พังงา - ชาวประมงลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา รวมตัวนำรถห้องเย็นปิดถนนเพชรเกษมสาย อ.ตะกั่วป่า-จ.ภูเก็ต พร้อมนำเรือประมงกว่า 100 ลำ ปิดปากอ่าวเส้นทางเดินเรือ เรียกร้องให้ทหารเรือตรวจค้นเรือประมงทุกลำในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบเท่าเทียมกัน อย่าเลือกปฏิบัติ ผู้ว่าฯ ลงรับเรื่องยอมสลายตัวแล้ว
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 14 พ.ย.55 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณร่องทะเลทางเดินเรือเข้าออกบ้านทับละมุ หมู่ที่ 5 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เรือประมงจำนวนกว่า 100 ลำ ได้เข้าจอดเรือเรียงบริเวณปากอ่าวมะขาม ระหว่างเขาหน้ายักษ์-ฐานทัพเรือพังงา ซึ่งเป็นทางเดินเรือสู่ทะเลอันดามัน ทำให้เรือไม่สามารถเข้าออกได้ ร่วมทั้งนำรถห้องเย็นมาปิดถนนเพชรเกษม สายตะกั่วป่า-ท้ายเหมือง บริเวณแยกฐานทัพเรือพังงาด้วย เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากทางจังหวัดพังงา หลังจากชาวประมงบ้านทับละมุ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ถูกทางทหารเรือฐานทัพเรือพังงา สังกัดทัพเรือภาค 3 เข้าจับกุมเรือประมงในขณะออกสู่ทะเลเพื่อหาสัตว์น้ำในทะเลอันดามัน จำนวน 4 ลำ พร้อมแรงงานต่างด้าวทั้งที่มีใบอนุญาต และไม่มีใบอนุญาต จำนวน 94 คน
ซึ่งการจับกุมดังกล่าว สร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้ประกอบการประมงในพื้นที่เป็นอย่างมาก จนมีการนำเรือประมงกว่า 100 ลำ เข้าปิดปากอ่าวมะขามเส้นทางเดินเรือนำเที่ยว และเรือประมง นอกจากนี้ บนถนนรถยนต์ทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้ อีกส่งผลให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากได้รับผลกระทบเดินทางไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินภูเก็ตไม่ทัน
ต่อมา ทางนายขันตี ศิลปะ ปลัดจังหวัดพังงา ได้เข้าพูดคุยกับทางแกนนำชาวบ้านเพื่อขอให้เปิดเส้นทางสัญจรไปมาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งทางแกนนำได้ยืนกรานที่จะยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา และนายทหารสังกัดทัพเรือภาค 3 พร้อมยื่นข้อเสนอให้ดำเนินการจับกุมตรวจค้นเรือทุกลำในพื้นที่รับผิดชอบของทัพเรือภาค 3 ทั้ง 6 จังหวัดให้ปรากฏชัดเป็นรูปธรรมภายในกำหนดระยะเวลา 3 วัน ซึ่งหากเกินจากนี้จะถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่
โดยนายขันตี ศิลปะ ปลัดจังหวัดพังงา ได้ประสานทางผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา และผู้บัญชาการทัพเรือภาค 3 เพื่อเข้ามาดำเนินการรับเรื่องเรียกร้องจากชาวบ้านด้วยตนเอง เพราะเหตุการณ์ยิ่งบานปลาย และส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่พักอาศัยในพื้นที่เขาหลัก ตะกั่วป่า
จนกระทั่งเลา 17.00 น.วันเดียวกัน กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทำการสลายตัว หลังจากนายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ได้รับหนังสือจากแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกร้องให้ทางทหารทัพเรือภาค 3 ทำการจับกุม และตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายใน 6 จังหวัดให้เท่าเทียมกัน โดยระบุว่า ไม่ใช่เลือกปฏิบัติแต่ท่าเรือทับละมุเพียงแห่งเดียว พร้อมกับให้ทางจังหวัดพังงาดำเนินการภายใน 3 วัน เมื่อชาวบ้านได้ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา และทางผู้บัญชาการฐานทัพเรือพังงาเสร็จสิ้นจึงได้รับฟังคำกล่าวของผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาพร้อมเป็นที่พอใจ และสลายการชุมนุมทำให้รถยนต์ที่สัญจรไปมาระหว่างเส้นทางท้ายเหมือง-ตะกั่วป่า ได้ผ่านไปมาได้อีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งทางนายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ได้รับเรื่องพร้อมให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากได้เข้าพูดคุยกับทางกลุ่มผู้ชุมนุมพบว่า มีความต้องการให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้ที่กระทำผิด โดยเฉพาะเรื่องแรงงานต่างด้าวที่ปัจจุบันมีการโยกย้ายแรงงานต่างด้าวเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นเส้นทางสัญจรสายน้ำเข้าออกแหล่งทำมาหากินของชาวบ้าน เรื่องนี้ทางจังหวัดพังงาเร่งทำหนังสือเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการประชุมภายในวันศุกร์นี้
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 14 พ.ย.55 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณร่องทะเลทางเดินเรือเข้าออกบ้านทับละมุ หมู่ที่ 5 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เรือประมงจำนวนกว่า 100 ลำ ได้เข้าจอดเรือเรียงบริเวณปากอ่าวมะขาม ระหว่างเขาหน้ายักษ์-ฐานทัพเรือพังงา ซึ่งเป็นทางเดินเรือสู่ทะเลอันดามัน ทำให้เรือไม่สามารถเข้าออกได้ ร่วมทั้งนำรถห้องเย็นมาปิดถนนเพชรเกษม สายตะกั่วป่า-ท้ายเหมือง บริเวณแยกฐานทัพเรือพังงาด้วย เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากทางจังหวัดพังงา หลังจากชาวประมงบ้านทับละมุ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ถูกทางทหารเรือฐานทัพเรือพังงา สังกัดทัพเรือภาค 3 เข้าจับกุมเรือประมงในขณะออกสู่ทะเลเพื่อหาสัตว์น้ำในทะเลอันดามัน จำนวน 4 ลำ พร้อมแรงงานต่างด้าวทั้งที่มีใบอนุญาต และไม่มีใบอนุญาต จำนวน 94 คน
ซึ่งการจับกุมดังกล่าว สร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้ประกอบการประมงในพื้นที่เป็นอย่างมาก จนมีการนำเรือประมงกว่า 100 ลำ เข้าปิดปากอ่าวมะขามเส้นทางเดินเรือนำเที่ยว และเรือประมง นอกจากนี้ บนถนนรถยนต์ทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้ อีกส่งผลให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากได้รับผลกระทบเดินทางไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินภูเก็ตไม่ทัน
ต่อมา ทางนายขันตี ศิลปะ ปลัดจังหวัดพังงา ได้เข้าพูดคุยกับทางแกนนำชาวบ้านเพื่อขอให้เปิดเส้นทางสัญจรไปมาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งทางแกนนำได้ยืนกรานที่จะยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา และนายทหารสังกัดทัพเรือภาค 3 พร้อมยื่นข้อเสนอให้ดำเนินการจับกุมตรวจค้นเรือทุกลำในพื้นที่รับผิดชอบของทัพเรือภาค 3 ทั้ง 6 จังหวัดให้ปรากฏชัดเป็นรูปธรรมภายในกำหนดระยะเวลา 3 วัน ซึ่งหากเกินจากนี้จะถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่
โดยนายขันตี ศิลปะ ปลัดจังหวัดพังงา ได้ประสานทางผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา และผู้บัญชาการทัพเรือภาค 3 เพื่อเข้ามาดำเนินการรับเรื่องเรียกร้องจากชาวบ้านด้วยตนเอง เพราะเหตุการณ์ยิ่งบานปลาย และส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่พักอาศัยในพื้นที่เขาหลัก ตะกั่วป่า
จนกระทั่งเลา 17.00 น.วันเดียวกัน กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทำการสลายตัว หลังจากนายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ได้รับหนังสือจากแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกร้องให้ทางทหารทัพเรือภาค 3 ทำการจับกุม และตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายใน 6 จังหวัดให้เท่าเทียมกัน โดยระบุว่า ไม่ใช่เลือกปฏิบัติแต่ท่าเรือทับละมุเพียงแห่งเดียว พร้อมกับให้ทางจังหวัดพังงาดำเนินการภายใน 3 วัน เมื่อชาวบ้านได้ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา และทางผู้บัญชาการฐานทัพเรือพังงาเสร็จสิ้นจึงได้รับฟังคำกล่าวของผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาพร้อมเป็นที่พอใจ และสลายการชุมนุมทำให้รถยนต์ที่สัญจรไปมาระหว่างเส้นทางท้ายเหมือง-ตะกั่วป่า ได้ผ่านไปมาได้อีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งทางนายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ได้รับเรื่องพร้อมให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากได้เข้าพูดคุยกับทางกลุ่มผู้ชุมนุมพบว่า มีความต้องการให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้ที่กระทำผิด โดยเฉพาะเรื่องแรงงานต่างด้าวที่ปัจจุบันมีการโยกย้ายแรงงานต่างด้าวเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นเส้นทางสัญจรสายน้ำเข้าออกแหล่งทำมาหากินของชาวบ้าน เรื่องนี้ทางจังหวัดพังงาเร่งทำหนังสือเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการประชุมภายในวันศุกร์นี้
