ASTVผู้จัดการรายวัน - ขุนพล "อัซซูรี" สร้างปาฏิหาริย์คัมแบ็กจากตามหลัง 0-3 กลับมาต่อเวลาเฉือน "ฝอยทอง" ไปได้สุดมัน 4-3 ลิ่วตัดเชือกศึกฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 ขณะที่ "แซมบ้า" ต่ออายุป้องแชมป์พลิกกลับมาเฉือน อาร์เจนตินา 3-2
ฟุตซอลโลก 2012 รอบก่อนรองชนะเลิศ ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ อิตาลี ทีมอันดับ 3 ของโลกดวลแข้ง โปรตุเกส ทีมอันดับ 5 โดย "อัซซูรี" นำมาโดย มาร์ซิโอ ฟอร์เต กัปตันทีม และซาอัด อาสซิส ที่กระทุ้งไป 6 ตุง ขณะที่ "ฝอยทอง" ฝากความหวังไว้ที่ ริคาร์ดินโญ กับ คาร์ดินัล ที่ซัดรวมกันไปแล้ว 7 ประตู
เริ่มเกมได้เพียงนาทีเศษ โปรตุเกส ก็ออกนำ 1-0 จาก ริคาร์ดินโญ กองกลางตัวเก่ง ถัดมาอีกห้านาทีสกอร์ไหลเป็น 2-0 อาร์นัลโด ซัดไปติดเซฟ สเตฟาโน มัมมาร์เรลลา นายทวารอิตาเลียนตั้งให้ ริคาร์ดินโญ กระโดดตีลังกายิงเข้าไปอย่างงดงาม จากนั้นเกมเป็นของ "ฝอยทอง" อย่างสิ้นเชิงมาทิ้งห่าง 3-0 ก่อนจบครึ่งแรกจากการยิงไกลเป็นแฮตทริกของ ริคาร์ดินโญ
อย่างไรก็ดี ครึ่งหลัง อิตาลี เริ่มมีความหวังตีไข่แตกไล่มาจากจุดโทษของ อาสซิส โดยแข้งโปรตุกีสมีโอกาสทิ้งห่างแต่ทำไม่สำเร็จ ทำให้ "อัซซูรี" ไล่กวดเหลือ 2-3 ช่วงสามนาทีสุดท้ายจาก กาเบรียล ลิมา ก่อนที่ท้ายเกม อิตาลี สร้างปาฏิหาริย์ตามตีเสมอ 3-3 จากลูกยิงจ่อๆ ของ โรดอลโฟ ฟอร์ติโน ทำให้ต้องต่อเวลาออกไป ซึ่งปรากฏว่า ทิศทางของเกมกลับมาเข้าทาง อิตาลี ก่อนได้ประตูแซง 4-3 จาก ฮุมแบร์โต โฮโรนิโอ กองหน้าสำรองที่ลงมาเป็นซูเปอร์ซับ จบเกม "อัซซูรี" พลิกแซงทะลุสู่รอบรองชนะเลิศสำเร็จ
ส่วนผลรอบ 8 ทีมสุดท้ายอีกคู่หนึ่งที่น่าสนใจไป "แชมป์เก่า" บราซิล เอาตัวรอดได้หวุดหวิดเช่นกัน ต่อเวลาพลิกสถานการณ์กลับมาล้ม "ฟ้าขาว" อาร์เจนตินา 3-2 โดยเกมที่อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก โดยเป็นแข้งอาร์เจนไตน์ เน้นเกมรับหาจังหวะสวนกลับได้ถึง 2 ประตูจาก มักซิมิเลียโน เรสชา และคริสเตียน บอร์รูโต เมื่อจบครึ่งแรก แต่ครึ่งหลัง บราซิล ตีไข่แตกไล่มาจาก เนโต ก่อนที่ ฟัลเกา สวมบทซูเปอร์ซับตีเสมอ 2-2 จนต้องต่อเวลาพิเศษ และก็เป็น ฟัลเกา ซัดบอลเรียดเสียบเสาเป็นประตูชัยให้ "แซมบ้า" คว้าชัย 3-2 เข้าตัดเชือก โคลัมเบีย อีกหนึ่งเพื่อนร่วมทวีปที่ปราบ ยูเครน ลงได้ 3-1
ฟุตซอลโลก 2012 รอบก่อนรองชนะเลิศ ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ อิตาลี ทีมอันดับ 3 ของโลกดวลแข้ง โปรตุเกส ทีมอันดับ 5 โดย "อัซซูรี" นำมาโดย มาร์ซิโอ ฟอร์เต กัปตันทีม และซาอัด อาสซิส ที่กระทุ้งไป 6 ตุง ขณะที่ "ฝอยทอง" ฝากความหวังไว้ที่ ริคาร์ดินโญ กับ คาร์ดินัล ที่ซัดรวมกันไปแล้ว 7 ประตู
เริ่มเกมได้เพียงนาทีเศษ โปรตุเกส ก็ออกนำ 1-0 จาก ริคาร์ดินโญ กองกลางตัวเก่ง ถัดมาอีกห้านาทีสกอร์ไหลเป็น 2-0 อาร์นัลโด ซัดไปติดเซฟ สเตฟาโน มัมมาร์เรลลา นายทวารอิตาเลียนตั้งให้ ริคาร์ดินโญ กระโดดตีลังกายิงเข้าไปอย่างงดงาม จากนั้นเกมเป็นของ "ฝอยทอง" อย่างสิ้นเชิงมาทิ้งห่าง 3-0 ก่อนจบครึ่งแรกจากการยิงไกลเป็นแฮตทริกของ ริคาร์ดินโญ
อย่างไรก็ดี ครึ่งหลัง อิตาลี เริ่มมีความหวังตีไข่แตกไล่มาจากจุดโทษของ อาสซิส โดยแข้งโปรตุกีสมีโอกาสทิ้งห่างแต่ทำไม่สำเร็จ ทำให้ "อัซซูรี" ไล่กวดเหลือ 2-3 ช่วงสามนาทีสุดท้ายจาก กาเบรียล ลิมา ก่อนที่ท้ายเกม อิตาลี สร้างปาฏิหาริย์ตามตีเสมอ 3-3 จากลูกยิงจ่อๆ ของ โรดอลโฟ ฟอร์ติโน ทำให้ต้องต่อเวลาออกไป ซึ่งปรากฏว่า ทิศทางของเกมกลับมาเข้าทาง อิตาลี ก่อนได้ประตูแซง 4-3 จาก ฮุมแบร์โต โฮโรนิโอ กองหน้าสำรองที่ลงมาเป็นซูเปอร์ซับ จบเกม "อัซซูรี" พลิกแซงทะลุสู่รอบรองชนะเลิศสำเร็จ
ส่วนผลรอบ 8 ทีมสุดท้ายอีกคู่หนึ่งที่น่าสนใจไป "แชมป์เก่า" บราซิล เอาตัวรอดได้หวุดหวิดเช่นกัน ต่อเวลาพลิกสถานการณ์กลับมาล้ม "ฟ้าขาว" อาร์เจนตินา 3-2 โดยเกมที่อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก โดยเป็นแข้งอาร์เจนไตน์ เน้นเกมรับหาจังหวะสวนกลับได้ถึง 2 ประตูจาก มักซิมิเลียโน เรสชา และคริสเตียน บอร์รูโต เมื่อจบครึ่งแรก แต่ครึ่งหลัง บราซิล ตีไข่แตกไล่มาจาก เนโต ก่อนที่ ฟัลเกา สวมบทซูเปอร์ซับตีเสมอ 2-2 จนต้องต่อเวลาพิเศษ และก็เป็น ฟัลเกา ซัดบอลเรียดเสียบเสาเป็นประตูชัยให้ "แซมบ้า" คว้าชัย 3-2 เข้าตัดเชือก โคลัมเบีย อีกหนึ่งเพื่อนร่วมทวีปที่ปราบ ยูเครน ลงได้ 3-1
