว่าตัวเลขคงเพียงระดับพันต้นๆ

วันก่อน “ชัยสิทธิ์ ชินวัตร” พานายทหารเฒ่าทารก เตรียมทหารชินวัตรรุ่น 5 และ 10 ออกมาหยามน้ำหน้า “เสธ.อ้าย” ว่าไร้น้ำยา ไม่ให้ราคา! แถมยังคุยโวแบบลมๆ แล้งๆ ไร้รากฐานว่า ถ้าพวกตัวเองจะเอามวลชนออกมาบ้าง รับรองมากกว่าแน่

วันนี้เป็นไง? พวกรัฐบาล เสนาบดีกากเดนคุก นักตบทรัพย์ แกนนำเสื้อแดง และ ส.ส. ผีโม่แป้งทาสเงินบักเหลี่ยมร้ายเร่ร่อน ออกอาการกินไม่ได้นอนไม่หลับ ทุรนทุราย เหมือนสุนัขขี้เรื้อนโดนราดด้วยกำมะถัน ส่งเสียงโหยหวน แถเถือกตอแหลหน้าด้านๆ

พูดแนวเดียวกันเดี๊ยะ! โอดครวญว่าบ้านเมืองกำลังไปได้ดี อย่าออกมาชุมนุม จะเสียบรรยาการการท่องเที่ยว การลงทุน ผู้นำประเทศต่างๆ แห่กันเข้ามา แสดงให้เห็นว่าเขายอมรับรัฐบาลแม่นางโพยปูโพรกเน่าใน และการปกครองแบบประชาธิปไตย

มันตะแบงซึ่งหน้า! ถ้าแปลความหมายก็คือพวกสัมภเวสีกังฉินกินเมืองเหล่านี้กำลังบอกว่า “อย่าออกมารบกวนการโกงบ้านกินเมือง พวกกาฝากกากเดนแผ่นดินกำลังสนุกสนานกับการผันเงินจากโครงการรับจำนำข้าว งบจัดการน้ำ เข้ากระเป๋า”

บ้านเมืองมีอะไรดีขึ้น? ตัวเลขเศรษฐกิจชี้ชัดว่าเครือข่ายกังฉินของบักเหลี่ยมร้ายกำลังสาละวนกับการกู้เพื่อโกง เร่งเพิ่มระดับหนี้สิน ถ้าปล่อยไว้บ้านเมืองล้มละลายแน่นอนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ เพราะระดับความหน้าด้านเกินกว่าประมาณการได้

ใกล้วันชุมนุม 24 พฤจิกายน ความกระวนกระวายของพวกทาสเงินเหลี่ยมร้าย ความหวาดผวากลัวสูญเสียอำนาจถึงขั้นไร้แผ่นดินเพิ่มดีกรีทุกวัน ฝ่ายความมั่นคงเริ่มกังวลว่าจำนวนมวลชนครั้งนี้จะมากเกินกว่ารัฐบาลแม่นางโพยจะ “เอาอยู่” หรือไม่

ไม่กี่วันก่อน ตัวเลขถูกคาดว่าจะเป็นเพียงหลักหมื่นปลายๆ มากกว่าวันชุมนุมสนามม้าเท่าตัว! บัดนี้เริ่มพูดกันแล้วว่า “หลักแสนไม่ยาก แล้วแต่ว่าจะมากกี่แสน”

จะไม่ให้ถึงได้ไง แต่ละวันมีแต่พวกเก่งแต่ปากในรัฐบาลปูโพรกออกมาส่งเสียง เรียกแขกให้เข้าไปร่วมชุมนุมกับ “เสธ.อ้าย” ทั้งนั้น! “บักสิงห์เหลิม” บอกว่าจะระดมตำรวจ 5 หมื่นนายไปดูแลการชุมนุมไม่ให้เกิดการเผชิญหน้า นำไปสู่ความรุนแรง

จากฉายา “เหลิม โรงน้ำแข็ง” “เหลิม เลี้ยงแกะ” ขยายผลเป็น “เหลิม เรียกแขก” แล้ว! ตำรวจทั่วประเทศมีเพียง 2 แสนกว่า จะเอามาจากไหนถึง 5 หมื่น! เพียงแค่ตัวเลขก็มองออกได้ว่ามวลชนจะออกมาระดับแสน! คราวนี้ “บักสิงห์เหลิม” เหมือนรู้ชะตา

คงกลัวว่าตัวเลขจะไม่ถึงล้าน “บักสิงห์เหลิม” เรียกแขกอีกรอบ พูดเรื่อง “มือที่ 3” และ 85 กลุ่มส่งเงินช่วยม็อบ “เสธ.อ้าย” มีทั้งนายบ่อน พ่อค้าหวยเถื่อน กลุ่มรายย่อย! ผบ.ตร. อดุลย์ อ้างว่ามีนายทุนรายใหญ่ทุ่มเงิน 6 พันล้านบาท หวังล้มรัฐบาลให้ได้

มีปัญหาอะไร ถ้ามีหลายกลุ่มลงขันสนับสนุนการชุมนุมของมวลชนขับไล่รัฐบาลเฮงซวยโกงกินคำโต? รัฐธรรมนูญและหลักการประชาธิปไตยก็ให้อำนาจปวงชนว่าทำได้ ถ้าเป็นไปโดยสงบเรียบร้อย ปราศจากอาวุธ ไม่ใช้ความรุนแรง ปิดล้อมสถานที่ราชการ

ถ้ามวลชนทั้งประเทศนิ่งเฉย ไม่รู้สึกรู้สา ปล่อยให้นักการเมืองกังฉินสุมหัวกินเมืองสบายๆ นั่นแหละผิดปกติ แสดงให้เห็นว่าเป็นสังคมรัฐล้มเหลว ไร้จิตสำนึก!

แต่ในบรรดานักเรียกแขก ใครก็สู้ “บักปลอดประสบการณ์” เจ้าเก่าไม่ได้! หลังจากหลุดจากเก้าอี้รัฐมนตรีวิทยาศาสตร์ โดนโยกมานั่งเก้าอี้รองนายกฯ นอนเลียแผลจนเกือบแห้ง จึงโผล่หน้ามาสร้างราคาด้วยมาดกร่างสุดโต่ง ราดน้ำมันเข้ากองไฟ

“ผมอยากฝากเตือนคนเหล่านั้นว่า คุณอยากจะดังหรืออย่างไร หรือถ้าคุณคิดอยากจะดังอย่างนี้จริงๆ คุณต้องเข้าป่าและหาเหวสักแห่ง แล้วก็ประกาศประเทศของท่านเอง แล้วก็ปิด จะอยู่แบบลิงแบบค่าง แบบมดแบบปลวกก็ว่าไปเลย แต่กรุณาอย่ามายุ่งกับประเทศไทยและกรุงเทพมหานคร ผมว่าเรื่องนี้น่ารังเกียจและน่าขยะแขยง เวลากินข้าวผมต้องปิดทีวี เพราะกลัวว่าเวลาเห็นหน้าแล้วจะกินข้าวไม่ลง”

นี่เป็นคำพูดแบบนักการเมืองยโส อหังการ ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ไม่ส่องกระจกดูว่าเงาหัวตัวเองยังอยู่หรือเปล่า! คนพูดแบบนี้เก็บกระเป๋าหนีตายแทบไม่ทันไปขึ้นเครื่องบินมาเยอะแล้ว! “บักปลอด” ลืมแล้วว่าได้สร้างกรรม วีรเวร อะไรให้บ้านเมือง

หน่วยราชการเร่งสั่งให้เจ้าหน้าที่ต่างจังหวัดสกัดกั้นม็อบ! ผู้ว่าฯ นายอำเภอ วิ่งแทบขาขวิด! นักกฎหมายผีโม่แป้ง ทนายโจร แข่งกันสร้างราคาด้วยการร้องเรียน คงรู้ตัวดีว่าถ้าอำนาจเปลี่ยนขั้ว พวกยังรวยไม่พอ ทั้งแกนนำเสื้อแดงจะลำบากอดอยาก ติดคุก

ล่าสุดแม่นางโพยปูโพรกเน่าในไปเดินแอ่นระแน้ เด้งหน้าเด้งหลัง จ้อให้ฝรั่งอังกฤษฟัง คุยฟุ้ง โชว์ความอยากเป็นทรราชเอ๋อแอ๊บแบ๊ว เมื่อพูดเรื่องม็อบไล่รัฐบาล

“รัฐบาลจะดำเนินการกับอำนาจที่ต่อต้านประชาธิปไตยที่ยังมีอยู่ในประเทศไทย เพราะความมั่นคงทางการเมืองเป็นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการลงทุนและการเติบโตทางเศรษฐกิจ และรัฐบาลจะเดินหน้าส่งเสริมการปรองดองบนพื้นฐานนิติรัฐ และการเจรจาระหว่างทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ข้อขัดแย้งทางการเมืองจะต้องแก้ปัญหาในรัฐสภา ไม่ใช่การประท้วงบนถนนและมีความรุนแรง”

ถามหน่อยเถอะ! ข้อความที่คนเขียนให้อ่าน เข้าใจบ้างสักกี่คำ? แม่นางปูโพรกไปเมืองนอกแต่ละครั้ง ชาวบ้านหายใจไม่ทั่วท้อง กลัวตัวโง่หลุดจากปาก! ตัวเองก็ใส่เสื้อแดงไปร่วมชุมนุมกับพวกกากเดนแผ่นดินขึ้นเวทีก่อนปล้นร้านค้า เผาบ้านเผาเมือง

นี่เป็นเหมือนสิ่งบอกเหตุ เป็นชะตากรรมที่ห้ามไม่ได้! อาการร้อนรนกระวนกระวายของเครือข่ายขบวนการบักเหลี่ยมร้ายเร่ร่อนเท่ากับตอกย้ำให้เห็นลางสังหรณ์! รอดูครอบครัวตระกูลโกงทั้งโคตรว่าจะหนีไปตั้งหลักต่างประเทศก่อนวันชุมนุมหรือไม่

แต่ละวัน “เสธ.อ้าย” ออกมาพูดเขย่าขวัญ ทำเอานักการเมืองทาสเงินบักเหลี่ยมปอดลอย! ขบวนการเสื้อแดงต้องนิ่ง รอจังหวะว่าจะออกมาเผชิญหน้าเมื่อไหร่ นั่นจะเป็นวาระพิสูจน์ว่าม็อบจ้างเสื้อแดง กับม็อบจริงของเสธ.อ้าย ฝ่ายใดจะเป็นของแท้

ย้ำอีกครั้ง! เป็นหน้าที่ของคนรักชาติห่วงบ้านเมืองต้องมีส่วนร่วม ทั้งสนับสนุนในรูปแบบต่างๆ และออกไปร่วมขับไล่นักการเมืองกังฉินขายชาติให้พ้นจากอำนาจ!

การแสดงออกถึงความรักชาติย่อมไม่มีเงื่อนไข เงื่อนเวลา! อย่าให้คนชั่วดูหมิ่น!