วานนี้(12 พ.ย.55)นพ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า นายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน มีกำหนดการเดินทางเยือนประเทศไทย ในวันที่ 21 พ.ย. ซึ่ง ทีมรักษาความปลอดภัยที่เป็นส่วนล่วงหน้าของผู้นำจีนได้เดินทางมาตรวจดูความเรียบร้อยเรื่องการรักษาความปลอดภัยเส้นทางเข้า-ออก และเส้นทางจราจร ที่ทำเนียบรัฐบาล
รายงานข่าวแจ้งว่า อาจมีวาระเรื่องการขายข้าวแบบจีทูจีด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะนายกฯ ที่เดินทางไปประทศอังกฤษ มีนายโอฬารไชยประวัติ ประธานผู้แทนการค้าไทย ใช้โอกาสนำคณะภาคธุรกิจเยือน โดยเชิญชวน 1,500 ร้านค้า กลางกรุงลอนดอน เพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์ “ข้าวคุณภาพไทย” ขยายลู่ทางตลาดใหม่ “ยุโรป-แอฟฟริกา-ตะวันออกกลาง” วางเป้าหมาย 5 ปี ปริมาณการส่งออกข้าว “หอมมะลิ” เพิ่ม 4 ล้านตัน”
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทาง Blue Sky Channel ถึงกรณีที่กรรมาธิการเกษตรขององค์การการค้าโลก(WTO) ขอให้รัฐบาลไทยชี้แจงเรื่องนโยบายจำนำข้าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้แปลกใจ เพราะว่าได้ชี้ให้เห็นมาตั้งแต่ต้นว่า เมื่อถึงวันหนึ่งก็ต้องมีการถูกกลับไปชี้แจง ซึ่งสิ่งที่เขาจะดูคือ การขายข้าวกับต้นทุนข้าวที่จะส่งออกไปมีการอุดหนุนหรือไม่ เนื่องจากหากมีการอุดหนุนเรื่องราคาก็จะเข้าอยู่ในกรอบของWTO ว่าทำได้ปริมาณเท่าไหร่ต่อปี และหากประเทศไหนมองว่าไทยส่งสินค้าออกไปในราคาที่ต่ำกว่าทุน มีการอุดหนุน เขาก็เลือกที่จะตอบโต้ทางการค้ากับเราได้ จึงถือเป็นความเสี่ยงอีกอย่างจากนโยบายนี้
รายงานข่าวแจ้งว่า อาจมีวาระเรื่องการขายข้าวแบบจีทูจีด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะนายกฯ ที่เดินทางไปประทศอังกฤษ มีนายโอฬารไชยประวัติ ประธานผู้แทนการค้าไทย ใช้โอกาสนำคณะภาคธุรกิจเยือน โดยเชิญชวน 1,500 ร้านค้า กลางกรุงลอนดอน เพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์ “ข้าวคุณภาพไทย” ขยายลู่ทางตลาดใหม่ “ยุโรป-แอฟฟริกา-ตะวันออกกลาง” วางเป้าหมาย 5 ปี ปริมาณการส่งออกข้าว “หอมมะลิ” เพิ่ม 4 ล้านตัน”
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทาง Blue Sky Channel ถึงกรณีที่กรรมาธิการเกษตรขององค์การการค้าโลก(WTO) ขอให้รัฐบาลไทยชี้แจงเรื่องนโยบายจำนำข้าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้แปลกใจ เพราะว่าได้ชี้ให้เห็นมาตั้งแต่ต้นว่า เมื่อถึงวันหนึ่งก็ต้องมีการถูกกลับไปชี้แจง ซึ่งสิ่งที่เขาจะดูคือ การขายข้าวกับต้นทุนข้าวที่จะส่งออกไปมีการอุดหนุนหรือไม่ เนื่องจากหากมีการอุดหนุนเรื่องราคาก็จะเข้าอยู่ในกรอบของWTO ว่าทำได้ปริมาณเท่าไหร่ต่อปี และหากประเทศไหนมองว่าไทยส่งสินค้าออกไปในราคาที่ต่ำกว่าทุน มีการอุดหนุน เขาก็เลือกที่จะตอบโต้ทางการค้ากับเราได้ จึงถือเป็นความเสี่ยงอีกอย่างจากนโยบายนี้
